ปกนิทานเซนเรื่องการขอที่พักด้วยบทสนทนา

นิทานเซนเรื่องการขอที่พักด้วยบทสนทนา

ในชีวิตของเรา บางครั้งความเข้าใจที่แท้จริงไม่ได้มาจากการใช้เหตุผลหรือการตีความเพียงแค่คำพูด แต่เกิดจากการตระหนักรู้ที่ลึกซึ้งผ่านประสบการณ์และการเชื่อมโยงที่อยู่เหนือสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน สิ่งที่เราคิดว่าเข้าใจ อาจมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่าที่เราเคยคิด

นิทานเซนเรื่องหนึ่งเล่าถึงการอภิปรายระหว่างพระสองรูปที่มีการตีความต่างกันในเรื่องเดียวกัน การสนทนานี้เป็นการสอนถึงการเข้าใจในเซนที่ไม่ใช่แค่การพูดหรือการโต้แย้ง แต่คือการเข้าใจสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคำพูดและการกระทำที่ดูเหมือนเรียบง่าย กับนิทานเซนเรื่องการขอที่พักด้วยบทสนทนา

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องการขอที่พักด้วยบทสนทนา

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องการขอที่พักด้วยบทสนทนา

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในวัดแห่งหนึ่งในภาคเหนือของประเทศญี่ปุ่น มีพระพี่น้องสองรูปอาศัยอยู่ด้วยกัน พระพี่ใหญ่เป็นผู้ที่มีความรู้มาก ส่วนพระน้องเล็กนั้นค่อนข้างโง่และมีเพียงตาข้างเดียวเท่านั้น

วันหนึ่ง พระรูปหนึ่งเดินทางมาถึงวัดและขอที่พักในวัดแห่งนี้ โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะต้องท้าทายพระในวัดให้มีการอภิปรายเกี่ยวกับคำสอนในพุทธศาสนา หากเขาชนะการอภิปราย เขาก็จะได้พักที่วัด หากแพ้เขาก็จะต้องเดินทางต่อไป

พระพี่ใหญ่ซึ่งรู้สึกเหนื่อยจากการศึกษามากในวันนั้น จึงบอกให้พระน้องเล็กไปแทนเขาและท้าทายพระที่มาเยือนนั้นแทน โดยบอกว่า “เจ้าจงไปแทนข้า และขอให้มีการอภิปรายในความเงียบสงบ”

พระน้องเล็กซึ่งไม่เข้าใจเรื่องการอภิปรายมากนัก ไปยังศาลาและนั่งลงร่วมกับพระผู้เดินทาง

ไม่นานหลังจากที่นั่งลง พระผู้เดินทางลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาพระพี่ใหญ่และกล่าวว่า “น้องของท่านเป็นคนที่ยอดเยี่ยม เขาชนะการอภิปรายของเราได้”

พระพี่ใหญ่ถามว่า “บอกข้าหน่อยว่าการอภิปรายเป็นอย่างไร”

พระผู้เดินทางเล่าให้ฟังว่า “ก่อนอื่นข้าได้ยกนิ้วหนึ่งขึ้นเพื่อแสดงถึงพระพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้ จากนั้นเขายกนิ้วสองขึ้น แสดงถึงพระพุทธเจ้าและคำสอนของท่าน ข้าได้ยกนิ้วสามขึ้น ซึ่งหมายถึงพระพุทธเจ้า คำสอน และสาวก ที่ปฏิบัติตามคำสอนในการดำเนินชีวิตที่กลมกลืนกัน แล้วเขาก็ชูหมัดปิดไว้แล้วโบกไปที่หน้าข้า ซึ่งแสดงว่าทั้งสามสิ่งนั้นมาจากการตระหนักรู้เดียวกัน ดังนั้นเขาชนะการอภิปราย และข้าจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะพักที่นี่” เมื่อพูดจบ พระธุดงค์ก็จากไป

พระพี่ใหญ่ได้ยินแล้วก็ถามว่า “แล้วเขาหายไปไหน?”

ขณะเดียวกัน พระน้องเล็กวิ่งเข้ามาหาพระพี่ใหญ่และกล่าวว่า “ข้าชนะอะไรไม่ได้เลย ข้ากำลังจะไปตีเขา”

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องการขอที่พักด้วยบทสนทนา 2

พระพี่ใหญ่ถามพระน้องเล็กอย่างสงบว่า “แล้วเจ้าบอกว่าชนะการอภิปรายได้อย่างไร?”

พระน้องเล็กตอบด้วยความโกรธว่า “เจ้ารู้ไหมว่า เมื่อเขาเห็นข้าครั้งแรก เขายกนิ้วหนึ่งขึ้น ซึ่งหมายถึงการดูถูกข้าด้วยการบอกว่าข้ามีแค่ตาข้างเดียว! เพราะเขาคือคนแปลกหน้า ข้าจึงคิดว่าจะสุภาพกับเขา โดยการยกนิ้วสองขึ้นเพื่อยินดีว่าเขามีสองตา”

พระน้องเล็กยังคงพูดต่อไปด้วยความโมโห “แล้วเขาก็ยกนิ้วสามขึ้น หมายความว่าเราทั้งสองมีแค่สามตา ทั้งที่ในความเป็นจริง ข้ามีแค่ตาข้างเดียว และเขาก็มีสองตา!”

