ปกนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณค่าของความว่างเปล่า

นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณค่าของความว่างเปล่า

ในโลกนี้ หลายคนมักคิดว่าคุณค่าอยู่ที่สิ่งที่เห็นได้จับต้องได้ แต่คำสอนของเต๋าชี้ว่ามีสิ่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จและประโยชน์ ซึ่งไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

มีนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหนึ่ง เล่าจื๊อสอนผ่านสิ่งรอบตัวอย่างล้อ หม้อ และบ้าน แต่แทนที่จะบอกตรง ๆ ว่าความจริงคืออะไร นิทานกลับชวนให้คิดตามและสังเกตว่า สิ่งที่เราเห็นทั้งหมดอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด กับนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณค่าของความว่างเปล่า

เนื้อเรื่องนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณค่าของความว่างเปล่า

เช้าวันหนึ่ง ข้าออกจากวัดบนเขาสูงเพื่อชมผู้คนเบื้องล่าง ลมหนาวพัดหมอกขาวพร่างพรายตามหุบเขา เมื่อถึงหมู่บ้านเล็ก ข้าได้พบช่างรถผู้หนึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่

เขากำลังประกอบล้อไม้ เขาใช้ซี่ไม้มากมายเสียบเข้าไปในดุมอย่างขะมักเขม้น เด็กชายลูกศิษย์ยืนดูอยู่ข้าง ๆ พลางถามขึ้นว่า “ท่านพ่อ ใยต้องเว้นว่างตรงกลางดุมล้อไว้ด้วยเล่า? หากอุดเต็มล้อก็คงแข็งแรงกว่านี้มิใช่หรือ?”

ช่างรถหัวเราะเบา ๆ แล้วตอบลูกว่า “เจ้าหนู หากเราอุดตรงกลางจนแน่น ล้อนี้จักใส่เพลามิได้ รถก็เคลื่อนไปมิได้ ความว่างนี่แหละ ทำให้รถวิ่งได้ดั่งใจ”

คำพูดนั้นแว่วเข้าโสตข้า ราวกับค้อนตอกลงในใจ “ข้า… คิดผิดมานาน ว่ามีแต่สิ่งที่จับต้องได้จึงมีค่า แท้จริงสิ่งว่างเปล่ากลับทำให้สิ่งทั้งหลายหมุนเวียนและเคลื่อนไหวได้”

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณค่าของความว่างเปล่า

ข้าจากหมู่บ้านเดินต่อไปจนถึงตลาดเก่า แผงหนึ่งมีช่างปั้นหม้อกำลังทำงานอยู่ แป้นหมุนเสียงดังเอี๊ยด มือของเขาขึ้นรูปดินอย่างอ่อนโยนจนหม้อค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาจากดินเหนียว

หญิงชราผู้ซื้อหม้อยืนดู พลางบ่นว่า “หม้อนี้บางเกินไปหรือไม่ หากทำให้ดินหนา ๆ คงแข็งแรงกว่า”

ช่างปั้นหัวเราะ ตบฝุ่นดินออกจากมือแล้วตอบ “คุณยาย หากหม้อนี้หนาจนเต็มกลวงมิได้ จะใส่น้ำหรือข้าวลงไปอย่างไร? สิ่งที่ท่านใช้หาใช่เนื้อดินภายนอก แต่คือความว่างภายในต่างหาก”

คำตอบนั้นดังก้องในอกข้าอีกครั้ง “ข้า… เพิ่งตื่นหรือ สิ่งที่ผู้คนเห็นเป็นเปลือกนอก แต่สิ่งที่ใช้จริงหาใช่สิ่งที่ตาเห็นไม่ หากคือสิ่งว่างที่อยู่ภายใน”

ข้ายืนฟังอยู่นาน แล้วจดจำถ้อยคำนั้นลงลึกในใจ ความหมายเริ่มขยายกว้างขึ้นราวกับช่องว่างในหม้อที่ไม่มีที่สิ้นสุด

