ปกนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการคิดตั้งแต่ต้น

นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการคิดตั้งแต่ต้น

ฃในโลกนี้หลายคนมักคิดว่าการจัดการชีวิตให้สำเร็จเกิดจากการควบคุมทุกสิ่งรอบตัว แต่คำสอนของเต๋ากลับบอกว่า การเริ่มลงมือด้วยใจสงบและไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ คือหนทางที่แท้จริงสู่ชีวิตที่ราบรื่นและไม่เป็นภาระ

ฃมีนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหนึ่ง ที่เล่าจื๊อสมัยหนุ่มออกเดินทางแสวงหาความหมายของชีวิต ผ่านประสบการณ์ทั้งเล็กและยาก จนได้เรียนรู้วิธีคิดและการปฏิบัติที่ช่วยให้เขาจัดการชีวิตอย่างชาญฉลาดโดยไม่ต้องพยายามบังคับสิ่งต่าง ๆ กับนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการคิดตั้งแต่ต้น

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการคิดตั้งแต่ต้น

เนื้อเรื่องนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการคิดตั้งแต่ต้น

ข้าในวัยหนุ่มยังไม่เข้าใจชีวิตและโลก ข้าออกจากบ้านเกิดโดยไม่รู้ชัดเจนว่าปลายทางคืออะไร สิ่งเดียวที่แน่นอนคือความกระหายหาความหมายของชีวิต

ข้าเดินผ่านทุ่งนา หมู่บ้านเล็ก ๆ และป่าลึก ทุกแห่งเต็มไปด้วยผู้คนพูดถึง “หนทางแห่งปัญญา” แต่คำสอนต่างกัน ขัดแย้งกัน และบางครั้งทำให้ข้าสับสนยิ่งขึ้น

ข้าไปถึงเมืองใหญ่ ที่นี่ปราชญ์นับร้อยสอนคนแตกต่างกัน บ้างว่าปัญญาคือการยึดมั่นในกฎหมายและตำรา บ้างว่าปัญญาคือการชนะคนอื่นด้วยกำลัง หรือการรักษาพิธีและประเพณีให้ถูกต้อง แต่สิ่งที่ข้าสัมผัสกลับตรงกันข้าม คนเหล่านั้นยึดมั่นในความรู้ของตนเอง ข้าสงสัยว่าหนทางใดคือหนทางแท้จริง

ข้าล่องไปในป่า ข้ามลำธาร และปีนเขาสูงเพื่อพบผู้ที่เรียกตนว่าผู้มีปัญญา แต่ทุกคำตอบทำให้ข้าสับสนยิ่งขึ้น ข้าถามตัวเองว่า “สิ่งยิ่งใหญ่เกิดจากการกระทำหรือจากความเข้าใจ?”

ข้าพบผู้คนที่เฉลียวฉลาด พูดคำหวาน แต่การกระทำของพวกเขากลับทำให้ผู้อื่นลำบาก ข้าตระหนักว่า ความรู้ที่ไม่ลงมือ หรือการลงมือโดยไม่รอบคอบ อาจกลายเป็นภัยได้เช่นกัน

ข้าหยุดพักในป่าลึกนานวัน มองสายน้ำไหลผ่านหิน มองต้นไม้เติบโตอย่างสงบ ข้าสังเกตความเรียบง่ายของธรรมชาติและความสัมพันธ์ของทุกสิ่ง คำถามเดิมยังวนเวียนอยู่ในใจ

แต่ข้าเริ่มเห็นร่องรอยบางอย่าง ความยิ่งใหญ่เกิดจากสิ่งเล็ก และสิ่งเล็กจะเติบโตเป็นสิ่งใหญ่ได้เพียงเมื่อได้รับความเอาใจใส่อย่างสงบ

หลังจากเฝ้าสังเกตธรรมชาติและความแตกต่างของผู้คน ข้าเดินทางต่อ ล่องไปในป่าลึก ข้ามลำธารที่ไหลเชี่ยว ปีนเขาสูง และนอนกลางอากาศหนาวเหน็บ ข้าต้องเผชิญกับความหิว ความเหน็ดเหนื่อย และความเจ็บปวดจากบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดจากการเดินทาง

บางคืน ข้านอนใต้ต้นไม้ใหญ่ ฝนตกโปรยปราย ข้าไม่มีกระท่อม เพียงผ้าห่มบาง ๆ ห่อกาย ข้าตระหนักว่าแม้แต่สิ่งเล็กที่สุด เช่น ความอบอุ่นของร่างกายหรืออาหารเพียงเล็กน้อย ก็สำคัญและทำให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้

มีครั้งหนึ่ง ข้าเกือบตกหน้าผาเพราะความเหนื่อยล้า ข้าพลัดล้มลงก้อนหินเจ็บปวด ข้าได้เรียนรู้ว่า “ความไม่รอบคอบแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้ชีวิตพลาดได้”

ข้ากลับมานั่งสงบอยู่ริมลำธาร มองน้ำไหลและฟังเสียงลม ข้าเข้าใจว่าทุกความยากลำบากที่เกิดขึ้นนี้เป็นครูชั้นดี ชีวิตสอนให้ข้าเห็นว่า การเริ่มจากสิ่งเล็ก การระมัดระวัง และการอดทน เป็นสิ่งจำเป็นก่อนที่จะทำสิ่งใหญ่ได้

ความเหน็ดเหนื่อยและความเจ็บปวดไม่ได้ทำให้ข้าท้อ แต่กลับทำให้ข้าตั้งใจฟังความสงบภายใน จดจำความยากง่ายของแต่ละก้าว และเริ่มฝึกใจให้ไม่รีบร้อน ไม่โอ้อวด และไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ ข้าเริ่มเข้าใจร่องรอยบางอย่างของหนทางแห่งเต๋า แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนเต็มที่ก็ตาม

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการคิดตั้งแต่ต้น 2

หลังจากหลายเดือนแห่งการเดินทาง ข้าที่ต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยและสับสน ข้าเดินผ่านป่าทึบ ลำธารเชี่ยว และภูเขาสูงจนถึงหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่ง

พระชราอาศัยอยู่ที่นี่ ข้าพบเขานั่งเงียบอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ผมขาวยาว ร่างกายเรียบง่าย แต่สายตาเต็มไปด้วยความสงบ

ข้าถามเขาอย่างตรงไปตรงมา “ข้าออกเดินทางมาหาความหมายของชีวิต แต่ยิ่งเรียนรู้ ยิ่งสับสน ท่านช่วยข้าได้อย่างไร?”

พระชรามองข้าด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงช้า ๆ “หนทางแห่งปัญญาไม่ได้อยู่ที่การพูดมากหรือการทำสิ่งใหญ่ แต่คือการเห็นความยากตั้งแต่สิ่งง่าย เห็นสิ่งเล็กที่ซ่อนความยิ่งใหญ่ และลงมือทำโดยไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ หากเจ้าสามารถทำเช่นนี้ เจ้าจะไม่หลงทางอีกต่อไป”

ข้าเงยหน้ามองพระชราและคิดอย่างหนัก คำพูดของเขาเหมือนแสงสว่างลอดผ่านหมอกหนา ข้าตระหนักว่าความรีบร้อน ความโอ้อวด และความไม่ระมัดระวังที่ข้ามีมาตลอด ทำให้ข้าพบความลำบากซ้ำแล้วซ้ำเล่า

พระชราพูดต่อ “การจัดการสิ่งต่าง ๆ โดยไม่รู้สึกเป็นภาระ การตอบแทนความชั่วด้วยความดี และการมองใหญ่จากสิ่งเล็ก สิ่งเหล่านี้คือกุญแจของชีวิต ผู้ที่เข้าใจสิ่งนี้ ย่อมไม่พบความยากอีก”

ข้าฟังและค่อย ๆ ฝึกใจให้สงบ เริ่มเห็นว่าการเดินทางไม่ได้มีค่าเพราะการไปถึงจุดหมาย แต่เพราะข้าฝึกตัวเองในทุกก้าวของการเดินทาง

หลังจากได้เรียนรู้จากพระชรา ข้าพบว่าตัวเองเริ่มสงบลง และสังเกตทุกสิ่งรอบตัวได้ละเอียดขึ้น ข้าลองนำสิ่งที่เรียนรู้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ เช่นการเดินทาง การจัดสิ่งของ หรือแม้แต่การสังเกตน้ำในลำธาร ใบไม้ที่ลอยตามน้ำ หรือก้อนหินที่ตกลงพื้น

