นิทานอีสปเรื่องเต่ากับอินทรี

ปกนิทานอีสปเรื่องเต่ากับอินทรี

ในโลกนี้ ไม่ใช่ทุกสิ่งที่เกิดมาเหมือนกัน บางตัวถูกสร้างมาให้บินบนท้องฟ้า บางตัวถูกสร้างมาให้ว่ายในน้ำ และบางตัวก็เหมาะกับการเดินบนพื้นดิน แต่เมื่อความอิจฉาและความทะเยอทะยานเข้าครอบงำ จิตใจของเราก็อาจไขว่คว้าสิ่งที่ไม่ใช่ของเรา โดยไม่ทันคิดว่านั่นอาจนำไปสู่หายนะ

เต่าตัวหนึ่งใช้ชีวิตอย่างเชื่องช้าอยู่ริมหนองน้ำ แต่มันไม่เคยพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี มันเฝ้ามองนกที่บินอยู่บนฟ้าและอิจฉาในอิสรภาพของพวกมัน จนกระทั่งวันหนึ่ง มีผู้ยื่นข้อเสนอให้มันได้สัมผัสท้องฟ้าดั่งที่มันต้องการ แต่สิ่งที่รออยู่เบื้องหน้านั้น ไม่ใช่อิสรภาพอย่างที่มันคาดหวัง กับนิทานอีสปเรื่องเต่ากับอินทรี

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องเต่ากับอินทรี

เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องเต่ากับอินทรี

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว กลางหนองน้ำกว้างใหญ่ เต่าตัวหนึ่งอาศัยอยู่ตามลำพัง มันเคลื่อนที่อย่างเชื่องช้า และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย วันแล้ววันเล่า มันเฝ้าดูนกเฉี่ยว นกนางนวล และนกนางแอ่นทะเลโบยบินผ่านไปอย่างอิสระ มันอิจฉานัก เพราะพวกนกเหล่านั้นสามารถเดินทางไปได้ทุกที่ โดยไม่ต้องติดอยู่กับพื้นดินที่ขรุขระเหมือนตัวมัน

“ถ้าข้ามีปีกเหมือนพวกเจ้าก็คงดี ข้าจะบินสูงขึ้นไปเหนือผืนน้ำและมองเห็นโลกในมุมที่กว้างกว่านี้!” เต่ารำพึงกับตัวเอง พลางถอนหายใจ

ฝูงนกที่บินผ่านไปได้ยินคำพูดของเต่า นกตัวหนึ่งหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “เจ้าเป็นเต่า เจ้าเกิดมาเพื่ออยู่บนพื้นดิน มิใช่ท้องฟ้า อย่าฝันถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย!”

แต่เต่าไม่ยอมรับชะตากรรมของตน มันยังคงเฝ้ามองนกทั้งหลายด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า จนกระทั่งวันหนึ่ง อินทรีผู้สง่างามบินโฉบผ่านและได้ยินคำอ้อนวอนของเต่า มันร่อนลงมาตรงหน้าเต่าพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“เจ้าอยากบินจริงหรือ?” อินทรีถาม เต่าดีใจที่มีผู้ยินดีฟังความปรารถนาของมัน จึงรีบพยักหน้า “แน่นอน! ข้าใฝ่ฝันจะได้โบยบินเหนือแผ่นดินนี้ ข้าต้องการสัมผัสอิสรภาพของสายลม!”

อินทรีหัวเราะเบา ๆ แล้วกล่าวขึ้น “หากข้าทำให้เจ้าบินได้ เจ้าจะให้อะไรแก่ข้าเป็นรางวัล?”

เต่าครุ่นคิด แม้มันไม่มีทรัพย์สมบัติใด ๆ แต่มันก็ตอบอย่างมั่นใจ “ข้าจะมอบของขวัญทั้งหมดจากท้องทะเลตะวันออกให้เจ้า!”

อินทรียิ้มกว้าง พลางคิดในใจว่า “เจ้าเต่านี่ช่างโง่เขลาเสียจริง มันไม่มีอะไรจะให้ข้าเลย” แต่มันก็แสร้งทำเป็นจริงจัง แล้วตอบกลับไป “งั้นข้าจะสอนเจ้าเอง”

ว่าแล้ว อินทรีใช้กรงเล็บอันแข็งแกร่งจับเต่าพลิกหงายขึ้น แล้วโผบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

อินทรีพาเต่าทะยานขึ้นไปสูงขึ้นเรื่อย ๆ ลมพัดผ่านร่างของเต่าที่ไม่เคยสัมผัสอากาศเช่นนี้มาก่อน หัวใจของมันเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น มันเฝ้ามองหนองน้ำที่เล็กลงทุกที พื้นดินด้านล่างดูราวกับเป็นพรมกว้างใหญ่ “ข้ากำลังบิน! ข้ากำลังบิน!” เต่าร้องออกมาด้วยความดีใจ

อินทรีหัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า “ใช่ เจ้ากำลังอยู่บนฟ้า เช่นเดียวกับพวกเรา”

เต่าเริ่มหลงใหลในทิวทัศน์ที่มันไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกสิ่งดูเล็กและไกลออกไป มันรู้สึกเหมือนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของท้องฟ้า

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องเต่ากับอินทรี 2

แต่แล้ว อินทรีก็บินสูงขึ้นไปอีก จนกระทั่งพวกเขาหายลับเข้าไปในกลุ่มเมฆ เต่ามองไปรอบ ๆ มีเพียงหมอกขาวโอบล้อม “ข้ารู้สึกหนาว… อินทรี พอแล้ว ข้าอยากกลับลงไป”

อินทรีแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน มันบินสูงขึ้นไปอีก

“อินทรี… เจ้าได้ยินข้าไหม? ข้าไม่อยากบินอีกแล้ว!” เต่าร้องเสียงดังขึ้น

อินทรีหยุดกลางอากาศ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แต่เจ้าอยากบินไม่ใช่หรือ? เจ้าอยากสัมผัสท้องฟ้า ข้าก็พาเจ้ามาให้แล้ว”

เต่าเริ่มตระหนักถึงความผิดพลาดของตนเอง “ข้าคิดผิด! โปรดพาข้ากลับลงไปเถิด!”