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณค่าของความว่างเปล่า 2

เมื่อก้าวพ้นตลาด ข้าเดินไปถึงเชิงเขาอีกฟากหนึ่ง ที่นั่นมีเรือนไม้เก่า ๆ ตั้งอยู่กลางทุ่ง ชายหนุ่มสองคนกำลังซ่อมบ้าน พวกเขาตอกแผ่นไม้ปิดรูผนัง พลางพูดคุยกันว่า

“ถ้าเราไม่สร้างหน้าต่างเสีย บ้านก็คงแข็งแรงขึ้นนะ” อีกคนตอบ “ไม่จริง แต่ถ้าไร้หน้าต่าง ก็ไม่มีแสงเข้า ถ้าไร้ประตู ก็ไม่มีทางเข้าออก บ้านนี้ก็จะเป็นเพียงหีบไม้ใบใหญ่เท่านั้นเอง”

ข้ายืนฟังอยู่นอกเรือน ลมพัดกลิ่นหญ้าแห้งมาแตะจมูก ข้าเหลียวดูช่องว่างในประตู หน้าต่าง และห้องว่างภายใน พลันใจข้าสะท้าน “ข้า… รู้แล้ว บ้านมิได้เป็นบ้านเพราะไม้ที่ก่อเป็นผนัง แต่เป็นเพราะความว่างภายใน ที่ทำให้มนุษย์พักพำนักได้”

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณค่าของความว่างเปล่า 3

ยามเย็น ข้ากลับสู่ทางขึ้นเขา แสงอาทิตย์กำลังอัสดง สาดสีทองเรื่อเรืองทั่วท้องฟ้า ข้านั่งลงใต้ต้นสนใหญ่ เขียนบันทึกนี้ด้วยใจสงบ

“ข้า… ได้เห็นแล้วว่า สิ่งที่มีรูปร่างทำให้เกิดความงามและความมั่นคง แต่สิ่งที่ไร้รูปร่างต่างหาก ที่เกื้อหนุนให้เกิดประโยชน์แท้จริง ล้อหมุนเพราะความว่างตรงดุม หม้อใช้ได้เพราะความกลวงใน บ้านอยู่อาศัยได้เพราะห้องว่าง”

“สิ่งที่มีอยู่ คือเครื่องประกอบภายนอก แต่สิ่งที่ไม่มีอยู่ คือแก่นแท้ของคุณค่า”

เมื่อตะวันลับสู่ขอบฟ้า เงาภูเขาโอบกอดทั่วหล้า ข้าหลับตาฟังเสียงลมพัดผ่านใบสน พลันตระหนักว่า ความว่างมิใช่ความสูญสลาย แต่คือที่มาของคุณค่าแท้ดุจเดียวกับล้อ หม้อ และเรือนที่ได้เห็นมา

และแล้ว ข้าจึงรู้ว่า แท้จริงแล้ว ความว่างนี่เอง คือประโยชน์สูงสุดแห่งสรรพสิ่ง

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณค่าของความว่างเปล่า 4

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ความว่างหาใช่ความไร้ค่าไม่ หากเป็นแก่นแท้แห่งคุณประโยชน์ในสรรพสิ่ง ทุกสิ่งที่มีรูปและรูปร่าง แม้จะงดงามหรือแข็งแรง หากไร้ความว่างข้างใน ก็ไม่สามารถทำงาน ใช้สอย หรือให้คุณค่าที่แท้จริงได้

ล้อไม้แม้จะทำจากซี่ไม้มากมาย แต่รถจะหมุนได้เพราะช่องว่างตรงกลางดุม หม้อดินแม้มีผนังหนาแข็งแรง หากไม่มีความกลวงข้างในก็ไม่อาจใส่น้ำหรือข้าวได้ บ้านแม้สร้างด้วยไม้แข็งแรง หากไม่มีห้องว่าง ประตูหน้าต่างก็ไม่สามารถอยู่ได้ สิ่งทั้งหลายจึงทำงาน ใช้สอย และมีค่าได้เพราะความว่างที่อยู่ภายใน ไม่ใช่เพราะเนื้อวัสดุเพียงอย่างเดียว ความว่างนี้แหละคือสิ่งที่ทำให้ทุกสิ่งเกิดประโยชน์แท้จริง

