นิทานอีสปเรื่องงูกับปู

ปกนิทานอีสปเรื่องงูกับปู

ในโลกที่เต็มไปด้วยความสัมพันธ์และมิตรภาพ การซื่อสัตย์ต่อผู้อื่นและต่อตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่บางครั้ง การเปลี่ยนแปลงตัวตนเพื่อสิ่งที่ดีกว่าก็เป็นเรื่องยากสำหรับบางคน

เช่นเดียวกับงูเจ้าเล่ห์ที่แม้จะได้รับโอกาสจากปูผู้ซื่อสัตย์ แต่นิสัยเดิม ๆ กลับนำพามันไปสู่จุดจบที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง เรื่องราวนี้จะพาเราไปพบกับบทเรียนสำคัญกับนิทานอีสปเรื่องงูกับปู

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องงูกับปู

เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องงูกับปู

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในป่าเขตร้อนอันร่มรื่น มีงูตัวหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วในเรื่องนิสัยเจ้าเล่ห์และหลอกลวง มันมีชื่อเสียงในทางลบจนไม่มีสัตว์ตัวใดอยากเข้าใกล้หรือไว้ใจมัน แม้แต่สัตว์ที่เคยถูกมันหลอกต่างก็เตือนลูกหลานของพวกมันให้ระวังตัว

วันหนึ่ง งูรู้สึกโดดเดี่ยว มันเริ่มตระหนักว่าไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนกับมัน “ข้าแค่ทำในสิ่งที่ข้าถนัด แล้วทำไมพวกสัตว์อื่น ๆ ถึงเกลียดข้า?” งูบ่นพึมพำขณะเลื้อยไปตามทาง

ขณะนั้นเอง มันได้พบกับปูตัวหนึ่งที่กำลังเดินอย่างสงบอยู่ริมลำธาร ปูตัวนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องความซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา งูรู้สึกว่าปูอาจเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับมัน

งูเลื้อยเข้าไปใกล้และพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร “สวัสดีเจ้าปู ข้าไม่เคยเห็นเจ้าอยู่ในป่านี้มาก่อน เจ้าคงมาจากที่อื่นใช่ไหม?”

ปูเงยหน้ามองงูด้วยความสงสัย “ใช่ ข้ามาจากลำธารอีกฝั่ง ข้ากำลังหาอาหารอยู่ที่นี่ แต่ข้ารู้จักเจ้าดีนะ งู เจ้าคือผู้ที่สัตว์อื่น ๆ ต่างพูดถึงในเรื่องนิสัยเจ้าเล่ห์”

งูรีบตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้าอาจเคยทำผิดในอดีต แต่ข้าอยากเริ่มต้นใหม่ ข้าเหนื่อยกับการไม่มีใครไว้ใจและไม่มีเพื่อน ข้าเห็นว่าเจ้าดูซื่อสัตย์และเป็นสัตว์ที่น่าเคารพ ข้าจึงอยากขอให้เราเป็นเพื่อนกัน”

ปูนิ่งคิดก่อนตอบ “ข้าจะให้โอกาสเจ้า แต่เจ้าต้องพิสูจน์ว่าเจ้าสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้”

งูพยักหน้าด้วยความดีใจ “ข้าสัญญา! ข้าจะไม่ทำตัวเหมือนเดิมอีก ข้าจะเป็นงูที่ซื่อสัตย์”

ตั้งแต่นั้นมา งูและปูก็กลายเป็นเพื่อนกัน ปูมักให้คำแนะนำที่ดีแก่เพื่อนใหม่ของมัน “เจ้าต้องจำไว้นะเจ้างู ความซื่อสัตย์คือสิ่งที่ทำให้เจ้าได้รับความไว้วางใจ และถ้าเจ้ามีความจริงใจ เจ้าจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป”

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องงูกับปู 2

งูพยายามทำตัวดีในช่วงแรก มันหยุดหลอกลวงสัตว์อื่น ๆ และเริ่มมีสัตว์บางตัวเข้ามาใกล้ แต่ไม่นาน นิสัยเดิม ๆ ของงูก็กลับมาอีกครั้ง มันเริ่มหลอกลวงสัตว์ตัวเล็ก ๆ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

วันหนึ่ง ปูสังเกตเห็นงูกำลังหลอกล่อกระรอกน้อยให้เข้าไปในรังของมันเพื่อจะจับกิน ปูรู้สึกผิดหวังอย่างมาก มันเดินเข้าไปหาเพื่อนของมันและถามว่า “เจ้างู เจ้าเคยสัญญากับข้าว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ตอนนี้เจ้ากลับทำในสิ่งเดิมอีกครั้ง เจ้าคิดว่าข้าจะรู้สึกอย่างไร?”

