ปกนิทานเซนเรื่องอีกสามวัน

นิทานเซนเรื่องอีกสามวัน

ความพยายามมากเกินไป อาจกลายเป็นกำแพงขวางทางการตื่นรู้ ในบางครั้ง ยิ่งเราตามหาคำตอบด้วยความกระหาย กลับยิ่งหลงไกลจากสิ่งที่กำลังมองหา

มีนิทานเซนเรื่องหนึ่งที่เล่าถึงศิษย์ผู้เฝ้าเพียรอยู่กับคำถามหนึ่งเดียวเป็นเวลานาน ด้วยหัวใจที่ทั้งหวังและท้อ และในห้วงเวลาที่ความพยายามดูเหมือนไร้ผลมากที่สุด… บางสิ่งก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนโดยไม่ต้องมีคำอธิบาย กับนิทานเซนเรื่องอีกสามวัน

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องอีกสามวัน

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องอีกสามวัน

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ แคว้นแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น นักบวชหนุ่มซุยโอะ เป็นศิษย์เอกของอาจารย์ฮาคุอิน และต่อมาก็กลายเป็นครูเซนผู้มีเมตตาและความหนักแน่น

ในช่วงฤดูฝึกปิดวัด เขาเปิดสำนักบนภูเขาให้ผู้ใฝ่ธรรมได้มาฝึกสมาธิอย่างจริงจัง

วันหนึ่ง มีชายหนุ่มผู้เดินทางไกลจากเกาะทางใต้ของญี่ปุ่น มาหาซุยโอะพร้อมความตั้งใจแน่วแน่ “อาจารย์โปรดเมตตา ข้าขอฝากตัวเป็นศิษย์และฝึกฝนธรรมเซนกับท่าน”

ซุยโอะรับคำเรียบ ๆ ก่อนจะมอบโคอันอันหนึ่งให้เป็นโจทย์ชีวิต “จงฟังเสียงของมือเดียว…”

ชายหนุ่มก้มศีรษะรับคำถามนั้นอย่างเคารพ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในวัดกลางขุนเขา

วันแล้ววันเล่า เขานั่งสมาธิ ตั้งใจเพ่งภายใน หยุดความคิด หยุดเสียงภายนอก เพื่อจะ “ได้ยิน” สิ่งที่ไม่อาจได้ยิน

ฤดูร้อนผ่านไปหนึ่งครั้ง… จากหนึ่งกลายเป็นสอง… และก้าวเข้าสู่ปีที่สาม

แม้เขาตั้งใจเฝ้าพินิจในทุกวินาที แต่คำตอบก็ยังคงอยู่ห่างไกล

คืนหนึ่ง ขณะที่ฝนโปรยเบา ๆ เขาเดินเข้ามาหาซุยโอะด้วยน้ำตาคลอเบ้า “อาจารย์… ข้ารู้สึกอับอาย ข้าใช้เวลาถึงสามปี แต่ยังไม่เข้าใจเสียงของมือเดียวเลย ข้าคงต้องกลับบ้านด้วยความละอายใจ…”

ซุยโอะนิ่งฟัง ก่อนกล่าวช้า ๆ “อยู่ต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ แล้วจงนั่งให้ลึกที่สุดเท่าที่เคยทำมา”

ศิษย์หนุ่มรับปากและทำตาม แต่เมื่อครบเจ็ดวัน… ก็ยังไม่มีแสงใดผุดขึ้นในใจ

ซุยโอะเพียงพูดว่า “อีกหนึ่งสัปดาห์…”

เขาเงียบและเชื่อฟัง แม้ใจจะสับสน แต่ก็ยังคงเพียร จนครบสัปดาห์นั้น… แต่คำตอบก็ยังไม่มา

“ลองอีกหนึ่งสัปดาห์…” ซุยโอะกล่าวเสียงแผ่ว

ชายหนุ่มเริ่มไม่แน่ใจว่ากำลังถูกทดสอบ หรือกำลังจมในความว่างเปล่าโดยไร้ทางออก
แต่เขาก็ยังก้มหน้ารับคำ และเข้าสู่สัปดาห์ที่สามของความเงียบ

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องอีกสามวัน 2

ผ่านไปอีกเจ็ดวัน… เขายังไม่พบคำตอบ หัวใจเริ่มเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและความสิ้นหวัง เขาเดินเข้ามาหาซุยโอะอีกครั้ง คราวนี้เสียงของเขาสั่นกว่าครั้งไหน ๆ

“อาจารย์… ได้โปรด ปล่อยข้ากลับบ้านเถิด ข้าล้มเหลว ข้าไม่อาจฝืนความว่างเปล่านี้ได้อีกแล้ว…”

ซุยโอะมองเขานิ่ง ๆ ด้วยแววตาที่ไม่ตำหนิ ไม่ปลอบ แต่แฝงความลึกที่ยากหยั่งถึง
แล้วจึงกล่าวช้า ๆ “ถ้าเจ้ายังไม่รู้คำตอบ… จงนั่งอีกห้าวัน”

ศิษย์หนุ่มหลับตาแน่น เขาแทบจะร้องออกมา แต่เขาก็ยังพยักหน้า

ห้าวันนั้น เขาแทบไม่หลับ ไม่พูด ไม่ขยับ เขานั่งอยู่กับลมหายใจ กับความเงียบ กับเสียงที่ไม่มีอยู่จริง

