ปกนิทานกริมม์เรื่องราชินีผึ้ง

นิทานกริมม์เรื่องราชินีผึ้ง

ในกาลสมัยอันนานโพ้น ณ ดินแดนที่ความเมตตามักถูกมองว่าคือความโง่เขลา แต่มีหัวใจที่รักและเคารพต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดอย่างแท้จริง

มีนิทานกริมม์เรื่องหนึ่ง เล่าถึงการผจญภัยของวิทลิงไปยังปราสาทที่ถูกสาป ซึ่งความดีงามในจิตใจของเขาเท่านั้นที่สามารถเปิดทางให้เขาเอาชนะภารกิจอันเป็นไปไม่ได้ ทำลายคำสาปที่ครอบงำปราสาท และทำให้เขากลายเป็นกษัตริย์ผู้ทรงคุณธรรมได้ในที่สุด กับนิทานกริมม์เรื่องราชินีผึ้ง

ภาพประกอบนิทานกริมม์เรื่องราชินีผึ้ง

เนื้อเรื่องนิทานกริมม์เรื่องราชินีผึ้ง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว โอรสของกษัตริย์สามองค์ได้ออกเดินทางผจญภัย แต่สองพระองค์โตนั้นหลงระเริงในโลกกว้าง ทรงใช้ชีวิตอย่างสำมะเลเทเมาและลืมสิ้นซึ่งแผ่นดินแม่

ส่วนพระอนุชาองค์ที่สามซึ่งมีพระนามว่าวิทลิง (Witling) ผู้ถูกมองว่าซื่อเกินไปนัก ได้ติดตามออกตามหา เมื่อพบกันที่ชายป่าเปลี่ยว พี่ชายทั้งสองก็หัวเราะเยาะอย่างดูถูก

“โอ้ ดูสิ! เจ้าโง่ ของเราตามมาถึงที่นี่ได้อย่างไร!” พี่ชายคนโตเอ่ยเย้ยหยัน

พี่ชายคนรองสมทบ “เจ้าคิดว่าความซื่อบื้อของเจ้าจะนำทางเจ้าไปสู่ความสำเร็จหรือ? พวกเราผู้มีความสามารถยังทำไม่ได้เลย เจ้าควรกลับวังไปเสียเถิด วิทลิงเอ๋ย!”

แต่เจ้าชายวิตลิงไม่ตอบโต้ และทั้งสามก็เดินทางร่วมกันต่อไป จนกระทั่งมาถึงจอมปลวกมหึมาแห่งหนึ่ง พี่ชายคนโตคว้ากิ่งไม้ขึ้นมาอย่างคะนองมือ “มาดูกันเถอะว่าเจ้ามดพวกนี้จะแตกตื่นกันอย่างไรเมื่อเราเขี่ยรังมัน!”

วิตลิงร้องห้ามทันที “หยุดเดี๋ยวนี้เถิด พี่ใหญ่! ปล่อยพวกสัตว์เล็ก ๆ เหล่านั้นไว้เถิด ข้าจะไม่ยอมให้รังของพวกมันถูกทำลายลงเพราะความคะนองของท่าน!” พี่ชายทั้งสองส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย แต่ก็ยอมปล่อยไปตามคำขอของน้องชาย

พวกเขาเดินทางต่อไปจนถึงทะเลสาบใส ที่มีฝูงเป็ดว่ายน้ำอยู่ พี่ชายคนรองมองท้องฟ้าที่เริ่มมืด แล้วกล่าวว่า “เราต้องหาอาหารแล้ว! เนื้อเป็ดดูน่าจะอิ่มท้องนัก”

วิทลิงปฏิเสธเสียงแข็ง “ไม่ได้! พวกมันกำลังใช้ชีวิตของมันอยู่ ข้าจะไม่ยอมให้พวกมันถูกฆ่า เพื่อเป็นอาหารของพวกเรา!” พี่ชายก็จำใจต้องปล่อย

และสุดท้าย พวกเขาก็พบกับรังผึ้งขนาดใหญ่ ซึ่งมีน้ำผึ้งไหลอาบต้นไม้ พี่ชายคนโตดีใจ “นี่แหละ! เราจุดไฟรมควันพวกผึ้งให้หมด แล้วเราจะได้น้ำผึ้งมาเป็นรางวัล!”

