ในชีวิต เรามักจะถูกตัดสินจากการกระทำในอดีต แต่บางครั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมองที่การกระทำในปัจจุบัน และการปล่อยวางจากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เมื่อเราเลือกทำสิ่งดีในวันนี้ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตและชีวิตของเราได้ แม้กระทั่งคนที่เคยทำผิดก็ยังมีโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่
มีนิทานเซนเรื่องหนึ่ง ที่เล่าถึงการยอมรับการกระทำในปัจจุบัน และการให้โอกาสแก่ผู้ที่เคยทำผิด เมื่อสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่การตัดสินจากอดีต แต่คือการกระทำในตอนนี้ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตไปตลอดกาล กับนิทานเซนเรื่องหัวขโมยที่กลายเป็นศิษย์

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องหัวขโมยที่กลายเป็นศิษย์
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ยุคสมัยหนึ่งของญี่ปุ่น ในช่วงค่ำวันหนึ่ง ณ วัดเซนแห่งหนึ่ง ขณะที่ชิชิริ โคจุน กำลังสวดพระสูตรอย่างสงบในห้องของเขา ท่ามกลางความเงียบสงบของวัด
มีหัวขโมยคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง โดยถือดาบคมกริบในมือและท่าทีดุดัน
เขาหยุดอยู่ตรงหน้าชิชิริ โคจุนและกล่าวด้วยเสียงที่ดังกว่าเสียงสวดพระสูตรว่า “เจ้าบ้าน! ถ้าเจ้าไม่อยากเสียชีวิต ท่านต้องมอบเงินให้ข้าตามที่ข้าต้องการ!”
ชิชิริ โคจุนยกมือขึ้นและกล่าวด้วยเสียงที่นุ่มนวลว่า “อย่ารบกวนข้าเลย ท่านสามารถเอาเงินในลิ้นชักนั้นได้”
หลังจากที่กล่าวจบ ชิชิริ โคจุนก็กลับไปสวดพระสูตรต่ออย่างสงบเสงี่ยมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่หัวขโมยยืนอยู่ตรงหน้าเขา
หัวขโมยยืนอึ้งอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเดินไปที่ลิ้นชักและเปิดมันออก เขาพบกับเงินจำนวนมากและเริ่มเก็บมันอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะเดินออกไป ชิชิริ โคจุนก็หยุดสวดและพูดขึ้นอีกครั้งว่า “อย่าเอาไปทั้งหมดนะ ข้าต้องใช้บางส่วนจ่ายภาษีในวันพรุ่งนี้”
หัวขโมยตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยังคงรวบรวมเงินไปส่วนใหญ่จากลิ้นชัก และเริ่มจะเดินออกจากห้องไป
ขณะที่หัวขโมยกำลังจะจากไป ชิชิริ โคจุนก็พูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและราบเรียบว่า “เมื่อท่านได้รับของขวัญจากใคร ขอให้ท่านขอบคุณเขาด้วย”
หัวขโมยหยุดชะงักทันทีและหันไปมองชิชิริ โคจุนอีกครั้ง เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงแปลกใจเล็กน้อยว่า “ขอบคุณท่านครับ…”
แล้วเขาก็เดินจากไปอย่างเงียบ ๆ
หลังจากนั้นไม่กี่วัน หัวขโมยคนนั้นถูกจับและถูกนำตัวไปพิจารณาคดี เมื่อถูกสอบสวน เขาสารภาพถึงความผิดที่เขาได้ทำไป รวมถึงการขโมยจากชิชิริ โคจุน
