ในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ ความอบอุ่นและที่พักพิงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่เดินทางไกล เช่นเดียวกับนักเดินทางคนหนึ่งที่หลงเข้าไปในป่าลึก เขาเหนื่อยล้าและหนาวเย็นจนแทบหมดแรง โชคดีที่เขาได้พบกับเซเทอร์ (เทพารักษ์ที่อยู่ในป่า, มีรูปร่างกึ่งคนกึ่งแพะ) สิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งแพะผู้ใจดี
แต่ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นด้วยความเมตตากลับจบลงด้วยความไม่ไว้ใจ เรื่องราวนี้จะพาเราไปสำรวจความซับซ้อนของพฤติกรรมและความไว้วางใจใน กับนิทานอีสปเรื่องเซเทอร์กับนักเดินทาง
นิทานอีสปเรื่องเซเทอร์กับนักเดินทาง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ มีนักเดินทางคนหนึ่งหลงอยู่ในป่าลึก เขาต้องเผชิญกับลมหนาวที่กัดผิวและหิมะที่ปกคลุมเส้นทางจนมองไม่เห็นทิศทาง ร่างกายของเขาอ่อนล้าจากการเดินทางหลายวันโดยไม่มีที่พักพิงหรืออาหาร ริมฝีปากของเขาสั่นสะท้าน มือของเขาเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง
ขณะที่นักเดินทางเดินสะโหลสะเหลอยู่ท่ามกลางหิมะ เขาเห็นเงาร่างหนึ่งอยู่ไกลออกไป มันคือเซเทอร์ ผู้พิทักษ์แห่งป่า สิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งแพะในตำนานกรีก เซเทอร์กำลังเดินสำรวจป่าพร้อมถือคบเพลิงในมือ เมื่อมันเห็นนักเดินทางที่ดูเหนื่อยล้าและหมดแรง เซเทอร์จึงรีบเดินเข้ามาหา
“เจ้าดูเหนื่อยล้าเหลือเกิน และอากาศก็หนาวจัดเช่นนี้ เจ้าคงไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ในสภาพนี้” เซเทอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “มาที่บ้านของข้าเถอะ ข้าจะให้ที่พักพิงและอาหารแก่เจ้า”
นักเดินทางที่สิ้นหวังรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง เขาพูดด้วยเสียงสั่น “ขอบคุณท่านมาก ข้าคงไม่รอดหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากท่าน”
เซเทอร์พานักเดินทางไปยังบ้านของมัน ซึ่งตั้งอยู่ในโพรงไม้ใหญ่กลางป่า ภายในบ้านมีไฟที่จุดอยู่ในเตาผิงทำให้บรรยากาศอบอุ่น เซเทอร์จัดเตรียมที่นั่งและวางผ้าห่มหนา ๆ ให้กับนักเดินทาง
“มานั่งใกล้ ๆ ไฟนี้เสียเถอะ มันจะช่วยให้เจ้าอุ่นขึ้น ข้าจะไปเตรียมอาหารมาให้” เซเทอร์กล่าว
ขณะที่นักเดินทางนั่งอยู่ใกล้ไฟ เขายกมือขึ้นเป่าลมหายใจใส่ฝ่ามือ เซเทอร์สังเกตเห็นจึงถามด้วยความสงสัย “เจ้ากำลังทำอะไร?”
นักเดินทางตอบ “ข้ากำลังเป่ามือเพื่อให้มันอุ่นขึ้น อากาศข้างนอกหนาวจนมือของข้าชา”
เซเทอร์พยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหันไปเตรียมอาหาร เมื่ออาหารร้อน ๆ พร้อมเสิร์ฟ เซเทอร์ยกชามซุปมาให้ “นี่คือซุปที่จะช่วยเติมพลังให้เจ้า รีบกินเสียเถิด”
นักเดินทางยกชามซุปขึ้นมา แต่ก่อนจะกิน เขาเป่าซุปในชามเพื่อให้มันเย็นลง เซเทอร์เห็นดังนั้นก็ถามอีกครั้ง “แล้วคราวนี้เจ้ากำลังทำอะไร?”
