ปกนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการใช้ความอ่อนโยนของหลักเต๋า

นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการใช้ความอ่อนโยนของหลักเต๋า

ในโลกนี้ หลายคนมักเชื่อว่าความเข้มแข็งและการต่อสู้คือหนทางสู่ความสำเร็จ แต่คำสอนของเต๋ากลับชี้ว่า ความอ่อนโยนและความสงบ บางครั้งกลับทรงพลังยิ่งกว่าความแข็งกร้าว

มีนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหนึ่ง ที่เล่าจื๊อถ่ายทอดเรื่องราวของผู้คนที่เผชิญกับความแข็งกระด้าง และเรียนรู้ถึงพลังอันเงียบสงบของสิ่งที่อ่อนโยน โดยไม่ต้องใช้แรงหรือการบังคับใด ๆ กับนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการใช้ความอ่อนโยนของหลักเต๋า

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการใช้ความอ่อนโยนของหลักเต๋า

เนื้อเรื่องนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการใช้ความอ่อนโยนของหลักเต๋า

รุ่งอรุณวันนั้น หมอกบางคลออยู่เหนือกำแพงเมืองตะวันตก ชาวบ้านนับร้อยหลั่งไหลมารวมกัน พวกเขาทั้งดีใจที่ได้พบหน้าท่านเล่าจื๊อครั้งสุดท้าย และเศร้าโศกที่ต้องกล่าวลา

ชายหนุ่มคนหนึ่งตะโกนด้วยเสียงสั่นเครือ “ท่านอาจารย์ โปรดสอนเราด้วยเถิด! เราอยากได้ถ้อยคำที่จะทำให้ชีวิตไม่หลงทางอีกต่อไป”

หญิงชราผู้หนึ่งยื่นมือที่สั่นเทาออกไป “โปรดมอบเคล็ดลับ ที่จะทำให้เราแข็งแรงเหมือนภูผา เราจะได้ไม่หวาดหวั่นต่อพายุร้าย”

เสียงร้องขอผสมกับเสียงสะอื้น บ้างหวังคำคมสลักหิน บ้างปรารถนาคำสาบานที่จะค้ำจุนชีวิต พลังแห่งความ “อยากได้สิ่งแข็งแรงแน่นอน” ลอยอวลเต็มอากาศ

เล่าจื๊อยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางฝูงชน ดวงตาท่านมองออกไปไกลเกินฟ้าหรือเพียงลึกเข้าไปในความว่างก็ไม่มีใครรู้ ร่างท่านสงบเสมือนสายน้ำที่ไหลเอื่อยไม่หวั่นไหวต่อความเร่งเร้ารอบข้าง

เล่าจื๊อค่อย ๆ คุกเข่าลงต่อหน้าฝูงชน มือวาดเส้นโค้งลงบนทรายทีละน้อย จนกลายเป็นวงกลมเรียบง่าย ไม่มีถ้อยคำ ไม่มีสัญลักษณ์ใด ๆ ประกอบ

เสียงซุบซิบดังขึ้นทันที
“นี่คืออะไร วงกลมเปล่า ๆ งั้นหรือ?”
“เราอยากได้ตำราศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เส้นดินไร้ค่า!”

บางคนหัวเราะเยาะ บ้างถอนหายใจหนักหน่วง เสียงทะเลาะถกเถียงดังแข่งกัน เหมือนเกราะเหล็กกระทบเกราะเหล็ก แข็งกระด้าง แข็งกร้าว

แต่เล่าจื๊อกลับเพียงยกมือ ปาดวงกลมนั้นให้เลือนหาย เหลือเพียงทรายเรียบว่างเปล่า ไม่ทิ้งร่องรอยใดไว้

ทันใดนั้น ความเงียบแผ่กว้างเหมือนผืนหมอกคลี่คลุม ผู้คนที่โวยวายกลับพูดไม่ออก ความ “ว่าง” อันนุ่มนวลซึมลึกเข้าสู่หัวใจทีละน้อย ทำลายกำแพงแห่งความดื้อรั้นและความอยากได้สิ่งมั่นคงแข็งแรงอย่างไม่รู้ตัว

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการใช้ความอ่อนโยนของหลักเต๋า 2

ชาวบ้านหลายคนยังยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น บ้างขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ บ้างหลุบตาลงอย่างเศร้าสร้อย เพราะสิ่งที่ได้จากเล่าจื๊อกลับเป็นความว่างเปล่า ไม่ใช่ “คำสอนแข็งแรง” อย่างที่ใฝ่หา

ชายคนหนึ่งเดินมาด้านหน้า จ้องพื้นดินที่ราบเรียบไร้ร่องรอยอยู่นาน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นถามเสียงใส “อาจารย์ วงกลมที่หายไปนั้น หมายความว่าอะไรหรือครับ?”