เมื่อถึงคราวที่ชิชิริ โคจุนถูกเรียกมาเป็นพยานในคดีนี้ เขายืนตรงหน้าและกล่าวขึ้นว่า “ชายคนนี้ไม่ใช่หัวขโมย สำหรับข้าก็คือไม่ใช่ เพราะข้าให้เงินเขาและเขาก็ขอบคุณข้า”
ทุกคนในห้องตกตะลึงกับคำพูดของชิชิริ โคจุน ที่แสดงออกถึงการปล่อยวางและการเห็นใจอย่างไม่มีข้อแม้
หลังจากที่หัวขโมยถูกปล่อยตัวและเสร็จสิ้นการรับโทษจำคุก เขาได้ไปหาชิชิริ โคจุนที่วัดและขอร้องให้ท่านรับเขาเป็นศิษย์
“ท่านอาจารย์ ข้าขอเรียนรู้จากท่าน ข้าต้องการเรียนรู้การเป็นผู้ที่มีใจสงบและไม่ต้องเป็นหัวขโมยอีกต่อไป” หัวขโมยกล่าวด้วยความจริงใจ
ชิชิริ โคจุนยิ้มและรับเขาเข้ามาเป็นศิษย์ในที่สุด

หลังจากที่หัวขโมยได้กลายเป็นศิษย์ของชิชิริ โคจุน เขาเริ่มฝึกฝนจิตใจอย่างจริงจัง และได้เรียนรู้ว่าการฝึกสมาธิและการฝึกสติเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาคลายความวิตกกังวลที่เคยมี เมื่อก่อนเขาคิดว่าเขาสามารถหลบหนีจากผลกรรมที่เคยทำ แต่ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจว่าอดีตไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่การกระทำในปัจจุบันสามารถนำเขาไปสู่เส้นทางที่ดีได้
วันหนึ่ง ขณะที่เขานั่งฝึกสมาธิอยู่ในห้องน้ำชา เขาถามอาจารย์ว่า “ท่านอาจารย์ ข้าควรทำอย่างไรเมื่ออดีตของข้ายังคงตามหลอกหลอนข้าอยู่?”
ชิชิริ โคจุนยิ้มอย่างอ่อนโยนและตอบว่า “อดีตก็ส่วนอดีตมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตก็เป็นผลจากการกระทำที่เราทำไป แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้ในตอนนี้ คือการทำสิ่งดี ๆ ให้กับตัวเองและผู้อื่นในวันนี้”
“หากเราทำสิ่งดีในวันนี้ เราจะได้รับสิ่งดีในวันนี้และในอนาคต แต่หากเราทำสิ่งไม่ดีในวันนี้ ผลที่ตามมาก็จะเป็นสิ่งไม่ดีเช่นกัน” ชิชิริกล่าวต่อ พร้อมยิ้มให้กับศิษย์ของเขา
หัวขโมยได้ยินคำสอนเหล่านั้นและเริ่มเข้าใจว่าการปล่อยวางและการยอมรับผลกรรมจากการกระทำในอดีต เป็นส่วนสำคัญของการฝึกฝนจิตใจให้สงบและแข็งแกร่ง
ชิชิริ โคจุนยิ้มเล็กน้อยและสอนต่ออย่างสงบว่า “ใจของเราก็เหมือนกับดิน เมื่อได้รับน้ำที่ดี มันจะกลายเป็นดินที่ดี แต่เมื่อมันได้รับสิ่งที่ไม่ดี มันก็จะกลายเป็นดินที่แข็งและไม่สามารถปลูกอะไรได้”
“การฝึกจิตใจคือการทำให้ใจของเราอ่อนนุ่ม เปรียบเหมือนการให้ดินได้รับน้ำที่ดีจากการฝึกฝนทุกวัน อย่าให้ความโกรธฝังรากลึกในใจ” อาจารย์กล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่สงบ
หัวขโมยพยักหน้า เขาเริ่มเข้าใจว่า ความโกรธที่เขาเคยเก็บไว้ในใจนั้นเป็นสิ่งที่ขัดขวางการเจริญเติบโตทางจิตใจของเขาเอง
เวลาผ่านไปหลายเดือน หัวขโมยที่กลายเป็นศิษย์เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง เขามีความสงบในใจมากขึ้น เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยทำในอดีต ได้ แต่เขาก็สามารถทำสิ่งที่ดีในวันนี้ เพื่อสร้างผลที่ดีในอนาคตได้