แต่วิตลิงกลับยืนกราน “ไม่! พวกเขาทำงานหนักเพื่อรังของตน ข้าจะไม่ยอมให้พวกมันต้องถูกรมควันตาย เพื่อน้ำผึ้งของเรา!” ด้วยความเบื่อหน่าย พี่ชายทั้งสองจึงยอมทำตามคำขอสุดท้ายของน้องชาย

“ความเมตตาของเจ้ามันไร้สาระจริง ๆ วิตลิง!” พี่ชายคนรองพึมพำ

ในที่สุด พี่น้องก็มาถึงปราสาทต้องมนตร์ ที่ทุกสิ่งดูเหมือนถูกแช่แข็งอยู่ในความเงียบ พวกเขาพบม้ามากมายในคอก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นม้าหิน

หลังจากเดินสำรวจ พวกเขาก็มาถึงประตูที่ล็อกถึงสามชั้น มีเพียงช่องเล็ก ๆ ให้มองเห็นชายชราผมขาวร่างเล็ก นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะด้านใน พวกเขาตะโกนเรียก แต่ชายชราไม่ตอบ จนกระทั่งเรียกเป็นครั้งที่สาม ชายชราจึงลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า ไขกุญแจ แล้วออกมา

ชายชราไม่กล่าวคำใด แต่พาพวกเขาไปที่ห้องอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรส เมื่ออิ่มหนำสำราญแล้ว เขาก็แยกให้ไปพักผ่อนในห้องของแต่ละคน

เช้าวันต่อมา ชายชรานำพี่ชายคนโตไปยังโต๊ะหินที่มีตัวอักษรสลักคำสั่งปลดคำสาปไว้สามข้อ “จงอ่านเสียเถิด! มีเพียงสามทางเท่านั้นที่จะปลดปล่อยปราสาทนี้ได้”

“ภารกิจแรก” พี่ชายคนโตอ่านออกเสียง “คือการรวบรวมไข่มุกหนึ่งพันเม็ด ที่ซ่อนใต้ตะไคร่น้ำในป่าให้ครบ ก่อนดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้า และถ้าขาดไปเพียงเม็ดเดียว… ผู้นั้นจะต้องกลายเป็นหิน!”

พี่ชายคนโตมั่นใจ “หนึ่งพันเม็ด! เรื่องง่าย ๆ!” เขาออกไปค้นหาตลอดวัน แต่ด้วยความเย่อหยิ่ง เขาไม่ใส่ใจรายละเอียด เมื่อสิ้นแสงตะวัน ชายชรากลับมา

“ท่านได้กี่เม็ด?” ชายชราถามเสียงเรียบ

“ข้าได้… หนึ่งร้อยเม็ด” พี่ชายคนโตตอบอย่างอับอาย

“หนึ่งร้อยเม็ดเท่านั้นหรือ!” ชายชราพึมพำ และตามคำสาปที่สลักไว้ พี่ชายคนโตก็กลายเป็นหิน ไปในทันที

วันรุ่งขึ้น พี่ชายคนรองรับภารกิจเดียวกัน แต่ด้วยความประมาท เขาก็ทำได้เพียงสองร้อยเม็ด และต้องกลายเป็นหินตามพี่ชายไป

ภาพประกอบนิทานกริมม์เรื่องราชินีผึ้ง 2

บัดนี้ ถึงคราวที่วิทลิง ต้องรับภารกิจที่สามต่อจากพี่ชายทั้งสอง ผู้ซึ่งบัดนี้กลายเป็นรูปปั้นหินยืนอยู่ข้างม้าหินแล้ว พระองค์เริ่มค้นหาไข่มุกในตะไคร่น้ำอย่างขะมักเขม้น แต่มันเป็นงานที่ยากเย็นยิ่งนัก

“โอ้… ข้าจะหาไข่มุกถึงหนึ่งพันเม็ดได้อย่างไรกัน ในเมื่อพี่ชายผู้ฉลาดกว่าข้าก็ยังทำไม่สำเร็จเลย” วิตลิงพึมพำด้วยความท้อแท้ และทรุดกายลงนั่งบนก้อนหินพลางร่ำไห้

ทันใดนั้น เสียงกระซิบก็ดังขึ้นเบื้องหน้า พระองค์เงยหน้าขึ้นก็พบกับพระราชาแห่งมด ที่พระองค์เคยช่วยรังไว้กำลังเดินนำขบวนมดงานนับห้าพันตัวมาอย่างรวดเร็ว

“เจ้าชายวิทลิงผู้เมตตา” ราชาแห่งมดกล่าว “ความเมตตาของท่านทำให้รังของเราอยู่รอดได้ วันนี้เราจะตอบแทนท่าน”

เหล่ากองทัพมดตัวเล็ก ๆ กระจายกันไปทั่วป่า พวกมันเริ่มขนไข่มุกที่ซ่อนเร้นอยู่ใต้ตะไคร่น้ำอย่างรวดเร็วราวกับลมพัด ไม่นานเกินรอ ไข่มุกหนึ่งพันเม็ดก็ถูกรวบรวมมากองเป็นภูเขาลูกเล็ก ๆ ตรงหน้าวิตลิงได้ทันเวลาพอดี

วิตลิงรีบไปหาชายชราผมขาว “ข้าทำภารกิจแรกสำเร็จแล้ว!”