เล่าจื๊อหันมายิ้มบาง ๆ สายตาท่านอ่อนโยนดุจสายน้ำ “ข้าแค่กำลังใช้หลักความอ่อนโยนแห่งวิถีเต๋าน่ะ”

“หากข้ายึดติดอยู่กับวงกลมนี้ วงกลมก็จะคุมข้าและจำกัดใจข้า แต่เมื่อข้าปัดมันทิ้ง ข้าไม่ได้ทำลายอะไรเลย เพียงแต่ปล่อยให้มันกลับสู่ความว่าง ซึ่งแท้จริงแล้ว นี่คือความสมดุลและแก่นของมัน”

“พวกเจ้าจงจำไว้ว่า สิ่งที่แท้จริงไม่อยู่ในรูปแบบ ไม่อยู่ในภาพที่ข้าวาดขึ้น แต่ซ่อนอยู่ในความสงบและความอ่อนโยนของใจเราเอง การไม่ยึดติดเช่นนี้ ทำให้เจ้าเข้าใจความอ่อนโยนที่มีพลังเหนือสิ่งแข็งกร้าว และรู้จักซึมซับแก่นแท้ของสรรพสิ่ง”

คำพูดเรียบง่ายนั้น ทำให้ฝูงชนบางส่วนเริ่มเงียบลง เสียงโต้เถียงที่เคยแข็งกร้าวเหมือนหิน กลับถูกซึมซับด้วยความสงบ นุ่มนวลราวหมอกบางคลี่คลุม

เล่าจื๊อลุกขึ้นยืนเงียบงันอยู่ท่ามกลางฝูงชน ความนิ่งของท่านเหมือนจะกดทับเสียงทุกเสียงให้หายไป เหลือเพียงสายลมเบาที่พัดผ่านกำแพงเมือง

ท่านเอ่ยเบา ๆ แต่ทุกถ้อยคำชัดเจนในใจผู้ฟัง
“สิ่งที่อ่อนโยนที่สุด แม้เบา แต่ก็ทำให้สิ่งแข็งที่สุดพังได้
สิ่งที่ไม่มีตัวตน ก็สามารถซึมเข้าไปในทุกที่ได้
ข้าจึงรู้คุณค่าของการไม่ฝืน การทำอะไรโดยไม่บังคับ บางครั้งกลับได้ผลที่สุด”

เมื่อสิ้นเสียงนั้น เล่าจื๊อก็ก้าวเดินไปทางตะวันตก โดยไม่หันกลับมาอีกเลย เหลือเพียงความเงียบอันลึกซึ้งที่ค่อย ๆ ซึมซาบสู่ใจชาวบ้านทุกคน

บางคนร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้สาเหตุ บางคนยิ้มอย่างสงบเหมือนได้รับคำตอบที่หามานาน
และบางคนเริ่มเข้าใจ ว่าคำสอนที่แท้จริงอาจไม่ต้องมีถ้อยคำใด ๆ เลย

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการใช้ความอ่อนโยนของหลักเต๋า 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… บางครั้งความอ่อนโยนและความสงบ ไม่ได้หมายถึงความอ่อนแอหรือไม่มีค่า แต่กลับมีพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าความแข็งแรงและการบังคับ การทำสิ่งใดด้วยใจเบา ๆ ไม่ผลักดัน ไม่ยัดเยียด ไม่ขัดขืน สามารถทำให้สิ่งที่แข็งกระด้างที่สุดค่อย ๆ เปลี่ยนไป หรือถูกสัมผัสอย่างลึกซึ้งโดยไม่รู้ตัว นี่แหละการใช้ความอ่อนโยนของเต๋า