งูหัวเราะเบา ๆ และตอบ “เจ้าปู ข้าคิดว่าเจ้าควรยอมรับในสิ่งที่ข้าเป็น นี่คือนิสัยของข้า ข้าเปลี่ยนมันไม่ได้ และข้าก็ไม่คิดว่าข้าจะต้องเปลี่ยนด้วย”

ปูฟังคำพูดนั้นด้วยความผิดหวังอย่างรุนแรง มันมองเพื่อนของมันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ถ้าเจ้าไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ข้าก็ไม่อาจทนดูพฤติกรรมของเจ้าอีกต่อไป”

ในขณะที่งูกำลังเผลอ ปูใช้ก้ามหนีบร่างของงูแน่น งูดิ้นรนและพยายามหนี แต่ปูไม่ปล่อย “นี่คือบทเรียนสำหรับเจ้า” ปูกล่าว “เจ้าเลือกที่จะไม่เปลี่ยนแปลง และเจ้ายังคงหลอกลวงผู้อื่น นี่คือผลลัพธ์ของการกระทำของเจ้า”

งูสิ้นใจด้วยก้ามของปูที่หนีบมันไว้แน่น แล้วทิ้งท้ายไว้ว่า “การใช้ชีวิตอย่างคดเคี้ยวจะนำความเดือดร้อนมาสู่ตัวเจ้าเองในที่สุด เจ้าควรเรียนรู้ที่จะซื่อสัตย์และเดินในทางที่ถูกต้อง” ด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องงูกับปู 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การไม่ซื่อสัตย์และการปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง จะนำไปสู่ความสูญเสียและจุดจบที่เลวร้ายในที่สุด ความสัมพันธ์ที่แท้จริงและยั่งยืนต้องสร้างขึ้นบนพื้นฐานของความจริงใจ และการแก้ไขข้อผิดพลาดในตนเองคือกุญแจสำคัญในการได้รับความไว้วางใจจากผู้อื่น

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานอีสปเรื่องงูกับปู (อังกฤษ: The Snake and the Crab) ในกรีกโบราณมีความหมายเทียบเท่ากับสำนวนในปัจจุบันว่า “ว่าคนอื่นทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีไปกว่า” (Pot calling the kettle black) ต่อมา นิทานเรื่องนี้ได้รับการสร้างขึ้นโดยเชื่อมโยงกับชื่อของอีสป โดยเล่าถึงพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิตทั้งสอง และต่อมายังมีนิทานอีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับปูกับลูกของมัน ซึ่งพัฒนาในภายหลังเพื่อสื่อสารข้อคิดในลักษณะเดียวกัน

การกล่าวถึงงูกับปู ครั้งแรกปรากฏในบทเพลงดื่มฉลองซึ่งย้อนไปถึงปลายศตวรรษที่ 6 หรือต้นศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์ศักราช โดยมีเนื้อความว่า:

“ปูกล่าวขณะที่ใช้ก้ามจับงูไว้ ‘เพื่อนร่วมทางควรเป็นคนตรง และไม่ควรมีความคิดที่คดโกง'”

เนื่องจากการเคลื่อนไหวของทั้งงูและปูไม่ตรงไปตรงมา การกล่าวนี้จึงเทียบได้กับสำนวน “ว่าคนอื่นทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีไปกว่า” (Pot calling the kettle black)

นิทานเรื่องนี้ได้รับการจัดอยู่ในลำดับที่ 196 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) โดยงูและปูเคยเป็นเพื่อนกัน แต่เมื่อปูแนะนำให้งูดำเนินชีวิตอย่างซื่อสัตย์และงูไม่ปฏิบัติตาม ปูจึงฆ่างู งูตัวแข็งทื่อในขณะที่ตาย ปูจึงกล่าวว่า “หากเจ้าเป็นคนตรงไปตรงมาตั้งแต่แรก เจ้าก็คงไม่ต้องตาย”

นิทานนี้ปรากฏเฉพาะในแหล่งข้อมูลภาษากรีกจนกระทั่งถูกบรรจุในชุดนิทานของยุโรปในยุคเรเนซองส์ ในอังกฤษโรเจอร์ เลสเตรนจ์ (Roger L’Estrange) และซามูเอล ครอกซอล (Samuel Croxall) ได้บันทึกนิทานนี้ไว้ โดยแสดงให้เห็นว่าปูเป็นตัวแทนของความซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา พร้อมทั้งสอนข้อคิดว่า “จงมีพฤติกรรมที่ตรงไปตรงมาและระวังการคบหากับผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์”

พฤติกรรมเสแสร้ง สู่การเป็นบทเรียนเกี่ยวกับ ความตรงไปตรงมาและความซื่อสัตย์ในมิตรภาพ ผู้ที่ปฏิบัติต่อเพื่อนด้วยความหลอกลวง สุดท้ายแล้วมักจะทำร้ายตัวเอง

นิทานอีสปเรื่องอื่น ๆ

ติดตามนิทานทุกรูปแบบได้ที่ talezzz.com