นิทานอีสปเรื่องหนูในเมืองกับหนูชนบท

ปกนิทานอีสปเรื่องหนูในเมืองกับหนูชนบท

ในโลกนี้ บางคนเลือกที่จะไขว่คว้าความมั่งคั่ง หรูหรา และความสะดวกสบาย ขณะที่บางคนให้คุณค่ากับความสงบสุขและอิสรภาพ แต่แท้จริงแล้ว อะไรคือความสุขที่แท้จริง?

ณ ที่แห่งหนึ่ง มีสัตว์สองตัวที่ใช้ชีวิตแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หนูชนบทเติบโตมากับธรรมชาติ ดำรงชีวิตอย่างเรียบง่าย ในขณะที่หนูเมือง อาศัยอยู่ท่ามกลางความหรูหราและอาหารอันอุดมสมบูรณ์ เมื่อทั้งสองได้พบกัน หนูเมืองเชิญชวนให้หนูชนบทมาสัมผัสชีวิตในเมือง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างความหรูหราและความสงบสุข กับนิทานอีสปเรื่องหนูในเมืองกับหนูชนบท

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องหนูในเมืองกับหนูชนบท

เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องหนูในเมืองกับหนูชนบท

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ทุ่งกว้างไกลสุดสายตา ที่ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาและลำธารใสไหลผ่าน หนูตัวเล็ก ๆ อาศัยอยู่ในโพรงใต้ต้นไม้ มันคือหนูชนบท ที่เติบโตมากับอากาศบริสุทธิ์และวิถีชีวิตเรียบง่าย ทุกวันมันจะออกมาหาอาหารจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นลูกโอ๊ก เมล็ดข้าว หรือถั่วป่า แม้จะไม่หรูหรา แต่มันก็มีความสุขกับสิ่งที่มี

วันหนึ่งหนูเมือง เพื่อนเก่าของมันเดินทางมาเยี่ยม หนูเมืองเป็นหนูที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ในเมืองหลวง มันเดินมาอย่างสง่างาม ขนของมันสะอาดสะอ้าน ต่างจากหนูชนบทที่เต็มไปด้วยฝุ่นดิน

“โอ้ เพื่อนรัก!” หนูชนบทร้องทักด้วยความดีใจ “เจ้าเดินทางมาไกล คงเหนื่อยมากแล้ว รีบเข้ามาสิ ข้าจะหาอาหารให้เจ้า!”

หนูชนบทนำลูกโอ๊ก เมล็ดพืช และผลไม้ป่าเล็ก ๆ มาวางไว้ตรงหน้าเพื่อน แต่น้ำเสียงของหนูเมืองเต็มไปด้วยความผิดหวัง “นี่หรืออาหารของเจ้า? ลูกโอ๊กแห้ง ๆ เมล็ดพืชแข็ง ๆ นี่น่ะหรือที่เจ้ากินทุกวัน?”

หนูชนบทยิ้มพลางกล่าว “ใช่สิ ข้ากินแบบนี้ทุกวัน และมันก็ดีต่อข้ามาก”

หนูเมืองหัวเราะเบา ๆ “ชีวิตเจ้าช่างลำบากนัก เจ้ารู้หรือไม่ว่าในเมือง อาหารมีมากมายกว่านี้หลายเท่า? ที่บ้านของข้า ขนมปังแสนอร่อย ชีสหอมหวาน และผลไม้สดใหม่มีให้เลือกกินไม่รู้จบ! เจ้าควรมาอยู่กับข้าเถอะ ที่นั่นดีกว่าที่นี่มาก!”

หนูชนบทเริ่มลังเล “จริงหรือ? บ้านของเจ้าน่าอยู่เช่นนั้นจริงหรือ?”

“แน่นอน! ข้ารับรองว่าเจ้าจะไม่ผิดหวัง!” หนูเมืองกล่าวอย่างมั่นใจ

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง หนูชนบตก็ตัดสินใจตอบ “เช่นนั้น ข้าจะไปกับเจ้า ข้าอยากเห็นว่าชีวิตในเมืองเป็นเช่นไร”

หลังจากเดินทางไกล ในที่สุดหนูทั้งสองก็มาถึงบ้านหลังใหญ่ของหนูเมือง มันเป็นบ้านที่โอ่อ่า มีห้องกว้างขวางและเฟอร์นิเจอร์หรูหรา หนูชนบทตื่นตาตื่นใจกับทุกสิ่งที่เห็น

“ที่นี่ใหญ่เหลือเกิน!” มันอุทาน “และสะอาดกว่าบ้านของข้ามากนัก!”

