ในชีวิตของเรา การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องเกิดจากคำพูดหรือการตำหนิ แต่เกิดจากการยอมรับในสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น ความไม่เที่ยงและการแก่ชรา การเข้าใจสิ่งเหล่านี้อย่างลึกซึ้งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในตัวเองอย่างแท้จริง
มีนิทานเซนเรื่องหนึ่งที่เล่าถึงอาจารย์เรียวกัง นักบวชเซนผู้มีความเมตตาและสติในการดำเนินชีวิต เรื่องนี้สะท้อนถึงการปฏิรูปที่แท้จริงผ่านการกระทำที่เต็มไปด้วยความเข้าใจและเมตตา กับนิทานเซนเรื่องการปฏิรูปที่แท้จริง

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องการปฏิรูปที่แท้จริง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ วัดแห่งหนึ่งท่ามกลางป่าเขาเขตหนาว ณ ฮอกไกโด อาจารย์เรียวกัง (Ryokan) นักบวชเซนที่ทุ่มเทชีวิตในการศึกษาเซน
วันหนึ่งเขาได้รับข่าวจากญาติ ๆ ว่าหลานชาย ของเขาใช้เงินไปกับนางบำเรอ แม้ญาติ ๆ จะเตือนหลายครั้งแล้ว แต่หลานชายก็ยังคงใช้จ่ายอย่างไม่รู้จักพอ ซึ่งการกระทำนี้ทำให้ทรัพย์สินของครอบครัว กำลังจะสูญหายไป
ญาติ ๆ จึงรวบรวมกันและกล่าวกับเรียวกังว่า “ท่านอาจารย์เรียวกัง เราต้องการให้ท่านช่วยหลานชายของท่าน เขากำลังทำให้ทรัพย์สินของครอบครัวเราหมดไปอย่างรวดเร็ว”
อาจารย์เรียวกังฟังเงียบ ๆ แล้วตอบว่า “ดี เราจะไปหาหลานชายของข้าและพูดคุยกับเขา”
อาจารย์เรียวกังตัดสินใจเดินทางไกลเพื่อไปพบหลานชาย ซึ่งหลายปีเขายังไม่ได้พบกับเขา
เมื่อเรียวกังเดินทางไปถึงบ้านของหลานชาย เขาได้รับการต้อนรับด้วยความอบอุ่นจากหลานชายที่ดีใจที่ได้พบอีกรอบ หลานชายเชิญเรียวกังให้พักที่บ้านของเขาคืนหนึ่ง
ในคืนที่อาจารย์เรียวกังอยู่ที่บ้านของหลานชาย เขานั่งสมาธิอย่างเงียบสงบ ทั้งคืนไม่มีการพูดคุยระหว่างกัน หลานชายเห็นเรียวกังนั่งสมาธิอย่างตั้งใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เช้าวันถัดมา ก่อนที่อาจารย์เรียวกังจะจากไป เขาหันไปหาหลานชายและกล่าวว่า “ข้าคงเริ่มแก่แล้ว มือข้าเริ่มสั่น ช่วยผูกเชือกรองเท้าข้าวให้ข้าหน่อย”
หลานชายยิ้มและตอบว่า “แน่นอนครับ อา” และช่วยผูกเชือกรองเท้าให้เรียวกัง
อาจารย์เรียวกังพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นว่า “ขอบใจเจ้ามาก เจ้าดูสิ วันเวลาผ่านไป คนเราเริ่มแก่ลงทุกวัน พยายามดูแลตัวเองให้ดีนะ”
จากนั้นอาจารย์เรียวกังก็เดินทางออกไป โดยไม่ได้กล่าวถึงนางบำเรอหรือเรื่องการร้องขอจากญาติ ๆ อะไรเลย

ในเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่อาจารย์เรียวกัง ได้เดินทางกลับไป หลานชายรู้สึกถึงการกระทำของอาของเขาอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะคำพูดที่เรียวกังฝากไว้ก่อนจะจากไป
หลานชายเดินไปที่ห้องของเรียวกังและพูดกับตัวเองว่า “ท่านอาเรียวกังไม่ได้พูดถึงเรื่องนางบำเรอเลย แต่ท่านกลับสอนข้าด้วยการกระทำแทนคำพูด ข้าช่วยท่านผูกเชือกรองเท้าเพียงแค่คำขอจากท่าน แต่คำพูดของท่านกลับทำให้ข้าตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลตัวเอง”
หลานชายเริ่มคิดถึงชีวิตของตัวเองและการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย เขารู้สึกอับอายและเข้าใจว่าการใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ใช่ทางที่ดี เขาเริ่มตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง
หลังจากการเยี่ยมเยียนของเรียวกัง หลานชายได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเองอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาหยุดการใช้เงินฟุ่มเฟือยและหันมาดูแลทรัพย์สินของครอบครัวอย่างจริงจัง ไม่เพียงแค่การดูแลทรัพย์สิน แต่เขายังเริ่มปรับปรุงการใช้ชีวิตและตั้งใจในการพัฒนาเป็นคนที่ดีขึ้น
ในภายหลัง หลานชายพูดกับตัวเองว่า “ข้ารู้แล้วว่าการปฏิรูปที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องทำด้วยคำพูดหรือการลงโทษ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงจากภายในและการกระทำที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… การปฏิรูปที่แท้จริงไม่ได้มาจากการใช้คำพูดหรือการลงโทษ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงจากภายในตัวเองผ่านการกระทำที่สื่อถึงความรับผิดชอบและการตระหนักถึงสิ่งที่สำคัญในชีวิต
การที่อาจารย์เรียวกังไม่พูดถึงการกระทำของหลานชายและไม่ได้ตำหนิเขา แต่เลือกที่จะสอนด้วยการกระทำ ทำให้หลานชายได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลตัวเองและการเปลี่ยนแปลงภายในตัวเองเพื่อการเติบโตที่แท้จริง
อ่านต่อ: ค้นหาปรัชญาแห่งความสงบการปล่อยวางของชีวิตผ่านนิทานเซนหลากหลายเรื่องทั้งสนุก และได้ข้อคิดดี ๆ
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเซนเรื่องการปฏิรูปที่แท้จริง (อังกฤษ: True Reformation) เรื่องราวนี้สะท้อนถึงการปฏิรูปที่แท้จริงในชีวิตผ่านการยอมรับในความไม่เที่ยง และการเรียนรู้จากการกระทำที่ละเอียดอ่อนของเรียวกัง (Ryokan) ซึ่งเป็นนักบวชเซนผู้มีชื่อเสียงในด้านความสงบและสติในการดำเนินชีวิต
คำพูดของเรียวกังที่กล่าวกับหลานชายว่า “เจ้าดูสิ วันเวลาผ่านไป เราแก่ลงทุกวัน” เป็นการสะท้อนถึงความแก่ และความไม่เที่ยง ของชีวิต การยอมรับในสิ่งนี้ช่วยให้หลานชายเริ่มตระหนักถึงการใช้ชีวิตและการบริหารทรัพย์สินของครอบครัวอย่างรอบคอบ โดยไม่ถูกครอบงำด้วยความฟุ่มเฟือยหรือการใช้ชีวิตตามใจ
การที่เรียวกังไม่ได้พูดถึงเรื่องของนางบำเรอหรือการกระทำที่หลานชายทำ แต่กลับใช้การกระทำที่ละเอียดอ่อน เช่น การขอให้หลานชายช่วยผูกเชือกรองเท้า เป็นการแสดงออกถึงความเมตตาและความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ที่ไม่ได้แสดงออกผ่านคำพูดที่ตรงไปตรงมา แต่เป็นการสื่อสารที่ทำให้หลานชายเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิรูปภายในตัวเอง
ปรัชญาของเซนสอนว่าการปฏิรูปที่แท้จริง ไม่ได้มาจากการลงโทษหรือการตำหนิ แต่เป็นการเข้าใจความไม่เที่ยงของชีวิต และการเปลี่ยนแปลงจากภายในตัวเองผ่านการกระทำที่จริงใจและไม่ซับซ้อน ความจริงที่ว่าเรียวกังไม่กล่าวถึงการกระทำของหลานชาย แต่อยู่ในกระบวนการสอนผ่านการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้หลานชายเกิดการปฏิรูปภายใน ที่ทำให้เขาหยุดพฤติกรรมฟุ่มเฟือย และหันมาใส่ใจในการดูแลทรัพย์สินของครอบครัว
คติธรรม: “การปฏิรูปที่แท้จริงเริ่มต้นจากการยอมรับความไม่เที่ยงของชีวิต และการเปลี่ยนแปลงภายในตัวเองผ่านการกระทำที่จริงใจและละเอียดอ่อน”