วันหนึ่ง เขาได้พบกับชายคนหนึ่งที่เคยเป็นเหยื่อของเขาในอดีต ชายคนนั้นยังคงจดจำได้ถึงความผิดที่เขาทำ แต่หัวขโมยกลับไม่รู้สึกผิดหรือโกรธเขาอีกแล้ว เขาเข้าไปขอโทษชายคนนั้นด้วยใจที่เปิดกว้าง
“ข้าขอโทษที่เคยทำให้ท่านต้องทุกข์ใจ ข้ารู้ว่าการขอโทษอาจไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ข้าพร้อมที่จะยอมรับผลจากการกระทำของตัวเองและจะทำสิ่งดี ๆ ให้ดีที่สุดในวันนี้” หัวขโมยกล่าวด้วยความจริงใจ
ชายคนนั้นมองไปที่เขาและยิ้ม “ข้ารับการขอโทษของท่าน และขอบคุณที่ท่านเลือกที่จะทำสิ่งดีในวันนี้”
หัวขโมยรู้สึกถึงความสงบและการปล่อยวางในใจ การที่เขายอมรับผลกรรมจากการกระทำในอดีตและเลือกที่จะทำสิ่งดีในวันนี้ ทำให้เขาก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… การมองคนจากการกระทำในปัจจุบัน มากกว่าการตัดสินจากอดีต เพราะสิ่งที่ทำในวันนี้อาจเปลี่ยนชีวิตและอนาคตของคนได้
ชิชิริ โคจุนไม่มองหัวขโมย ว่าเป็น “หัวขโมย” เพราะเขามองที่การกระทำในวันนี้ ว่าเขาได้รับเงินจากเขาและเขาก็ขอบคุณ ซึ่งการกระทำในปัจจุบันคือสิ่งที่ชิชิริให้ความสำคัญ โดยไม่ยึดติดกับอดีตว่าเขาคือหัวขโมย สุดท้ายแม้หัวขโมยจะเป็นคนผิดในอดีต แต่เพราะความเปิดใจและการให้โอกาส ในปัจจุบัน ทำให้เขาได้เปลี่ยนแปลงไปและกลายมาเป็นศิษย์ของชิชิริ
อ่านต่อ: นิทานเซนสั้น ๆ สนุก ๆ เข้าถึงปรัชญาชีวิตความสงบ การปล่อยวาง
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเซนเรื่องหัวขโมยที่กลายเป็นศิษย์ (อังกฤษ: The Thief Who Became a Disciple) ปรากฏใน Zen Flesh, Zen Bones ซึ่งเป็นการรวบรวม 101 Zen Stories โดย Paul Reps และ Nyogen Senzaki ที่ตีพิมพ์ในปี 1957 หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมเรื่องเล่าเซนที่มาจากจีนและญี่ปุ่น โดยเน้นการถ่ายทอดคำสอนของเซนที่มักจะมาในรูปแบบของเรื่องราวหรือปริศนา (Koan) ที่ต้องใช้การตีความมากกว่าแค่การฟังคำสอน
หนึ่งในเรื่องเล่าของชิชิริ โคจุน (Shichiri Kojun) ซึ่งเป็นนักบวชเซ็นในสมัยหนึ่งของญี่ปุ่น โดยเรื่องนี้สะท้อนถึงแนวคิดของเซ็นที่มองการกระทำในปัจจุบันและการปล่อยวางจากการตัดสินเรื่องราวในอดีต โดยการเลือกให้โอกาสแก่ผู้อื่นแม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
ในเรื่องราวนี้ชิชิริ โคจุน ใช้การกระทำที่เต็มไปด้วยความเมตตาและการปล่อยวางในการตัดสินสถานการณ์ โดยไม่มองว่าหัวขโมยคือ “หัวขโมย” แต่กลับเห็นเป็นโอกาสที่จะฝึกจิตใจของทั้งตัวเขาและหัวขโมย โดยการให้โอกาสและการยอมรับความจริงในปัจจุบันมากกว่าการตัดสินจากอดีต
คติธรรม: “การตัดสินใจในวันนี้สำคัญกว่าผลจากอดีต เพราะการกระทำในปัจจุบันสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตและอนาคตของเราได้”