“แน่นอน!” หนูเมืองกล่าว “แต่นั่นยังไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด! มาดูสิ อาหารของข้า!”

มันพาเพื่อนเข้าไปยังห้องครัว ที่ซึ่งโต๊ะยาวเต็มไปด้วยขนมปัง ชีส เนื้อแห้ง และผลไม้แสนอร่อย หนูชนบทเบิกตากว้าง “โอ้! อาหารมากมายขนาดนี้!”

“ใช่แล้ว! เชิญกินให้เต็มที่!”

หนูชนบทไม่รอช้า รีบคว้าชิ้นขนมปังมากัด มันรู้สึกถึงความนุ่มและรสชาติที่แตกต่างจากเมล็ดพืชที่มันเคยกิน หนูเมืองเองก็กินอย่างเพลิดเพลิน ทั้งสองกำลังดื่มด่ำกับอาหารชั้นเลิศ

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องหนูในเมืองกับหนูชนบท 2

แต่ทันใดนั้น “แกร๊ก!”

เสียงประตูเปิดดังลั่น หนูเมืองสะดุ้งทันที “เร็วเข้า! ซ่อนตัว!”

มันรีบวิ่งไปยังรูเล็ก ๆ ที่คุ้นเคย ขณะที่หนูชนบทตกใจจนขาแข็ง “เกิดอะไรขึ้น!? ใครมา!?”

“เป็นพ่อบ้าน! ถ้าเขาเห็นเรา เราจะเดือดร้อนแน่!”

หนูชนบทแตกตื่น วิ่งวุ่นไปทั่วห้อง ไม่รู้ว่าควรซ่อนตัวที่ไหน ขณะที่พ่อบ้านเดินเข้ามาหยิบของจากโต๊ะ มันได้แต่วิ่งหลบอยู่ใต้เก้าอี้ หัวใจเต้นรัว

เมื่อพ่อบ้านหยิบของเสร็จและปิดประตูไป หนูเมืองจึงโผล่ออกมา “เอาล่ะ ปลอดภัยแล้ว เจ้าสามารถออกมาได้”

หนูชนบทค่อย ๆ เดินออกมาด้วยอาการตัวสั่น “ข้ายังกลัวไม่หาย! เจ้าคิดว่ามนุษย์จะกลับมาอีกหรือไม่?”

“อาจจะ แต่ไม่ต้องกังวลไปหรอก ข้าอยู่ที่นี่มานาน ข้ารู้วิธีหลบซ่อน เจ้าแค่ต้องคุ้นชินกับมันเท่านั้น!”

“ข้าจะทำได้อย่างไร?” หนูชนบทกล่าวอย่างลังเล “ข้าไม่เคยต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เช่นนี้มาก่อน ที่บ้านของข้า ข้ากินอาหารของข้าได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะมีใครมาขัดจังหวะ”

“แต่เจ้าจะหาของอร่อยเช่นนี้จากที่ไหนได้อีก!?” หนูเมืองยืนยัน

หนูชนบทส่ายหัว “สำหรับข้า ลูกโอ๊กก็เพียงพอแล้ว ตราบใดที่ข้ามีอิสระและไม่ต้องหวาดกลัว!”

วันรุ่งขึ้น หนูชนบทตัดสินใจออกเดินทางกลับบ้าน มันหันไปมองหนูเมืองเป็นครั้งสุดท้าย “ขอบใจเจ้าที่พาข้ามาที่นี่ มันเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่ข้าคิดว่าชีวิตของข้าที่บ้านเหมาะกับข้ามากกว่า”

“เจ้าแน่ใจหรือ? เจ้ากำลังจะทิ้งอาหารแสนอร่อยไป!”

