นิทานอีสปเรื่องชายชรากับความตาย

ปกนิทานอีสปเรื่องชายชรากับความตาย

ในโลกที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก บางครั้งชีวิตอาจดูเหมือนเป็นภาระอันหนักอึ้ง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้าและความทุกข์ยากในแต่ละวัน ชายชราคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงชีพ กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่เขารู้สึกว่าไม่อาจแบกรับภาระเหล่านี้ได้อีกต่อไป

แต่ในวันที่เขาหันไปเรียกหาความตาย สิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นบทเรียนที่ลึกซึ้งและทรงพลัง กับนิทานอีสปเรื่องชายชรากับความตาย

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องชายชรากับความตาย

เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องชายชรากับความตาย

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความยากจนและความทุกข์ยาก มีชายชราคนหนึ่งอาศัยอยู่เพียงลำพัง เขาไม่มีครอบครัวและไม่มีใครคอยช่วยเหลือ งานของเขาคือเก็บฟืนในป่ามาขายเพื่อหาเลี้ยงชีพ ร่างกายของเขาผอมแห้งเพราะความลำบาก และหลังของเขาค่อมงอเพราะต้องแบกฟืนหนักทุกวัน

ชายชราตื่นขึ้นทุกเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เขาเดินเข้าไปในป่าที่อยู่ไม่ไกลนักพร้อมกับตะกร้าเปล่าบนหลัง วันนั้นเช่นกัน เขาเดินลึกเข้าไปในป่า เก็บฟืนทีละชิ้นอย่างระมัดระวัง ฟืนแต่ละท่อนหนักหน่วง และเขาต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีเพื่อบรรจุมันลงในตะกร้า

เมื่อถึงเวลาบ่าย ตะกร้าของเขาก็เต็มจนล้น ฟืนในตะกร้านั้นหนักจนแทบทำให้เขาเดินไม่ไหว แต่เขายังคงเดินกลับบ้านด้วยความอดทนและหวังว่าจะขายฟืนได้มากพอที่จะซื้ออาหารสำหรับวันถัดไป

แต่วันนี้เป็นวันที่ร่างกายของเขาไม่อาจทนไหวอีกต่อไป เมื่อเดินกลับออกมาจากป่าได้เพียงครึ่งทาง เขารู้สึกว่าขาของเขาสั่นและหลังของเขาปวดร้าวจนแทบทนไม่ไหว ชายชราทิ้งตะกร้าฟืนลงกับพื้นอย่างหมดแรง และนั่งลงใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาแก่เขา

เขาพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่เปี่ยมไปด้วยความเจ็บปวด “ชีวิตนี้มันทุกข์เกินไป ข้าทำงานหนักมาทั้งชีวิต แต่ข้าก็ยังต้องอดทนอยู่ในความยากจนเช่นนี้ ข้าเหนื่อยเหลือเกิน…ทำไมข้าถึงต้องมีชีวิตที่ยากลำบากเช่นนี้ด้วย?”

เขานั่งอยู่เช่นนั้น คิดถึงชีวิตที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความทุกข์ เขาถูกกดขี่จากคนในเมืองที่ซื้อฟืนในราคาถูก แต่กลับขายของให้เขาในราคาสูง เขาถูกเพิกเฉยจากผู้คนรอบตัว เพราะเขาไม่มีเงินหรือสถานะใด ๆ ในสังคม

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องชายชรากับความตาย 2

ในที่สุด ด้วยความเหนื่อยล้าและหมดหวัง เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและเปล่งเสียงเรียก “โอ้…ความตาย ได้โปรดมารับข้าไปเสียที! ข้าไม่อยากทนทุกข์กับชีวิตที่ไร้ค่าเช่นนี้อีกต่อไป!”