แต่สายไปเสียแล้ว อินทรีแค่นหัวเราะ ก่อนจะกล่าวว่า “บนฟ้านี้ มีเพียงผู้ที่เกิดมาเพื่อบินเท่านั้นที่อยู่รอดได้” แล้วคลายกรงเล็บ ปล่อยเต่าร่วงหล่นลงจากฟ้า

เต่าร่วงลงมาด้วยความเร็ว เสียงลมพัดผ่านราวกับเสียงกรีดร้อง มันพยายามกางขาเพื่อหยุดการตก แต่ไม่อาจทำสิ่งใดได้ “ข้ากำลังจะตาย… ข้ากำลังจะตก!”

ไม่นานนัก เต่ากระแทกเข้ากับยอดเขา เปลือกแข็งของมันแตกละเอียด ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ร่างของมันในทันที

เลือดไหลซึมออกมา ลมหายใจของมันเริ่มแผ่วเบา ขณะที่ร่างของมันนอนแน่นิ่งอยู่บนก้อนหิน เต่ามองไปยังท้องฟ้า ที่ซึ่งมันเคยคิดว่าเป็นสถานที่แห่งอิสรภาพ

“ข้าสมควรได้รับมันแล้ว… จะมีปีกไปเพื่ออะไร ในเมื่อแม้แต่บนพื้นดิน ข้ายังเดินไปไหนแทบไม่ได้เลย!” มันหลับตาลงเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่อินทรียังคงบินวนอยู่เหนือศีรษะของมัน โฉบผ่านไปพร้อมกับเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความเย้ยหยัน

หนองน้ำที่เคยเป็นบ้านของเต่ากลับคืนสู่ความเงียบงันอีกครั้ง

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องเต่ากับอินทรี 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การไม่รู้จักยอมรับข้อจำกัดของตนเอง อาจนำไปสู่ความหายนะ เต่าฝืนธรรมชาติของมันเพราะอิจฉาผู้อื่น จึงต้องจบชีวิตลงเพราะความทะเยอทะยานที่ไร้สติ

เรื่องราวยังเตือนว่าความฝันที่ปราศจากความเข้าใจในความเป็นจริง อาจนำไปสู่ความพินาศ เช่นเดียวกับบางคนที่พยายามเป็นในสิ่งที่ตนไม่เหมาะสม เพียงเพราะต้องการเหมือนผู้อื่น

นอกจากนี้ บางโอกาสอาจเป็นเพียงกับดักที่นำไปสู่หายนะ อินทรีไม่ได้ช่วยเต่าด้วยความหวังดี แต่มันทำเพราะความสนุก เช่นเดียวกับในชีวิตจริงที่บางคนอาจหลอกล่อให้เราก้าวพลาดเพื่อประโยชน์ของพวกเขาเอง

ท้ายที่สุดการยอมรับตนเองและใช้ชีวิตตามสิ่งที่เรามี คือหนทางที่มั่นคงและปลอดภัยที่สุด

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานอีสปเรื่องเต่ากับอินทรี (อังกฤษ: The Tortoise and the Eagle) มีนิทานเกี่ยวกับเต่าและนกที่เล่าขานในนามของอีสป (Aesop) อยู่สองเรื่อง หนึ่งเป็นภาษากรีกโดยบาบริอุส (Babrius) คือนิทานในบทความนี้ และอีกหนึ่งเป็นภาษาละตินโดยฟีดรัส (Phaedrus) คือนิทานอีสปเรื่องอินทรีกับอีกา ในนิทานฉบับกรีกเล่าเต่าตัวหนึ่งปรารถนาจะเห็นโลกให้มากขึ้น จึงเกลี้ยกล่อมให้อินทรีพามันบินขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยสัญญาว่าจะมอบ “ของขวัญทั้งหมดจากท้องทะเลตะวันออก” เป็นการตอบแทน แต่เมื่อขึ้นไปเหนือเมฆ อินทรีกลับปล่อยมันตกลงมายังยอดเขา นิทานเรื่องนี้ได้รับการจัดอยู่ในลำดับที่ 230 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ)

นิทานเรื่องนี้ให้คติสอนใจว่า “จงพอใจกับสิ่งที่ตนมี” และแพร่กระจายไปทั่วยุโรปผ่านฉบับภาษาละตินในคอลเลกชันของอาเวียนุส (Avianus) และโอโดแห่งเชอริตัน (Odo of Cheriton) ต่อมาเรื่องราวได้ผสมผสานกับนิทานเวอร์ชันอินเดีย ซึ่งเสริมความไม่พอใจของเต่าให้เด่นชัดขึ้น และถูกนำมาใช้ในนิทานของฌอง เดอ ลา ฟงแตน (Jean de La Fontaine) รวมถึงในบทกวี The Tortoise ของเจฟฟรีย์ เทย์เลอร์ (Jefferys Taylor)

นิทานอีสปเรื่องอื่น ๆ

ติดตามนิทานทุกรูปแบบได้ที่ talezzz.com