ในโลกแห่งศิลปะ มีบางสิ่งที่เกินกว่าความงามจะอธิบายได้ บางครั้งสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาด้วยหัวใจอาจกลายเป็นสะพานที่เชื่อมโยงระหว่างความหวังและความศรัทธา แต่เมื่อเราต้องตัดสินใจเกี่ยวกับสิ่งนั้น การตัดสินใจของเราจะสะท้อนให้เห็นว่าเราเข้าใจคุณค่าของมันอย่างแท้จริงหรือไม่
ในนิทานเรื่องนี้ เราจะได้พบกับช่างแกะสลักผู้มากฝีมือที่ต้องเผชิญกับคำถามที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา เมื่อสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมากลายเป็นเป้าหมายของผู้คนสองคนที่ต่างมีเหตุผลและความตั้งใจอันลึกซึ้ง การตัดสินใจของเขาจะเปลี่ยนทั้งชะตาของผลงานและชีวิตของเขาไปตลอดกาล กับนิทานอีสปเรื่องความฝันของประติมากร
เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องความฝันของประติมากร
ในเมืองเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ มีช่างแกะสลักผู้หนึ่งที่มีฝีมือโดดเด่น เขาใช้ชีวิตเรียบง่ายในเวิร์กช็อปเล็ก ๆ ที่มุมถนน ผลงานชิ้นล่าสุดของเขาคือรูปปั้นหินอ่อนสีขาวของเทพเฮอร์มีส ซึ่งเขาตั้งใจสร้างขึ้นด้วยความประณีตทุกรายละเอียด ตั้งแต่ปีกที่รองรับรองเท้าของเทพเจ้า ไปจนถึงสายตาอันคมกริบที่เหมือนกำลังมองลึกเข้าสู่หัวใจผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
วันหนึ่ง ช่างแกะสลักได้นำรูปปั้นนี้มาวางแสดงที่ตลาดกลางเมือง ท่ามกลางเสียงอื้ออึงของผู้คน รูปปั้นของเขาดูสง่างามราวกับมีชีวิต คนเดินผ่านไปมาต่างหยุดมอง บ้างชื่นชมในความงดงาม บ้างก็เอ่ยปากอยากได้ แต่ไม่มีใครยอมควักเงินในกระเป๋ามาจ่าย
จนกระทั่งบ่ายแก่ ๆ ชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามาหยุดตรงหน้ารูปปั้น เขาเอ่ยถามด้วยเสียงแหบพร่า “รูปปั้นนี้ เจ้าขายมันหรือไม่?”
“ใช่ ข้าเสนอขายอยู่” ช่างแกะสลักตอบด้วยความยินดี
ชายชราก้มหน้าก่อนจะพูดว่า “ข้าต้องการมันเพื่อตั้งไว้ที่หลุมศพของลูกชายข้า เขาเพิ่งเสียไปเมื่อสัปดาห์ก่อน เขารักและศรัทธาในเทพเฮอร์มีสมาก ข้าอยากให้รูปปั้นนี้อยู่เคียงข้างเขาในโลกหลังความตาย”
ช่างแกะสลักนิ่งฟังคำพูดนั้น ใจหนึ่งก็รู้สึกเห็นใจ แต่อีกใจก็ลังเล เพราะไม่นานนัก ก็มีชายหนุ่มอีกคนเดินเข้ามาพร้อมกับแสดงความสนใจในรูปปั้นนี้เช่นกัน “ท่านต้องการมันด้วยเหตุใด?” ช่างแกะสลักถาม
ชายหนุ่มตอบด้วยเสียงหนักแน่น “ข้าคือผู้บูชาเทพเฮอร์มีส ข้าตั้งใจจะนำรูปปั้นนี้ไปมอบให้วิหาร เพื่อแสดงความศรัทธาและขอพรให้ชีวิตของข้าและครอบครัวมีความสุขและเจริญรุ่งเรือง”
ช่างแกะสลักเริ่มสับสน ไม่อาจตัดสินใจได้ว่าใครควรได้รูปปั้นนี้ เขาขอให้ชายทั้งสองกลับมาในวันรุ่งขึ้นและให้เวลาเขาไตร่ตรอง
คืนนั้น ขณะที่ช่างแกะสลักกำลังหลับใหล เขาฝันว่าอยู่ในดินแดนลึกลับ สว่างไสวด้วยแสงประหลาด เขายืนอยู่หน้าประตูสูงใหญ่ที่สลักด้วยลวดลายของปีกและงูสองตัวที่พันรอบคฑา จู่ ๆ เทพเฮอร์มีสก็ปรากฏตัวขึ้น เฮอร์มีสยืนด้วยท่วงท่าอันสง่างามและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดังกังวาน
“เจ้าคือผู้สร้างร่างของข้า เจ้าได้ให้ข้าชีวิตผ่านมือของเจ้าเอง แต่บัดนี้ ชะตากรรมของข้ากลับขึ้นอยู่กับเจ้าที่ต้องตัดสินใจ เจ้าจะส่งข้าไปยังที่ใด?”