ชายชราพยักหน้าแล้วนำไปยังโต๊ะหิน “ภารกิจที่สอง จงนำกุญแจห้องบรรทมของเจ้าหญิง ออกมาจากก้นทะเลสาบอันลึกนั้น”

วิตลิงเดินไปที่ทะเลสาบอย่างไม่รอช้า พลันฝูงเป็ดที่เคยรอดชีวิตจากการถูกล่าก็ว่ายน้ำเข้ามารายล้อม “ท่านช่วยชีวิตเราไว้” หัวหน้าเป็ดส่งเสียงร้อง “เราจะนำกุญแจนั้นมาให้ท่าน!” ฝูงเป็ดดำลงไปใต้น้ำอย่างพร้อมเพรียง ไม่นานนัก กุญแจทองเหลืองก็ถูกคาบขึ้นมาวางไว้ที่ฝั่ง

ภารกิจสุดท้ายถูกเปิดเผย “จงเลือกเจ้าหญิงที่อายุน้อยที่สุดและงดงามที่สุดจากสามพระองค์ที่กำลังบรรทมอยู่ให้ถูกต้อง หากเลือกผิด ทุกสิ่งจะพังทลาย”

วิตลิงเข้าไปในห้องบรรทมอย่างระมัดระวัง เจ้าหญิงสามพระองค์นอนเรียงกันอย่างสงบงดงาม และมีใบหน้าเหมือนกันทุกประการจนแยกไม่ออก

“ท่านแยกพวกเราได้ไหม” เสียงของชายชราดังขึ้น “ก่อนบรรทม องค์โตเสวยน้ำตาล องค์รองเสวยน้ำเชื่อม องค์เล็กสุดเสวยน้ำผึ้ง นี่คือความแตกต่างเดียวที่เหลืออยู่”

วิทลิงยืนนิ่ง ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ทันใดนั้น เสียงกระพือปีกก็ดังขึ้นราชินีผึ้ง ที่เขาช่วยชีวิตไว้ก็บินผ่านหน้าต่างเข้ามา นางบินวนแล้วค่อย ๆ ลองจุมพิตริมฝีปากของเจ้าหญิงทั้งสาม

นางหยุดเกาะอย่างมั่นคงที่ริมฝีปากของเจ้าหญิงพระองค์สุดท้าย แล้วส่งเสียงหึ่งเบา ๆ ราวกับกำลังยืนยัน น้ำผึ้งที่เหลืออยู่บนริมฝีปากนั้นช่วยให้วิทลิงรู้ว่าต้องเลือกใคร!

เมื่อวิทลิงเลือกเจ้าหญิงองค์สุดท้ายได้อย่างถูกต้องด้วยความช่วยเหลือจากราชินีผึ้งแล้ว คำสาปที่ครอบคลุมปราสาทมานานนับศตวรรษก็พลันถูกทำลายลงในฉับพลัน!

ทุกสิ่งที่ถูกสาปให้กลายเป็นหินก็กลับคืนสู่สภาพเดิม ม้าหินส่งเสียงร้องอย่างมีชีวิตและวิ่งวนอยู่ในคอกด้วยความดีใจ พี่ชายทั้งสองคนของวิตลิงสลายจากรูปปั้นหินและฟื้นคืนสติด้วยความตื่นตระหนก พวกเขามองดูน้องชายผู้ที่พวกเขาเคยเย้ยหยันว่า “เจ้าโง่” ว่ากำลังยืนอยู่ข้างเจ้าหญิงที่งดงามที่สุด

พร้อมกับแสงแห่งชัยชนะที่สาดส่องลงมา พวกเขารู้สึกละอายใจในความหยาบกระด้างและความประมาทของตนเองเป็นอย่างยิ่ง จึงรีบเข้ามาคุกเข่าต่อหน้าวิตลิง

“พี่ชายทั้งสอง” วิทลิงกล่าวอย่างใจดีและปราศจากความอาฆาตแค้น “พวกท่านได้รับการปลดปล่อยแล้ว หวังว่าเหตุการณ์นี้จะสอนให้ท่านรู้ว่าความเมตตาสำคัญกว่าความเย่อหยิ่ง”