คำพูดของเขาเงียบไปในป่าอันสงบ แต่ไม่นานนัก ความตายก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา ความตายมาในรูปลักษณ์ของบุรุษในชุดคลุมสีดำ มือถือเคียวอันคมกริบ และน้ำเสียงเย็นสงบที่ทำให้ชายชราขนลุก “เจ้าต้องการอะไรจากข้า?” ความตายถามขึ้น

ชายชราเงยหน้าขึ้นมองความตาย ร่างของเขาสั่นเล็กน้อยด้วยความกลัว แม้เขาจะเรียกหาความตาย แต่การที่มันปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา ทำให้เขาตระหนักถึงสิ่งที่เขาอาจสูญเสียไป

ชายชราสะอึกเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงสั่น “เอ่อ…ข้า…ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้น ข้าไม่ได้อยากตายจริง ๆ… ข้าแค่เหนื่อยเกินไป…ข้าเพียงต้องการให้เจ้าช่วยยกตะกร้าฟืนขึ้นหลังข้าก็พอ”

ความตายยิ้มเล็กน้อย แม้ใบหน้าของมันจะซ่อนอยู่ในเงามืด “เจ้าเรียกข้ามาเพื่อสิ่งนี้หรือ?” มันพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนล้อเลียนเล็กน้อย แต่ไม่ได้โกรธเคือง

ชายชราก้มหน้าลงพร้อมน้ำตาที่คลอเบ้า “ใช่…ข้าอาจเหนื่อยล้า แต่ข้าก็ยังอยากมีชีวิตอยู่ ข้ายังมีงานที่ต้องทำ แม้ข้าจะทุกข์ยาก แต่ข้าก็ไม่อาจละทิ้งชีวิตนี้ได้”

ความตายจ้องมองชายชราอยู่นานก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสงบ “เจ้าควรรู้ว่าชีวิตไม่ได้มีค่าเพียงเพราะไม่มีความทุกข์ แต่เพราะมันคือโอกาสที่เจ้าได้เลือกที่จะสู้ต่อ”

หลังจากพูดจบ ความตายก็หายวับไป ชายชราเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบ ๆ ทุกอย่างกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง เขาเช็ดน้ำตาและลุกขึ้น แม้จะเหนื่อยล้า แต่เขาแบกตะกร้าฟืนขึ้นหลังอีกครั้งและเดินต่อไป

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องชายชรากับความตาย 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แม้ในยามที่เราทุกข์ทรมานและรู้สึกหมดหวัง ชีวิตยังคงเป็นสิ่งล้ำค่าที่เรายึดมั่นและไม่อาจละทิ้งได้ง่าย ๆ แม้ความเหนื่อยล้าและความทุกข์ยากจะทำให้เราคิดอยากหนีจากปัญหา แต่เมื่อเผชิญหน้ากับความจริงที่ไม่อาจย้อนกลับได้ เช่น ความตาย เรามักพบว่าชีวิตยังมีคุณค่ามากพอที่จะต่อสู้เพื่อรักษาไว้ ความหวังเล็ก ๆ ในการดำรงอยู่คือสิ่งที่ผลักดันให้เราก้าวต่อไป

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานอีสปเรื่องชายชรากับความตาย (อังกฤษ: The Old Man and Death) เป็นหนึ่งในนิทานอีสป ได้รับการจัดอยู่ในลำดับที่ 60 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) เนื่องจากเป็นนิทานที่ค่อนข้างหาได้ยากซึ่งมีมนุษย์เป็นตัวละครหลัก นิทานเรื่องนี้จึงกลายเป็นหัวข้อในงานศิลปะมากมาย โดยเฉพาะในฝรั่งเศส ซึ่ง ฌอง เดอ ลา ฟงแตน (Jean de la Fontaine) ได้นำเรื่องนี้มาดัดแปลงจนเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย

นิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าง่าย ๆ ที่แสดงถึงความรักในชีวิต แม้ในสถานการณ์ที่ทุกข์ยากที่สุด ในเวอร์ชันมาตรฐานที่ได้รับการเล่าขานเนื้อเรื่องกล่าวว่า: “ชายชราผู้เดินทางมาไกลพร้อมแบกฟืนหนักอึ้งจนรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก เขาวางภาระลงและเรียกหาความตายเพื่อช่วยปลดปล่อยเขาจากชีวิตอันทุกข์ยาก เมื่อความตายปรากฏตัวและถามถึงธุระของเขา ชายชราตอบว่า ‘ข้าขอเพียงท่านช่วยยกภาระนี้ขึ้นบนบ่าข้าอีกครั้ง'” นิทานนี้สอนว่า แม้ในยามลำบาก คนเราก็ยังคงยึดมั่นและรักในชีวิต

แม้แต่ผู้ที่ทุกข์ทรมานและถูกกดขี่ข่มเหง ก็ยังคงยึดมั่นในชีวิต

นิทานอีสปเรื่องอื่น ๆ

ติดตามนิทานทุกรูปแบบได้ที่ talezzz.com