อ่านต่อ: นิทานเต้าเต๋อจิงสรุปจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิงเล่าในรูปแบบนิทานสนุกและเข้าใจง่ายได้ข้อคิดดี ๆ

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณค่าของความว่างเปล่า (อังกฤษ: The Use of what has no Substantive Existence) นิทานเรื่องนี้มาจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิง บทที่ 11 ซึ่งกล่าวถึงคุณลักษณะของสิ่งที่มีและสิ่งที่ว่างเปล่า การบรรลุถึงความสมดุลในชีวิต และการเข้าใจแก่นแท้ของการใช้สอยอย่างเป็นธรรมชาติ เล่าจื๊อได้สอนว่า สิ่งที่จับต้องได้ เช่น ล้อ หม้อ หรือบ้าน แม้มีรูปทรงและวัสดุที่มั่นคง ก็ไม่สามารถให้ประโยชน์สูงสุดได้ หากปราศจากความว่างภายใน ความว่างนี้เองที่ทำให้สิ่งเหล่านั้นทำงาน ใช้สอย และเกิดคุณค่า โดยเล่าจื๊อได้เขียนไว้ว่า:

คุณค่าของความว่างเปล่า

ซี่ล้อสามสิบรวมกันอยู่ในวงล้อเดียว แต่การหมุนได้ของล้อขึ้นอยู่กับความว่างตรงดุมกลาง หม้อดินแม้ถูกปั้นให้เป็นรูปทรงงดงาม การใช้งานของมันก็เกิดจากความกลวงภายใน บ้านที่เจาะประตูและหน้าต่างเพื่อจัดเป็นที่อยู่อาศัย การใช้สอยของบ้านนั้นขึ้นอยู่กับช่องว่างข้างใน ดังนั้น สิ่งที่มีตัวตนปรากฏทำให้เกิดประโยชน์ชัดเจน แต่สิ่งที่ว่างเปล่าหรือไร้ตัวตนกลับเป็นเหตุให้เกิดการใช้สอยอย่างแท้จริง

เล่าจื๊อสอนว่า การเข้าใจความว่างคือการเข้าใจเต๋าอย่างลึกซึ้ง หนทางที่จะดำเนินชีวิตอย่างสงบและสมดุลมิใช่การยึดติดกับสิ่งที่มีตัวตนหรือพยายามเติมเต็มทุกช่องว่าง แต่คือการรู้จักใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้คุณค่ากับสิ่งที่ว่างอยู่ภายใน โดยไม่ฝืนหรือควบคุม

นิทานเรื่องนี้จึงถูกแต่งขึ้นเพื่อสะท้อนคำสอนของเต๋า แสดงให้เห็นว่า การมองเห็นคุณประโยชน์ของความว่าง และการปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ เป็นไปตามธรรมชาติ คือหนทางที่จะเข้าถึงความสมดุล ความสงบ และความงดงามของชีวิตอย่างแท้จริง

คติธรรม: “สิ่งที่จับต้องได้อาจดูมั่นคงและงดงาม แต่คุณค่าที่แท้จริงของมันมิได้เกิดจากรูปร่างหรือเนื้อวัสดุ หากแต่เกิดจากความว่างภายในที่ทำให้มันใช้สอยได้ ทำให้หมุนได้ ทำให้บรรจุสิ่งของได้ และทำให้ผู้อยู่อาศัยมีที่ว่างสำหรับชีวิต ความว่างนี้เองคือหัวใจของประโยชน์และคุณค่า ความว่างมิใช่ความไร้ค่า หากเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกสิ่งเกิดผลและทำงานได้อย่างแท้จริง”