พอครบห้าวัน… ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เขากลับมาหาอาจารย์อีกครั้ง คราวนี้ เขาคุกเข่าลงและเอ่ยเสียงแผ่ว “ได้โปรด… ข้าทำเต็มที่แล้ว หากข้ายังไม่รู้ ข้าก็ไม่ควรอยู่ต่อไป…”

ซุยโอะยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น “ถ้าเช่นนั้น… เจ้าควรนั่งต่ออีกสามวัน แล้วหากยังไม่รู้ เจ้าจงตายเสียเถิด”

ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับ ชายหนุ่มลุกขึ้น เดินกลับกุฏิอย่างเงียบงัน ราวกับหัวใจของเขาได้มอดดับลงแล้ว

คืนแรก เขานั่ง คืนที่สอง เขานั่ง… ไม่คิดถึงคำตอบ ไม่ฝืน ไม่คาดหวัง เขาแค่นั่งอยู่กับความตายที่เขาเชื่อว่ากำลังใกล้เข้ามา

ในยามรุ่งของวันที่สาม ไม่มีเสียงอะไรเปลี่ยนไป ไม่มีนิมิต ไม่มีแสง ไม่มีอะไรพิเศษ

แต่บางอย่างในใจเขากลับ “ตื่น”

ไม่ใช่เพราะเขา “เข้าใจ” โคอัน แต่เพราะเขา “หลุดออกจากความพยายามที่จะเข้าใจ” มันเสียที

และในจังหวะนั้นเอง… ทุกอย่างรอบตัวก็ดูจะเงียบลง และเขาได้ยินเสียงบางอย่างที่ไม่มีเสียง

เขาเดินกลับไปหาซุยโอะ ก้มลงอย่างสงบ

อาจารย์มองเขาเพียงครู่เดียวก่อนกล่าวเบา ๆ “เจ้ารอดแล้ว…”

เพราะคนที่ยอม “ตายจากความคิด” ก็คือผู้ที่ “เกิดใหม่จากความรู้แจ้ง” นั่นเอง

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องอีกสามวัน 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ความรู้แจ้งไม่อาจเกิดจากความพยายามบีบคั้น หรือการไขว่คว้าด้วยความอยากรู้ แต่มันเกิดขึ้นในยามที่จิตวางลงจากการดิ้นรนทั้งปวง เมื่อเราหยุดพยายามเข้าใจ เสียงของความจริงจึงเผยตัวอย่างเงียบงัน

ชีวิตคนเรามักถูกเร่งเร้าด้วยความคาดหวัง อยากเข้าใจ อยากบรรลุ อยากสำเร็จเร็ว ๆ แต่นิทานเรื่องนี้เตือนเราว่า… เสียงแห่งปัญญา ไม่ได้ปรากฏในความรีบร้อน หากเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เรายอม “ตายจากตัวตน” และ “นิ่งกับสิ่งที่เป็น” โดยไม่เร่งรัด

ศิษย์หนุ่มใช้เวลาหลายปีในการพยายามเข้าใจคำถาม แต่ไม่มีคำตอบใดปรากฏ เพราะเขายัง “คิด” อยู่เสมอ จนวันที่เขายอมรับความตาย ไม่ใช่ของร่างกาย… แต่เป็นความตายของความอยากรู้ ความกลัว ความอัตตา ในห้วงสุดท้ายนั้นเอง เขาจึงได้ยินเสียงของสิ่งที่ไม่มีเสียง และนั่นคือประตูของความรู้แจ้งที่แท้

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานเซนเรื่องอีกสามวัน (อังกฤษ: Three More Days) มีที่มาจากชุดนิทานและโคอันในหนังสือ Zen Flesh, Zen Bones รวบรวมโดย Paul Reps และ Nyogen Senzaki ซึ่งเป็นหนังสือที่เผยแพร่นิทานเซนคลาสสิกจากญี่ปุ่นและจีนให้แพร่หลายไปยังโลกตะวันตก

เรื่องนี้กล่าวถึงพระภิกษุชื่อซุยโอะ (Suiwo) ศิษย์ของอาจารย์เซนอันโด่งดังนามฮาคุอิน (Hakuin Ekaku) ซึ่งเป็นหนึ่งในพระเซนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น โดยโคอันที่ใช้ในเรื่องนั่นคือ “เสียงของมือเดียว” ก็เป็นโคอันที่อาจารย์เซนหลาย ๆ คนใช้เพื่อใช้ฝึกศิษย์ให้หลุดพ้นจากกรอบความคิดแบบตรรกะ

ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ฟื้นฟูสำนักรินไซของญี่ปุ่นจากช่วงเวลาแห่งความซบเซา โดยเน้นที่วิธีการฝึกฝนอันเข้มงวดที่ผสมผสานการทำสมาธิและการปฏิบัติโคอัน

เรื่องราวนี้ไม่เพียงสะท้อนหลักการเซนในเรื่องของ “การปล่อยวางความอยากรู้” แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความอดทน ความยอมจำนนต่อความว่าง และการสละตัวตน เพื่อเข้าถึง “สัจธรรมที่ไม่มีคำตอบ” ซึ่งเป็นหัวใจของการปฏิบัติในวิถีเซนอย่างแท้จริง

คติธรรม: “ผู้ที่เฝ้าแสวงหาคำตอบอาจยังไม่พร้อมจะได้ยิน แต่ผู้ที่ยอมวางคำถามทั้งชีวิต… กลับอาจพบคำตอบในความเงียบที่ไม่มีเสียง”


by