นักเดินทางยิ้มเล็กน้อยและตอบ “ซุปนี้ร้อนเกินไป ข้าจึงต้องเป่าเพื่อให้มันเย็นลง ข้าจะได้กินได้โดยไม่ลวกปาก”
ทันใดนั้น สีหน้าของเซเทอร์เปลี่ยนไป มันขมวดคิ้วและมองนักเดินทางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความระแวง มันวางมือบนโต๊ะและพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “เจ้าหมายความว่า เจ้าสามารถใช้ลมหายใจเดียวกัน ทั้งเพื่อให้อุ่นและให้เย็นได้งั้นหรือ?”
นักเดินทางพยักหน้า “ใช่ มันก็เป็นสิ่งที่ธรรมดา ข้าทำเพื่อปรับให้เหมาะกับสถานการณ์”
เซเทอร์ส่ายหัวและลุกขึ้นจากที่นั่ง มันชี้ไปที่ประตูและกล่าวอย่างเด็ดขาด “ข้าจะไม่ไว้ใจผู้ที่ใช้ลมหายใจเดียวกันเพื่อจุดประสงค์ที่ตรงข้ามกัน เจ้าจงออกไปเสียเถอะ! ข้าไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้ที่เปลี่ยนแปลงความตั้งใจของตนไปตามสถานการณ์ได้”
นักเดินทางตกใจและพยายามอธิบาย “แต่ท่าน ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำสิ่งใดที่ผิด ท่านก็เห็นว่าข้าแค่พยายามทำให้ตัวเองอยู่รอด…”
เซเทอร์ไม่ฟังและยืนกราน “ไม่ต้องพูดอะไรอีก ข้าไม่อาจเชื่อใจในตัวเจ้าได้ จงออกไปจากบ้านของข้าเดี๋ยวนี้!”
นักเดินทางไม่มีทางเลือก เขาจำใจลุกขึ้นและเดินออกจากบ้านของเซเทอร์ไป เขากลับไปเผชิญกับลมหนาวและหิมะอีกครั้ง คราวนี้นอกจากความหนาวเหน็บแล้ว หัวใจของเขายังรู้สึกเย็นชาเพราะคำปฏิเสธของเซเทอร์
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความไม่มั่นคงในตัวตนและการเปลี่ยนแปลงเจตนาไปตามสถานการณ์ อาจทำให้ผู้อื่นรู้สึกไม่ไว้วางใจและระแวงในความจริงใจของเรา ความชัดเจนและความสม่ำเสมอในพฤติกรรมคือสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ หากเราต้องการความไว้วางใจจากผู้อื่น เราต้องแสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่ในจุดยืนและความจริงใจของตัวเราเอง
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องเซเทอร์กับนักเดินทาง (อังกฤษ: The Satyr and the Traveller) เป็นหนึ่งในนิทานอีสป นิทานเรื่องนี้ได้รับการจัดอยู่ในลำดับที่ 35 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ)
สุภาษิตยอดนิยม “to blow hot and cold” (เป่าลมหายใจทั้งร้อนและเย็น) เชื่อมโยงกับนิทานเรื่องนี้ และนิทานได้รับการตีความว่าเป็นคำเตือนเกี่ยวกับการกระทำที่ไม่จริงใจหรือสองหน้า
นิทานเรื่องนี้มีเวอร์ชันภาษากรีกและเวอร์ชันละตินยุคหลังโดยอาวิอานุส (Avianus) ในรูปแบบที่เป็นที่รู้จัก เซเทอร์หรือฟอนพบกับนักเดินทางที่หลงอยู่ในป่าท่ามกลางฤดูหนาวที่รุนแรง ด้วยความสงสาร เซเทอร์จึงเชิญนักเดินทางไปพักที่บ้านของเขา เมื่อชายคนนั้นเป่าลมหายใจบนมือของเขา เซเทอร์ถามว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ และรู้สึกประทับใจเมื่อชายคนนั้นบอกว่าเขาทำเพื่อให้มืออบอุ่น แต่เมื่อชายคนนั้นเป่าลมหายใจบนซุปเพื่อทำให้เย็นลง เซเทอร์ผู้ซื่อสัตย์แห่งป่ารู้สึกตกตะลึงในพฤติกรรมที่ดูเหมือนจะขัดแย้ง และไล่นักเดินทางออกจากถ้ำของเขา
นิทานนี้สอนให้ระมัดระวังผู้ที่มีพฤติกรรมขัดแย้งในตัวเอง ซึ่งอาจสร้างความไม่ไว้วางใจและเป็นภัยต่อผู้อื่น