ในโลกแห่งนิทานโบราณ มีเรื่องราวมากมายที่สะท้อนนิสัยมนุษย์ได้อย่างแหลมคม ทั้งความอยากรู้อยากเห็น ความเจ้าอารมณ์ และความเชื่อว่าตนเอง “รู้ดีกว่า” ผู้อื่น จนบางครั้งความคิดดี ๆ ก็กลายเป็นเหตุให้ตัวเองต้องลำบาก
มีนิทานกริมม์เรื่องหนึ่งเล่าถึงช่างตัดเสื้อผู้ยากไร้ที่ได้ขึ้นไปยังสวรรค์อย่างไม่คาดฝัน ทว่าความอยากลอง อยากเห็น และอยากตัดสินผู้อื่นของเขา กลับทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายบนสวรรค์เอง และกลายเป็นบทเรียนสำคัญที่น่าจดจำยิ่งนัก กับนิทานกริมม์เรื่องช่างตัดเสื้อบนสวรรค์

เนื้อเรื่องนิทานกริมม์เรื่องช่างตัดเสื้อบนสวรรค์
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในวันฟ้าใสวันหนึ่ง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยากเสด็จออกไปพักผ่อนในสวนสวรรค์ จึงพาเหล่าอัครสาวกและนักบุญทั้งหมดออกไปเดินเล่น ปล่อยให้เพียงนักบุญปีเตอร์เฝ้าประตูสวรรค์ พร้อมกำชับว่า “อย่าให้ใครเข้ามาระหว่างที่เรายังไม่กลับ”
ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น นักบุญปีเตอร์ถามว่าใครอยู่ข้างนอก ชายคนหนึ่งตอบเสียงหวานว่า “กระผมเป็นเพียงช่างตัดเสื้อยากจน ขอความเมตตาให้เข้าไปพักในสวรรค์ด้วยเถิด”
ปีเตอร์ฟังแล้วหัวเราะหยัน “ช่างตัดเสื้อซื่อสัตย์งั้นหรือ? ข้าเจอคนตัดเสื้อคนอื่นเช่นเจ้ามานักต่อนัก! พระองค์สั่งห้ามไม่ให้ใครเข้าในเวลานี้”
แต่ช่างตัดเสื้อก็อ้อนวอน เขาบอกว่าตัวเองเดินมาจนเท้าพอง เดินกลับไม่ไหว พร้อมอาสาทำงานหนักทุกอย่างให้สวรรค์ ทั้งอุ้มเด็ก ซักผ้า ทำความสะอาด กวาดเก้าอี้ และเย็บเสื้อผ้าขาด
ความสงสารทำให้ปีเตอร์เปิดประตูเพียงแง้มเล็กน้อย ให้ชายร่างผอมหลุดเข้าไปได้ ก่อนจะสั่งให้เขานั่งแอบอยู่หลังประตู ห้ามขยับ เพื่อไม่ให้พระเจ้าเห็นเข้าเมื่อเสด็จกลับมา
ช่างตัดเสื้อทำตาม…ในตอนแรก
เมื่อปีเตอร์เดินออกไปด้านนอกพักหนึ่ง ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ก็เอาชนะ แม้แต่คนที่ตั้งใจจะซ่อนตัวอย่างช่างตัดเสื้อ เขาลุกขึ้นย่องไปทั่วสวรรค์ มองดูทุกซอกทุกมุมด้วยความตื่นตาตื่นใจ
ไม่นานเขาก็มาถึงห้องหนึ่งที่มีเก้าอี้งดงามมากมาย ตั้งเรียงรายอย่างอลังการ
แต่ตรงกลางห้อง… มีเก้าอี้ทองคำขนาดใหญ่ ประดับด้วยอัญมณีระยิบระยับ และมีแท่นรองเท้าทองคำวางอยู่ด้านหน้า
นี่คือบัลลังก์ของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อประทับที่นี่ พระองค์สามารถมองเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ได้ทั้งหมด
ช่างตัดเสื้อยืนมองนานมาก จนอดใจไม่ไหว เขาปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ทองอย่างภาคภูมิ และทันทีที่นั่งลง สายตาของเขาก็เห็นโลกเบื้องล่างชัดเจนราวกับมองผ่านกระจกวิเศษ
เขาเห็นหญิงชราหน้าตาไม่น่ามองคนหนึ่งยืนซักผ้าอยู่ริมลำธาร แต่ที่ทำให้เขาโกรธจนเดือด คือเธอแอบเก็บผ้าคลุมสองผืนซ่อนไว้ข้างตัวแบบลับ ๆ
“หญิงชราขี้ขโมย! ทำแบบนี้ได้อย่างไรกัน!”
ด้วยความโมโหแทนเจ้าของผ้า ช่างตัดเสื้อยกแท่นรองเท้าทองคำขึ้น แล้วขว้างลงไปใส่หญิงชราบนโลกเต็มแรง
เมื่อขว้างแล้ว เขาก็รู้ทันทีว่า… ตนเอากลับคืนไม่ได้
เขารีบกระโดดลงจากบัลลังก์อย่างรวดเร็ว กลับไปนั่งหลังประตูท่าเดิม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ไม่นานนัก องค์พระผู้เป็นเจ้าก็เสด็จกลับมาพร้อมเหล่านักบุญ เมื่อทรงนั่งบนบัลลังก์ ทรงสังเกตทันทีว่า แท่นรองเท้าทองคำ… หายไป!