ข้าสังเกตซ้ำ ๆ ว่าสิ่งยิ่งใหญ่เริ่มจากสิ่งเล็ก สิ่งยากเริ่มจากความง่าย การลงมือโดยไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ ทำให้ชีวิตไม่เป็นภาระ การจัดการสิ่งต่าง ๆ โดยไม่รู้สึกเป็นภาระ ทำให้ข้ารู้สึกเบา และการตอบแทนความชั่วด้วยความดี ทำให้ข้าพบความสงบภายใน

ข้าเริ่มตั้งกฎให้ตัวเอง เมื่อจะเริ่มสิ่งใหญ่ ข้าจะเริ่มจากสิ่งเล็กก่อน และเมื่อเจอความยาก ข้าจะสังเกตความง่ายรอบ ๆ ก่อน ข้าพบว่าหากปฏิบัติด้วยความสงบ ไม่รีบร้อน และไม่โอ้อวด ข้าสามารถผ่านปัญหาที่เคยยากลำบากได้อย่างราบรื่น

จากประสบการณ์ทั้งหมด ข้าตระหนักว่า สิ่งที่ข้าเรียนรู้ด้วยตนเองนี่แหละคือหนทางที่แท้จริงของชีวิต ข้าเริ่มเรียกมันว่า “วิถีคิดแบบเต๋า” ไม่ใช่ชื่อของใคร แต่เป็นหลักวิธีคิดตั้งแต่ต้นที่ข้าค้นพบด้วยตัวเอง

ข้าสรุปไว้ในใจว่า “สิ่งยิ่งใหญ่เริ่มจากสิ่งเล็ก สิ่งยากเริ่มจากสิ่งง่าย อย่าประมาท อย่าหลงว่าทุกอย่างง่ายไปหมด ทำด้วยความสงบ ไม่รีบร้อน ไม่โอ้อวด ผู้ที่เห็นยากในสิ่งง่าย จะไม่พลาดในชีวิต”

ข้าหยุดยืนมองสายน้ำ ใบไม้ร่วง และลมพัดผ่านกิ่งไม้ ข้ารู้แล้วว่าแม้จะยังไม่เข้าใจคำว่าเต๋าอย่างแท้จริง แต่วิถีคิดแบบเต๋าที่ข้าค้นพบนี้ จะนำข้าไปสู่ความสงบและความเข้าใจในชีวิตอย่างแท้จริง

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการคิดตั้งแต่ต้น 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… หนทางแห่งชีวิตที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ความยิ่งใหญ่หรือผลลัพธ์ที่เราจะได้ แต่กลับอยู่ที่วิธีคิดและวิธีปฏิบัติของเราเอง การลงมือทำโดยไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ การมองสิ่งใหญ่จากสิ่งเล็ก และการเห็นความยากในสิ่งที่ดูง่าย เป็นวิถีที่ทำให้ชีวิตไม่เป็นภาระและเต็มไปด้วยความสงบ นี่คือแก่นของการคิดก่อนเริ่มต้น

ในนิทาน เล่าจื๊อสมัยหนุ่มได้ออกเดินทางเพื่อค้นหาความหมายของชีวิต เขาได้พบทั้งความสับสน ความยากลำบาก และความท้าทายมากมาย การเผชิญกับสิ่งเล็กและการสังเกตความง่ายในสิ่งที่ซับซ้อน ทำให้เขาเรียนรู้ว่าการลงมือทำโดยไม่โอ้อวดและไม่รีบร้อนเป็นหนทางที่จะทำให้สิ่งใหญ่สำเร็จอย่างเป็นธรรมชาติ การปฏิบัติในชีวิตประจำวันด้วยความระมัดระวัง ความอดทน และการตอบแทนความชั่วด้วยความดี ทำให้เขาค้นพบแนวทางที่จะดำเนินชีวิตอย่างมั่นคงและไม่พบกับความยากอีกต่อไป

อ่านต่อ: นิทานเต้าเต๋อจิงสรุปจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิงเล่าในรูปแบบนิทานสนุกและเข้าใจง่ายได้ข้อคิดดี ๆ

