ปกนิทานเซนเรื่องน้ำส้มสายชูของโทซุย

นิทานเซนเรื่องน้ำส้มสายชูของโทซุย

ในโลกของเซน ความหลุดพ้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับพิธีกรรมหรือรูปลักษณ์ภายนอก แม้แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างพระพุทธรูปก็อาจกลายเป็นพันธนาการ หากจิตยังยึดติด

มีนิทานเซนเรื่องหนึ่งเล่าถึงเรื่องราวของโทซุย พระเซนที่ละทิ้งวิถีวัดเพื่อใช้ชีวิตเรียบง่ายกับขอทาน จะพาเราไปสัมผัสมุมมองของการปล่อยวางอย่างแท้จริง ผ่านบทเรียนเล็ก ๆ ที่บาดลึกยิ่งกว่าคำสอนใดในตำรา กับนิทานเซนเรื่องน้ำส้มสายชูของโทซุย

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องน้ำส้มสายชูของโทซุย

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องน้ำส้มสายชูของโทซุย

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ เมืองใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ยุคที่พระผู้ทรงปัญญามากมายต่างพำนักในวัดที่มั่นคง มีศิษย์มากมายกราบไหว้ โทซุยกลับเลือกทางตรงกันข้าม ท่านทิ้งวิถีแห่งพิธีกรรมในวัด ทิ้งห้องสมาธิอันโอ่อ่า และไปอาศัยอยู่ใต้สะพานกับเหล่าขอทาน

“ธรรมะไม่จำเป็นต้องอยู่ในวิหาร” โทซุยกล่าวเสมอ “หากเข้าใจจริง แม้ในฝุ่นธุลี…ก็เห็นพุทธะได้”

ท่านสวมเสื้อผ้าธรรมดา มือหยาบกร้านจากการเก็บข้าวเปลือกตามตลาดเพื่อกินประทังชีวิต ไม่มีใครรู้ว่า ชายชราผู้นี้เคยเป็นถึงอาจารย์เซนอาวุโสในวัดใหญ่

วันหนึ่ง ขณะนั่งอยู่ข้างกองฟาง มีชายคนหนึ่งเดินผ่านและจำท่านได้ ชายคนนั้นเคยเป็นศิษย์ในวัดเก่า เขาตกใจที่เห็นอาจารย์ผู้ทรงปัญญาต้องใช้ชีวิตเช่นนี้ และจึงกล่าวด้วยความเป็นห่วง

“ท่านอาจารย์…เหตุใดท่านจึงต้องลำบากถึงเพียงนี้?”

โทซุยยิ้มบาง ๆ แล้วตอบกลับด้วยแววตามั่นคง “นี่ไม่ใช่ความลำบาก นี่คืออิสรภาพ…ข้าได้พบธรรมะที่ไม่มีผนังวัดกั้น”

เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของโทซุยเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ มีเพื่อนเก่าผู้หนึ่งเสนอทางให้โทซุยได้มีอาชีพโดยไม่ต้องขอทานอีก เขาสอนโทซุยให้เก็บข้าวสารและหมักเป็นน้ำส้มสายชู โทซุยยอมเรียนรู้และเริ่มทำด้วยใจสงบ

ท่านสร้างกระท่อมเล็ก ๆ ข้างลำธาร วางไหดินเรียงกันเป็นแถว ในนั้นคือข้าวหมักที่ค่อย ๆ กลายเป็นน้ำส้มสายชู กลิ่นเปรี้ยวอ่อน ๆ โชยออกทุกเช้า มีกระดานไม้หน้ากระท่อมเขียนไว้ว่า “น้ำส้มสายชูโทซุย ผลิตด้วยความว่างเปล่า”

ท่านยังคงหมักข้าวในความเงียบ ขัดไหในความว่าง และส่งกลิ่นเปรี้ยวออกไปกับสายลม เหมือนกับชีวิตของท่าน… ที่เคยขม เปรี้ยว และค่อย ๆ กลั่นออกมาเป็นธรรมะบริสุทธิ์โดยไม่ต้องเอ่ยวาจา

วันหนึ่ง มีขอทานคนหนึ่งมอบรูปพระอมิตาภพุทธะให้ท่าน โทซุยน้อมรับภาพนั้น แขวนไว้บนผนังไม้ไผ่ และเขียนข้อความสั้นๆ ข้างๆ ภาพนั้นว่า:

“ท่านพระอมิตาภพุทธเจ้า ห้องเล็ก ๆ นี้ค่อนข้างแคบ ข้าอนุญาตให้ท่านอยู่ชั่วคราวได้ แต่อย่าคิดว่าข้ากำลังขอให้ข้าไปเกิดใหม่ในสรวงสวรรค์ของท่าน”

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องน้ำส้มสายชูของโทซุย 2

หลายคนที่เห็นข้อความนี้ ต่างสงสัยว่าท่านหมายความว่าอย่างไร ทำไมจึงไม่อยากเกิดในแดนสุขาวดี(แดนสวรรค์)?

มีนักบวชหนุ่มจากวัดใหญ่คนหนึ่งเดินทางมาหา พอเห็นข้อความก็ถามด้วยความลังเลว่า

“ท่านโทซุย…ข้อความนี้หมายถึงอะไรหรือครับ? ทำไมไม่ยินดีต่อแดนสุขาวดี?”

