ในโลกที่ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สิ่งต่าง ๆ ที่เคยมีคุณค่าอาจสูญหายหรือเลือนหายไป เหลือไว้เพียงร่องรอยเล็ก ๆ ที่แสดงถึงอดีตที่งดงาม แต่บางครั้ง สิ่งเล็กน้อยที่หลงเหลืออยู่เหล่านั้นกลับมีพลังในการสร้างความสุขและความทรงจำที่มีคุณค่า
เช่นเดียวกับเรื่องราวของหญิงชราผู้หนึ่ง ที่ในระหว่างการเดินทางธรรมดาของเธอ ได้พบกับโถไวน์ว่างเปล่าที่ถูกทิ้งไว้ข้างทาง แม้โถนั้นจะไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่ แต่สิ่งที่เธอค้นพบกลับล้ำค่ากว่าที่คาดคิด กับนิทานอีสปเรื่องหญิงชรากับโถไวน์
เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องหญิงชรากับโถไวน์
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ ในชนบท มีหญิงชราคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย เธอมีนิสัยชอบเดินเล่นไปตามเส้นทางเล็ก ๆ รอบหมู่บ้าน เพื่อชื่นชมธรรมชาติและสิ่งรอบตัวที่มอบความสุขให้กับเธอ
วันหนึ่ง ขณะที่หญิงชราเดินเล่นอยู่บนถนนสายเก่าที่ทอดยาวผ่านไร่องุ่นที่เคยอุดมสมบูรณ์ เธอสะดุดตาเข้ากับโถไวน์ใบหนึ่งที่ถูกวางทิ้งไว้ข้างทาง โถนั้นทำจากดินเผา มีลวดลายแกะสลักที่งดงาม แม้จะมีร่องรอยของการใช้งานที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน
“โถใบนี้ช่างดูงดงามนัก แต่ทำไมถึงถูกทิ้งไว้เช่นนี้?” หญิงชราพูดกับตัวเอง เธอก้มลงหยิบมันขึ้นมาและสังเกตเห็นว่าโถนั้นว่างเปล่า
แม้ไม่มีไวน์เหลืออยู่ในโถ แต่กลิ่นหอมหวานของไวน์ที่ติดอยู่ยังคงหลงเหลือ หญิงชราสูดกลิ่นหอมนั้นเข้าไปลึก ๆ และหลับตาเพื่อสัมผัสความรู้สึกนั้น
“โอ้ ช่างเป็นกลิ่นที่หอมเหลือเกิน!” เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ “เพียงแค่กลิ่นนี้ก็ทำให้ข้ารู้สึกสุขใจ หากกลิ่นยังมอบความสุขได้ขนาดนี้ ข้าจินตนาการได้เลยว่ารสชาติของไวน์ในโถนี้จะยอดเยี่ยมเพียงใด”
หญิงชรายิ้มกว้างและมองโถไวน์ในมืออย่างชื่นชม เธอพูดกับมันเหมือนกำลังพูดกับเพื่อนเก่า
“เจ้าคงเคยบรรจุไวน์ที่ดีที่สุดในโลกไว้ในตัวเจ้า กลิ่นที่เหลืออยู่นี้ยังคงบอกเล่าเรื่องราวถึงคุณค่าของเจ้า แม้เวลาจะผ่านไปและเจ้าไม่มีอะไรเหลือ แต่เจ้าก็ยังมอบความสุขให้กับข้าได้”
หญิงชรายืนอยู่ตรงนั้น สูดกลิ่นหอมจากโถไวน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความสุขจากกลิ่นนั้นทำให้เธอลืมความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไปเสียหมด
เธอวางโถไวน์ลงอย่างเบามือ แล้วพูดกับมันราวกับให้คำสอนกับตัวเอง
“บางครั้ง สิ่งที่หลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยก็เพียงพอที่จะสร้างความสุขให้เราได้ หากเรารู้จักชื่นชมมัน แม้ว่าเจ้าจะว่างเปล่า แต่กลิ่นหอมนี้ก็ทำให้ข้ารู้สึกถึงความงดงามของสิ่งที่เคยอยู่ในตัวเจ้า”
หญิงชรายิ้มอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป เธอยังคงรู้สึกถึงกลิ่นหอมหวานที่ติดอยู่ในความทรงจำ ขณะที่เธอเดินกลับบ้านด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุข
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คุณค่าของสิ่งดีงามไม่ได้หมดไป แม้จะเหลือเพียงร่องรอยหรือความทรงจำก็ตาม หากเรารู้จักชื่นชมสิ่งเล็กน้อยที่ยังคงอยู่ เราก็สามารถค้นพบความสุขจากมันได้ ความงดงามในชีวิตมักอยู่ในรายละเอียดเล็ก ๆ ที่เรามองเห็นคุณค่าและเรียนรู้ที่จะพึงพอใจกับสิ่งที่มี
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องหญิงชรากับโถไวน์ (อังกฤษ: The Old Woman and the Wine-jar) เป็นหนึ่งในนิทานอีสป นิทานเรื่องนี้ได้รับการจัดอยู่ในลำดับที่ 493 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) นิทานเรื่องนี้ถูกนำไปใช้ในบริบทที่แสดงถึง อิทธิพลของสิ่งดีงามที่คงอยู่ยาวนาน เช่น ผลกระทบเชิงบวกของการศึกษา
นิทานเรื่องนี้ปรากฏในรูปแบบเรื่องเล่าสั้นๆ ในชุดนิทานของฟีดรัส (Phaedrus) เล่าถึงหญิงชราที่พบไหเหล้าองุ่นเปล่า ซึ่งยังคงมีกลิ่นหอมกรุ่นหลงเหลืออยู่ เธอสูดกลิ่นนั้นด้วยความพึงพอใจและกล่าวว่า “โอ้ วิญญาณหวานฉ่ำ ข้าขอยืนยันว่าท่านต้องยอดเยี่ยมเพียงใด ถึงได้ทิ้งกลิ่นหอมเลิศล้ำไว้เช่นนี้!”
นิทานเรื่องนี้เป็นคำเปรียบเปรย และสำหรับผู้ที่รู้จักข้าพเจ้า พวกเขาจะเข้าใจว่ามันเกี่ยวกับสิ่งใด
ฟีดรัสกำลังเล่นกับภาพลักษณ์ขบขันของหญิงชราขี้เมา ซึ่งเป็นตัวละครที่มักพบในละครตลกทั้งกรีกและโรมัน ภาพลักษณ์นี้ยังปรากฏในรูปปั้นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีกด้วย