สิ่งที่ดูเหมือนไม่มีตัวตน ไม่มีรูปร่าง หรือไม่มีคำสั่งชัดเจน เช่น ความเงียบ ความว่างเปล่า หรือการไม่ทำอะไรโดยเจตนา กลับสามารถซึมเข้าไปในหัวใจของผู้คนได้เหมือนลมหมอกที่แทรกทุกซอกทุกมุม ผู้คนที่เคยยึดติดกับความแข็งกระด้างหรือความต้องการคำตอบแน่นอน ค่อย ๆ สงบลง สังเกตตัวเอง และเริ่มเข้าใจสิ่งที่แท้จริงโดยไม่ต้องมีถ้อยคำหรือกฎเกณฑ์ใด ๆ ชี้ให้เห็นว่า บางครั้ง “การไม่ทำ” และความอ่อนโยนคือพลังที่แท้จริงที่สุด

อ่านต่อ: นิทานเต้าเต๋อจิงสรุปจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิงเล่าในรูปแบบนิทานสนุกและเข้าใจง่ายได้ข้อคิดดี ๆ

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องการใช้ความอ่อนโยนของหลักเต๋า (อังกฤษ: The Universal Use of The Action in Weakness of The Dao) นิทานเรื่องนี้มาจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิงบทที่ 43 ซึ่งกล่าวถึงการใช้ความอ่อนโยนที่อ่อนที่สุด แต่กลับสามารถพุ่งชนและเอาชนะความแข็งกร้าวที่สุด และสิ่งที่ไร้ตัวตนกลับแทรกซึมเข้าสู่ที่ที่ไร้รอยแยกได้ ความสงบและความอ่อนโยนคือคุณสมบัติสูงสุดของเต๋า เพราะสรรพสิ่งที่ดำรงอยู่ หากสามารถละทิ้งความดื้อรั้นและยึดมั่นเพียงตนเอง จะสามารถปรับเข้ากับทุกสิ่งรอบตัวได้ และพลังที่แท้จริงมักมาจากความว่างและความไม่ฝืนบังคับนี่เอง โดยเล่าจื๊อได้บันทึกไว้ว่า:

การใช้ประโยชน์จากหลักสากลแห่งความอ่อนโยนของวิถีเต๋า

สิ่งที่อ่อนโยนที่สุดในโลก กลับสามารถพุ่งชนและเอาชนะสิ่งที่แข็งกระด้างที่สุดได้
สิ่งที่ไร้ตัวตน กลับสามารถแทรกซึมเข้าสู่ที่ที่ไร้รอยแยกได้

จากนี้ ข้าพเจ้าจึงเข้าใจถึงคุณค่าของ “การไม่ทำโดยมีเจตนา”

แต่ในโลกนี้ มีน้อยนักที่จะเข้าถึง “คำสอนที่ไร้ถ้อยคำ” และเข้าใจถึงคุณประโยชน์อันแท้จริงของ “การไม่กระทำ”

โดยเล่าจื๊อสอนว่า ผู้ที่เข้าใจคุณสมบัติเช่นนี้ ย่อมสามารถรับมือกับความแข็งกร้าวของโลกโดยไม่ถูกทำร้าย เข้าใจธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ และสามารถดำรงอยู่ในความสงบ แม้จะเผชิญกับความรุนแรงหรืออุปสรรคที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จิตใจที่อ่อนโยนและเปิดกว้างนั้นจึงซึมซับทุกสิ่งได้ดีกว่าความแข็งแรงหรือการบังคับใด ๆ

นิทานเรื่องนี้จึงถูกแต่งขึ้นเพื่อสะท้อนคำสอนในบทดังกล่าว โดยเปรียบความเงียบและความว่างของเล่าจื๊อระหว่างการจากลากับหัวใจของผู้คนรอบตัว ความอ่อนโยนที่ไม่ปรากฏชัดแต่ซึมลึกลงไปในใจผู้คน ทำให้ผู้ที่แข็งกร้าวที่สุดค่อย ๆ เข้าใจและปรับตัว และนี่คือหัวใจของ “การใช้ความอ่อนโยนของวิถีเต๋า” ที่เล่าจื๊อต้องการให้ผู้คนเรียนรู้และซึมซับ

คติธรรม: “ความอ่อนโยนและความสงบ แม้เบาและเงียบ กลับคลายกำแพงความแข็งกระด้างในใจผู้คน นี่แหละแก่นของ การใช้ความอ่อนโยนของเต๋า”