โทซุยมองนักบวชหนุ่มพลางหัวเราะเบา ๆ แล้วตอบว่า

“เพราะสุขาวดีนั้น เป็นเพียงภาพในใจคนที่ยังไม่เห็นธรรมแท้ ผู้เห็นธรรมแล้ว…ไม่ยึดมั่นแม้แต่แดนสุขาวดี”

นักบวชหนุ่มนิ่งเงียบ ไม่กล้าโต้ตอบ สิ่งที่เขาคิดว่าคือเป้าหมายสูงสุดในชีวิต กลับเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของอีกคนหนึ่ง

ฤดูใบไม้ร่วงในปีสุดท้ายของชีวิตโทซุย ลมเย็นเริ่มพัดผ่านภูเขา ใบไม้ปลิวตกตามทาง และในยามค่ำ กลิ่นเปรี้ยวจากน้ำส้มสายชูยังคงอบอวลเช่นเดิม

ไม่มีใครรู้ว่าโทซุยป่วย ไม่มีการร่ำลา ไม่มีพิธี ไม่มีศิษย์หรือเครื่องสักการะ

มีเพียงร่างของท่านที่นั่งพิงผนัง ห่มผ้าบาง ๆ และยิ้มน้อย ๆ ขณะหลับตา ในมือยังถือช้อนคนหมักน้ำส้ม

ชายชราผู้เคยเป็นอาจารย์ กลายเป็นขอทาน ขอทานกลายเป็นผู้ผลิตน้ำส้ม ผู้ผลิตน้ำส้มกลายเป็นธรรมะ

คนที่มองเห็นท่านในวาระสุดท้าย ต่างพูดกันว่า “แม้จะไร้ลาภ ยศ หรือตำแหน่ง แต่กลิ่นน้ำส้มสายชูของโทซุย…หอมกว่าเครื่องหอมใด ๆ ที่เคยพบมา”

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องน้ำส้มสายชูของโทซุย 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… แม้จะเคยมีอดีตอันรุ่งโรจน์หรือดำมืดเพียงใด ชีวิตยังสามารถเลือกหนทางใหม่ได้เสมอ เปรียบเสมือนชีวิตคนเรา… เมื่อปล่อยวางจากกรอบคิด คำจำกัดความ และความคาดหวังได้ เราจะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีอิสรภาพ แม้ในความเรียบง่ายก็ยังเต็มไปด้วยความหมาย และแม้จะอยู่ในที่แคบหรือต่ำต้อยเพียงใด ใจเราก็ยังสามารถเป็นอิสระได้อย่างแท้จริง

โทซุย ผู้เคยเป็นพระอาจารย์ในวัดใหญ่ เลือกละทิ้งพิธีกรรมและชื่อเสียง เพื่อมาใช้ชีวิตเรียบง่ายกับคนยากไร้ใต้สะพาน โดยไม่ยึดติดว่าอะไรคือสูงหรือต่ำ แม้จะเป็นเพียงคนทำน้ำส้มสายชู เขายังคงดำรงจิตแห่งเซนได้อย่างมั่นคง ไม่หวั่นไหวกับคำยกย่องหรือรูปเคารพ

อ่านต่อ: นิทานเซนสอนปรัชญาชีวิตและธรรมวิถีเซนแห่งความสงบและการปล่อยวาง

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานเซนเรื่องน้ำส้มสายชูของโทซุย (อังกฤษ: Tosui’s Vinegar) มาจากบันทึกเรื่องเล่าในสายเซนของญี่ปุ่น ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวของพระอาจารย์โทซุย อุนเคอิ (Tōsui Unkei) พระเซนผู้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ราวศตวรรษที่ 17 ท่านมีฉายาว่าขอทานศักดิ์สิทธิ์โดยเรื่องนี้ปรากฏอยู่ในหนังสือรวมเรื่องเล่าเซนชื่อดังอย่าง “101 Zen Stories” และ Zen Flesh, Zen Bone ที่รวบรวมโดย Nyogen Senzaki และ Paul Reps ซึ่งเป็นแหล่งอ้างอิงสำคัญของนิทานเซนหลายเรื่องทั่วโลก

เรื่องราวนี้ยังสะท้อนให้เห็นมุมมองอันลึกซึ้งของโทซุยที่มีต่อพระพุทธศาสนา ไม่ใช่การเคารพบูชารูปเคารพหรือการยึดติดกับสวรรค์วิมาน แต่เป็นการใช้ชีวิตอย่างตื่นรู้ อยู่กับปัจจุบัน และไม่หวังผลตอบแทนในภพหน้า เรื่องราวของท่านยังปรากฏในนิทานเซนเรื่องวิถีเซนในชีวิตของขอทาน

ท่านแขวนภาพพระอมิตาภะไว้พร้อมป้ายที่เขียนด้วยความเมตตาและขันติว่า “ข้าให้ท่านอยู่ได้ชั่วคราวเท่านั้นนะ โปรดอย่าคิดว่าข้าอยากเกิดใหม่ในสวรรค์ของท่านเลย” เป็นถ้อยคำที่ทั้งอ่อนโยนและหนักแน่นในคราวเดียวกัน แสดงถึงความเข้าใจในธรรมะอย่างลึกซึ้งเหนือความหลงผิดทั้งหลาย

คติธรรม: “อย่ายึดติดแม้แต่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากนั่นคืออุปสรรคต่อการหลุดพ้น”


by