“ข้าจะต้องทำอย่างไร ข้าจึงจะทำสิ่งที่ถูกต้อง?” ช่างแกะสลักถามด้วยความกระวนกระวาย
“เจ้าต้องถามใจเจ้าเอง” เฮอร์มีสตอบ “เจ้าจะเลือกให้ข้ากลายเป็นเพียงมนุษย์ที่ตายไป หรือให้ข้าเป็นเทพเจ้าผู้ได้รับการเคารพบูชาต่อไป?”
ช่างแกะสลักสะดุ้งตื่นขึ้นในตอนรุ่งสาง เขายังคงได้ยินเสียงของเทพเจ้าดังก้องอยู่ในหัว หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าต้องทำในสิ่งที่สะท้อนคุณค่าของรูปปั้นนี้ได้ดีที่สุด
เมื่อชายชราและชายหนุ่มมาที่ร้านในเช้าวันนั้น ช่างแกะสลักมองชายชราด้วยความเห็นใจ ก่อนจะพูดว่า
“ท่านคือพ่อผู้รักลูก แต่รูปปั้นนี้ไม่ได้เหมาะที่จะเป็นเพียงเครื่องหมายของความสูญเสีย ท่านสมควรหาสิ่งที่สะท้อนถึงความรักอันลึกซึ้งของท่านในวิธีอื่น”
ชายชราน้ำตาคลอ แต่ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
จากนั้น ช่างแกะสลักหันไปหาชายหนุ่มและกล่าวว่า “ข้าขอมอบรูปปั้นนี้ให้ท่าน นำมันไปตั้งในวิหารของเฮอร์มีส ที่นั่นคือที่ที่มันควรอยู่”
ชายหนุ่มโค้งคำนับอย่างเคารพและรับรูปปั้นไปด้วยความซาบซึ้ง
คืนนั้น ช่างแกะสลักฝันอีกครั้ง คราวนี้เฮอร์มีสปรากฏตัวพร้อมรอยยิ้ม และกล่าวว่า “เจ้าทำได้ดีแล้ว เจ้าให้ข้ากลับไปยังที่ของข้า และเจ้าได้รักษาความหมายที่แท้จริงของศิลปะไว้”
ช่างแกะสลักตื่นขึ้นพร้อมความรู้สึกโล่งใจ และรู้ว่าตนเองได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การตัดสินใจที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่ที่การตอบสนองความต้องการของทุกคน แต่คือการตระหนักถึงคุณค่าและความหมายแท้จริงของสิ่งที่เราสร้างขึ้น และ การเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสิ่งนั้น มากกว่าที่จะทำเพียงเพื่อความพึงพอใจชั่วคราวของผู้อื่น การมองเห็นคุณค่าที่ลึกซึ้งช่วยให้เราตัดสินใจด้วยความรับผิดชอบและเคารพต่อสิ่งที่เรามีในมือ
ที่มาของนิทาน
นิทานอีสปเรื่องความฝันของประติมากร (อังกฤษ: The Sculptor’s dream) เป็นหนึ่งในนิทานอีสปเรื่องหนึ่ง นิทานเรื่องนี้ได้รับการจัดอยู่ในลำดับที่ 307 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) และมีเวอร์ชันบทกวีทั้งในภาษากรีกโดย Babrius และภาษาละตินโดย Avianus แม้ว่าในเรื่องของ Avianus จะเล่าโดยเปลี่ยนเทพเป็น Bacchus รูปปั้นในเรื่องนี้เป็นแบบที่แสดงให้เห็นเทพเจ้าในลักษณะของชายหนุ่มรูปงาม
โดยเป็นเรื่องราวของช่างแกะสลักคนหนึ่งกำลังขายรูปปั้นหินอ่อนสีขาวของเทพเฮอร์มีส มีชายสองคนต้องการซื้อมัน คนหนึ่งต้องการรูปปั้นไปใช้เป็นป้ายหลุมศพให้ลูกชายที่เพิ่งเสียชีวิต ส่วนอีกคนเป็นช่างฝีมือที่ต้องการอุทิศรูปปั้นให้กับเทพเจ้าเอง
เมื่อถึงช่วงเย็น ช่างแกะสลักยังไม่ได้ขายรูปปั้น เขาจึงตกลงว่าจะให้ชายทั้งสองมาดูรูปปั้นอีกครั้งในเช้าวันถัดไป คืนนั้น ขณะหลับอยู่ ช่างแกะสลักฝันเห็นเทพเฮอร์มีสปรากฏตัวอยู่ที่ “ประตูแห่งความฝัน” และเทพเจ้าก็กล่าวกับเขาว่า “ชะตากรรมของข้าตอนนี้ขึ้นอยู่กับเจ้า เจ้าจะตัดสินให้ข้ากลายเป็นเพียงมนุษย์ที่ตายแล้ว หรือเป็นเทพเจ้าต่อไป!”
แม้ว่านิทานจะดูเบาสมอง แต่ในศตวรรษที่ 2 แพทย์และนักปรัชญา Galen ได้เพิ่มความลึกซึ้งทางจริยธรรมให้เรื่องนี้ โดยเปรียบเทียบกับศักยภาพของมนุษย์ เขาเล่านิทานและเสริมความเห็นไว้ว่า “เจ้าเองก็มีทางเลือกว่าจะยกย่องวิญญาณของเจ้าให้เหมือนกับเทพเจ้า หรือจะดูหมิ่นมันด้วยการทำให้เหมือนกับสัตว์เดรัจฉาน”