“เพราะเหตุนี้ ข้าจึงโกรธมากและเริ่มจะทำร้ายเขา แต่ว่าเขาก็วิ่งหนีออกไปและการอภิปรายก็จบลงที่นั่น” พระน้องเล็กจบคำพูดด้วยความรู้สึกโกรธและสะใจที่เขาได้อธิบายเหตุการณ์นั้นออกไป

พระพี่ใหญ่ฟังพระน้องเล็กอย่างเงียบ ๆ แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงที่สงบ “เจ้าเห็นไหมว่า การอภิปรายครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคำสอนที่แท้จริง แต่มันกลับกลายเป็นการโต้แย้งของความไม่เข้าใจที่เกิดจากการตีความต่างกัน”

พระพี่ใหญ่ยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “การชูนิ้วทั้งสามของเขาไม่ได้หมายถึงการดูถูกเจ้า หรือแสดงว่าเรามีแค่สามตา แต่มันคือการแสดงถึงการตระหนักรู้ที่ลึกซึ้งในเซน การที่ท่านยกนิ้วหนึ่งคือการสื่อถึงพระพุทธเจ้า ท่านยกสองนิ้วเพื่อสื่อถึงพระพุทธเจ้าและคำสอนของท่าน และยกสามนิ้วแสดงถึงการรวมสามสิ่งให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งก็คือการแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวของพระพุทธเจ้า คำสอน และสาวก”

พระน้องเล็กฟังอย่างตั้งใจ และเริ่มเข้าใจความหมายที่แท้จริงของการอภิปรายและการเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นจากการกระทำที่เรียบง่ายของพระผู้เดินทาง

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องการขอที่พักด้วยบทสนทนา 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… การตีความและความเข้าใจในคำสอนหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับมุมมองและประสบการณ์ของแต่ละบุคคล บางครั้งสิ่งที่เราเห็นหรือเข้าใจอาจแตกต่างจากความหมายที่แท้จริง การเรียนรู้ในเซนไม่ใช่แค่การใช้คำพูดหรือการแสดงออก แต่เป็นการเข้าใจความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งและการยอมรับในสิ่งที่เรายังไม่เข้าใจอย่างสมบูรณ์

พระน้องเล็กไม่ได้ชนะการอภิปรายตามที่เขาคิด แต่เขาได้รับการสอนถึงการเข้าใจที่ลึกซึ้งว่า ความรู้และการตระหนักรู้ในเซนไม่ได้อยู่ที่การตีความภายนอก แต่มันคือการเข้าใจและยอมรับสิ่งต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในใจ

อ่านต่อ: ค้นหาปรัชญาแห่งความสงบการปล่อยวางของชีวิตผ่านนิทานเซนหลากหลายเรื่องทั้งสนุก และได้ข้อคิดดี ๆ

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานเซนเรื่องการขอที่พักด้วยบทสนทนา (อังกฤษ: Trading Dialogue For Lodging) นิทานเรื่องนี้มาจากการสอนในเชิงปรัชญาของเซน ซึ่งเน้นการเข้าใจและการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรงมากกว่าการใช้คำพูดหรือการอภิปรายโดยตรง ความเข้าใจที่แท้จริงในเซนไม่ได้มาจากการตีความสิ่งต่าง ๆ ด้วยการใช้ตรรกะหรือเหตุผลเพียงอย่างเดียว

แต่คือการตระหนักรู้ในความเป็นหนึ่งเดียว ของพระพุทธเจ้า, คำสอน, และสาวก ที่มีการเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง แม้ว่าในตอนแรกพระน้องเล็กจะเข้าใจการกระทำของพระผู้เดินทางในลักษณะหนึ่ง แต่ในที่สุดเขาก็เรียนรู้ว่าความเข้าใจในเซนต้องอาศัยการยอมรับความหมายที่ลึกซึ้ง และการเปลี่ยนแปลงการตีความ จากมุมมองส่วนบุคคลไปสู่มุมมองที่กว้างขวางและเปิดกว้าง

นิทานนี้สะท้อนถึงการแสดงความเมตตาและการใช้การกระทำ ในการสื่อสาร โดยไม่ต้องใช้คำพูดในการสอนหรือการอภิปราย การเรียนรู้ในเซนที่แท้จริงคือการตระหนักรู้จากภายในตัวเอง และการยอมรับความจริงที่ไม่มีข้อโต้แย้ง

อ่านต่อ: “การเข้าใจที่แท้จริงไม่ได้มาจากการตีความหรือการใช้คำพูดเพียงอย่างเดียว แต่คือการตระหนักรู้ในความเป็นหนึ่งเดียวของทุกสิ่งที่เชื่อมโยงกัน”


by