พระองค์ถามนักบุญปีเตอร์ “แท่นรองเท้าของเราหายไปไหน?”
ปีเตอร์ตอบด้วยความงุนงงว่าไม่รู้ และก็ไม่ได้ให้ใครเข้ามาเลย นอกจากช่างตัดเสื้อขาพิการที่ยังนั่งอยู่หลังประตู
ช่างตัดเสื้อจึงถูกพาตัวมาเฝ้า พระเจ้าตรัสถามตรง ๆ ว่า “เจ้าเอาแท่นรองเท้าของเราไปไหน?”
ช่างตัดเสื้อยิ้มกว้างด้วยความภูมิใจ ราวกับทำความดีครั้งใหญ่ “ข้าโยนมันลงไปให้หญิงชราที่ขโมยผ้าคลุมสองผืนที่ลำธาร ข้าโกรธแทนพระองค์ เพราะนางเป็นหัวขโมย”
พระเจ้าตรัสด้วยเสียงหนักแน่น “โอ้ เจ้าคนใจร้อน หากเราใช้ความโมโหตัดสินเช่นเจ้า สิ่งของทุกชิ้นในสวรรค์คงถูกขว้างลงพื้นโลกหมดแล้ว ทั้งเก้าอี้ เตียง โต๊ะ หรือแม้แต่ส้อมเตาอบ!”
พระองค์สรุปว่า “ที่นี่ไม่มีใครลงโทษใครได้ นอกจากเราเพียงผู้เดียว เจ้าอยู่ในสวรรค์ต่อไปอีกไม่ได้”
นักบุญปีเตอร์จึงต้องพาช่างตัดเสื้อออกจากสวรรค์อีกครั้ง
เมื่อกลับมายืนใต้ประตูสวรรค์ ช่างตัดเสื้อมองดูรองเท้าที่ขาดรุ่งริ่งและเท้าที่เต็มไปด้วยแผลพุพอง เขาได้แต่ถอนหายใจ
แล้วจึงหยิบไม้เท้าขึ้นมาพยุงตัวเองออกเดินทางไปยังที่แห่งหนึ่ง ที่ผู้คนเรียกว่า “เมืองรอคอย” (Wait-a-bit) ที่นั่นมีเหล่าทหารใจดีนั่งพักผ่อนและดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน
และนั่นคือจุดจบของช่างตัดเสื้อผู้ปล่อยให้ความอยากรู้อยากเห็นและความโมโหพาเขาออกจากสวรรค์ในที่สุด…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… เมื่อมนุษย์หลงคิดว่าตนมีสิทธิ์ตัดสินผู้อื่น ก็อาจทำผิดเสียเองโดยไม่รู้ตัว การลงโทษใครไม่ใช่หน้าที่ของความโกรธหรือความคันไม้คันมือ แต่เป็นหน้าที่ของปัญญาและความยุติธรรม ซึ่งบางครั้ง เราไม่ได้มีมากเท่าที่คิด
อ่านต่อ: คอลเลคชั่นนิทานกริมม์อ่านสนุกเพลิดเพลิน อ่านได้ทุกวัยที่นี่ taleZZZ.com
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานกริมม์เรื่องช่างตัดเสื้อบนสวรรค์ (อังกฤษ: The Tailor in Heaven) นิทานเรื่องนี้มาจากคอลเลกชันนิทานกริมม์ลำดับที่ 035 KHM หนึ่งในชุดนิทานที่เล่าเรื่องมนุษย์ธรรมดาและความขบขันปนคติธรรมเชิงศาสนา ซึ่งถูกบันทึกสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนก่อนจะถูกรวบรวมโดยพี่น้องกริมม์
เรื่องราวกล่าวถึงช่างตัดเสื้อผู้ยากจนซึ่งหลอกล่อให้เซนต์ปีเตอร์เปิดประตูสวรรค์ให้ตนลอบเข้าไปอยู่หลังประตู แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกินควบคุม เขาแอบเดินสำรวจสวรรค์และท้ายที่สุดก็ขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ทองของพระผู้เป็นเจ้า เห็นหญิงชราบนโลกกำลังขโมยผ้าอยู่ จึงขว้างแท่นวางพระบาทลงไปใส่นาง ทำให้ความผิดถูกเปิดโปง และต้องถูกเนรเทศออกจากสวรรค์ในที่สุด
นิทานนี้สะท้อนให้เห็นว่า เมื่อมนุษย์ตัดสินผู้อื่นด้วยอารมณ์หรือความโมโห แม้จะอ้างความยุติธรรมเพียงใด ก็อาจทำผิดเสียเองจนรับผลไม่พึงประสงค์ การใช้เหตุผลและรู้ขอบเขตของตนเองจึงสำคัญยิ่งกว่าความอยาก “จัดการใครแทนฟ้า” เสมอ
คติธรรม: “ผู้ที่รีบตัดสินผู้อื่นด้วยความโกรธ มักลืมไปว่าตนเองก็เคยทำผิดไม่ต่างกัน”