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการคิดตั้งแต่ต้น (อังกฤษ: Thinking in The Beginning) นิทานเรื่องนี้มาจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิงบทที่ 63 ซึ่งกล่าวถึงการ “การคิดก่อนเริ่มต้น” โดยความยิ่งใหญ่และความยากของชีวิตไม่ได้อยู่ที่สิ่งภายนอก แต่เกิดจากวิธีที่เราคิดและมองและปฏิบัติต่อสิ่งเล็ก ๆ รอบตัว การเห็นสิ่งใหญ่จากสิ่งเล็ก และความระมัดระวังในสิ่งง่าย เป็นสิ่งที่นำไปสู่ความสงบและความมั่นคงในชีวิต เล่าจื๊อได้บันทึกไว้ว่า:

การคิดก่อนเริ่มต้น

หนทางแห่งเต๋า คือการลงมือโดยไม่ยึดติดกับการลงมือ
จัดการเรื่องต่าง ๆ โดยไม่รู้สึกว่าเป็นภาระ
ลิ้มรสโดยไม่แบ่งแยกว่ามันหวานหรือขม
มองสิ่งเล็กให้เป็นสิ่งใหญ่
เห็นสิ่งน้อยให้เป็นสิ่งมาก
และตอบแทนความชั่วด้วยความดี

ผู้ที่เข้าใจเต๋า จะมองเห็นสิ่งยากตั้งแต่ตอนที่มันยังง่าย
และเริ่มลงมือกับสิ่งใหญ่ตั้งแต่ตอนที่มันยังเล็ก
เพราะทุกสิ่งที่ยากในโลก ล้วนเริ่มจากสิ่งที่ง่าย
และทุกสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ก็เริ่มจากสิ่งเล็กน้อยเสมอ

ดังนั้น ปราชญ์จึงไม่ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่
แต่เพราะเขาไม่ยึดติดเช่นนั้น เขาจึงสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้

คนที่รีบให้คำสัญญา มักรักษาคำพูดได้น้อย
คนที่คิดว่าทุกอย่างง่าย มักพบว่ามันยากในภายหลัง
เพราะฉะนั้น ปราชญ์จึงเห็นความยากในสิ่งที่ดูเหมือง่าย
และเพราะเขาระวังเช่นนั้น เขาจึงไม่เคยพบกับความยากเลย

โดยเล่าจื๊อสอนว่า ผู้ที่เข้าใจหลักคิดนี้จะไม่ตกอยู่ในความทุกข์เพราะความยากหรือความซับซ้อน เขาจะเรียนรู้ที่จะจัดการสิ่งต่าง ๆ โดยไม่รู้สึกเป็นภาระ ลงมือด้วยใจสงบ และตอบแทนความชั่วด้วยความดีจนกลายเป็นการดำรงชีวิตอย่างสมดุลและมั่นคง การสังเกตและลงมือทำในสิ่งเล็ก ๆ อย่างตั้งใจ เป็นวิธีที่ช่วยให้เขาเข้าใจความยิ่งใหญ่และความซับซ้อนในชีวิตได้โดยไม่หลงไปกับภายนอก

นิทานเรื่องนี้จึงถูกแต่งขึ้นเพื่อสะท้อนคำสอนในบทดังกล่าว โดยเปรียบประสบการณ์ของเล่าจื๊อสมัยหนุ่มกับการเริ่มต้นเรียนรู้วิถีชีวิตและความเข้าใจทีละเล็กทีละน้อย แม้ภายนอกดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่แท้จริงแล้วคือรากฐานของความคิดและการปฏิบัติที่จะนำไปสู่ความสงบและความสำเร็จอย่างแท้จริง และนี่คือหัวใจของ “การคิดก่อนเริ่มต้น” ที่เล่าจื๊ออยากให้ผู้คนได้ตระหนักและเรียนรู้

คติธรรม: “เริ่มจากสิ่งเล็ก ระวังในสิ่งง่าย ลงมือโดยไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ และตอบแทนความชั่วด้วยความดี ผู้ที่เข้าใจหนทางนี้ย่อมไม่พบความยากในชีวิตอีกเลย”

อ่านนิทานเสร็จ ลองดูไซรับหญ้าหวานไว้เป็นตัวเลือก อร่อย ไม่มีน้ำตาล กินแทนน้ำหวาน ดีต่อสุขภาพอีก ชอบคอนเท้นเราก็อุดหนุนกันได้น้า!