คำสาปที่แตกสลายไปนั้นไม่เพียงแต่คืนชีวิตให้แก่ปราสาท แต่ยังเผยให้เห็นความจริงที่ซ่อนอยู่ วิทลิงผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาและความอดทนคือผู้ที่สมควรได้รับความสุขที่สุด

ต่อมา วิตลิงได้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงที่อายุน้อยที่สุดและงดงามที่สุดในพิธีที่ยิ่งใหญ่ เมื่อพระบิดาของเจ้าหญิงสวรรคต พระองค์ก็ได้สวมมงกุฎเป็นกษัตริย์วิทลิง ปกครองอาณาจักรด้วยความยุติธรรมและความเมตตาที่พระองค์เคยแสดงต่อสรรพสัตว์

ส่วนพี่ชายสองคน แม้จะยังคงความเห็นแก่ตัวอยู่บ้าง ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแต่งงานกับเจ้าหญิงอีกสองพระองค์ที่เหลือ พวกเขาจำต้องอยู่ภายใต้การดูแลของกษัตริย์วิตลิงผู้ซึ่งเป็นน้องชายที่พวกเขาเคยดูถูกเหยียดหยาม

แต่บัดนี้กลับเป็นผู้ที่กำหนดชะตาชีวิตของพวกเขา ด้วยเหตุนี้เอง ราชินีผึ้งและเหล่ามดและเป็ดจึงได้นำพาให้เจ้าชายผู้มีจิตใจดีงามได้ขึ้นครองบัลลังก์และสร้างอาณาจักรที่สงบสุขสืบไป

ภาพประกอบนิทานกริมม์เรื่องราชินีผึ้ง 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ความเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตแม้เพียงเล็กน้อยจะนำพาโชคลาภอันยิ่งใหญ่มาให้ และความดีงามในจิตใจนั้นมีพลังที่เหนือกว่าความฉลาดทางโลกและนำมาซึ่งชัยชนะเหนือความเย่อหยิ่ง

ความใจดีและความเมตตาของวิทลิงต่อมด เป็ด และผึ้ง ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตพวกมันไว้เท่านั้น แต่ยังส่งผลให้สรรพสัตว์เหล่านั้นกลับมาช่วยเหลือเขาในการทำภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จ ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ว่าการให้ที่บริสุทธิ์ใจย่อมได้รับการตอบแทนเสมอ ในทางกลับกัน ความหยาบกระด้างและความเย่อหยิ่งของพี่ชายได้นำพาพวกเขาไปสู่ความล้มเหลวและถูกสาปให้เป็นหินในที่สุด

อ่านต่อ: คอลเลกชันนิทานกริมม์อ่านสนุกเพลิดเพลินได้ข้อคิดดี ๆ อ่านได้ทุกวัย ที่นี่ taleZZZ.com

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานกริมม์เรื่องราชินีผึ้ง (อังกฤษ: The Queen Bee) นิทานเรื่องนี้มาจากคอลเลกชันนิทานของพี่น้องกริมม์ (Grimm’s Fairy Tales) อยู่ในลำดับที่ 062 KHM

โครงเรื่องจัดอยู่ในกลุ่มนิทานประเภท “นิทานอัศจรรย์และคุณธรรม” (Magic Tale / Tale of Kindness Rewarded) ซึ่งแก่นเรื่องคือการนำเสนอเรื่องราวของตัวละครที่มีจิตใจบริสุทธิ์และแสดงความเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ และความเมตตานั้นเองที่นำพามาซึ่งความช่วยเหลือจากสรรพสัตว์เพื่อทำภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จ

นิทานนี้เป็นตัวอย่างสำคัญของโครงสร้าง “ภารกิจสามอย่าง” และ “สัตว์ผู้ช่วยเหลือ” (Animal Helper) ที่พบได้บ่อยในนิทานพื้นบ้านของยุโรป โดยเน้นย้ำถึงคุณค่าของความอ่อนโยนที่สามารถเอาชนะความเฉลียวฉลาดที่มาพร้อมกับความเย่อหยิ่งและผลักดันให้ตัวละครผู้ถูกดูแคลนได้ขึ้นสู่บัลลังก์ในที่สุด

คติธรรม: “จงหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความเมตตาแม้ต่อสิ่งเล็กน้อย เพราะเมื่อถึงคราคับขัน สิ่งเหล่านั้นจะกลับมาเป็นกองทัพแห่งผู้ช่วยเหลือให้แก่ชีวิต”