“ข้าแน่ใจแล้ว ข้าอยากมีชีวิตที่สงบสุขมากกว่าการมีอาหารหรูหราท่ามกลางความหวาดระแวง”

หนูเมืองมองเพื่อนของมันจากไป มันเองก็รู้ว่าไม่ใช่ทุกตัวที่สามารถใช้ชีวิตในเมืองได้ เช่นเดียวกับที่ไม่ใช่ทุกตัวที่สามารถใช้ชีวิตในชนบท

หนูชนบทเดินทางกลับบ้าน มันสูดอากาศบริสุทธิ์ของท้องทุ่ง พลางคิดกับตัวเอง “บางครั้ง ความสงบสุขก็สำคัญกว่าความหรูหรา ข้าขอเลือกใช้ชีวิตที่เรียบง่าย แต่ปลอดภัย และเป็นอิสระ”

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องหนูในเมืองกับหนูชนบท 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ความมั่งคั่งไม่ได้มีค่ามากกว่าความสงบสุข” หนูเมืองมีอาหารหรูหรามากมาย แต่ต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง ผิดกับหนูชนบทที่แม้จะมีเพียงอาหารธรรมดา แต่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและปลอดภัย

“ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน” หนูเมืองคิดว่าความหรูหราคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่หนูชนบทกลับให้คุณค่ากับอิสรภาพและความสงบ ทุกคนมีทางเลือกของตนเอง และสิ่งที่ดีสำหรับคนหนึ่ง อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอีกคน

“ชีวิตที่เรียบง่ายแต่ปราศจากความหวาดกลัว อาจมีค่ามากกว่าความมั่งคั่งที่ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยง”

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานอีสปเรื่องหนูในเมืองกับหนูชนบท (อังกฤษ: The Town Mouse and the Country Mouse) เป็นหนึ่งในนิทานอีสป นิทานเรื่องนี้ได้รับการจัดอยู่ในลำดับที่ 352 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) รวมถึงเป็นนิทานประเภท 112 ในดัชนีนิทานพื้นบ้านของ Aarne–Thompson เช่นเดียวกับองค์ประกอบอื่น ๆ ในนิทานอีสปหนูเมืองกับหนูชนบท ได้กลายเป็นสำนวนในภาษาอังกฤษ “town mouse and country mouse” ที่ใช้เปรียบเทียบวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองใหญ่และชนบท

ในนิทานต้นฉบับหนูเมืองผู้โอหังเดินทางมาเยี่ยมลูกพี่ลูกน้องของมันในชนบท หนูชนบทต้อนรับด้วยอาหารเรียบง่ายตามแบบชนบท แต่หนูเมืองกลับดูแคลนและเชิญให้หนูชนบทไปสัมผัส “ชีวิตหรูหรา” ในเมือง

เมื่อไปถึงเมือง ทั้งสองได้เพลิดเพลินกับขนมปังขาวและอาหารเลิศรส แต่ไม่ทันไร งานเลี้ยงของพวกมันก็ถูกขัดจังหวะ เมื่อแมวปรากฏตัว ทำให้ทั้งคู่ต้องทิ้งอาหารและหนีตายกลับเข้าไปในรูหนู

หนูเมืองเล่าว่าแมวตัวนี้เป็นต้นเหตุที่พรากพ่อแม่ของมันจากมันไป และมันก็มักจะตกเป็นเป้าหมายของการไล่ล่าอยู่เสมอ เมื่อได้ฟังเช่นนั้นหนูชนบทตัดสินใจกลับบ้านทันที เพราะมันให้คุณค่ากับความปลอดภัยมากกว่าความหรูหรา

หรือดังที่โอโดแห่งเชอริตัน (Odo of Cheriton) นักเทศน์ในศตวรรษที่ 13 ได้กล่าวไว้ว่า “ข้ายอมแทะถั่วดีกว่าถูกความหวาดกลัวกัดกินอยู่ตลอดเวลา”

“การมีชีวิตอย่างเรียบง่ายและพอเพียง ย่อมดีกว่าการใช้ชีวิตในความมั่งคั่งที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงและอันตราย”

นิทานอีสปเรื่องอื่น ๆ

ติดตามนิทานทุกรูปแบบได้ที่ talezzz.com