ปกนิทานเซนเรื่องดวงจันทร์ขโมยไม่ได้

นิทานเซนเรื่องดวงจันทร์ขโมยไม่ได้

คำตอบบางคำ อาจไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวัง และบางครั้งกลับดูไร้สาระเสียจนเราหัวเราะออกมา แต่หากใจเรานิ่งพอ อาจพบว่าคำตอบนั้น… ลึกซึ้งยิ่งกว่าคำสอนใด ๆ

มีนิทานเซนเรื่องหนึ่งที่เล่าถึงคำถามธรรมดา และคำตอบที่ไม่มีใครตั้งราคาได้ เรื่องของหัวแมวที่ไม่มีใครอยากได้ แต่กลับล้ำค่ากว่าอะไรทั้งหมด กับนิทานเซนเรื่องสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในโลก กับนิทานเซนเรื่องดวงจันทร์ขโมยไม่ได้

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องดวงจันทร์ขโมยไม่ได้

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องดวงจันทร์ขโมยไม่ได้

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในป่าลึกที่ฐานเขามีบ้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ พระอาจารย์ไทกุ เรียวกัง ปรมาจารย์เซนผู้มีชีวิตที่เรียบง่าย ใช้ชีวิตอย่างสงบเงียบในกระท่อมเล็ก ๆ ที่ปลายเขา ทุกวันท่านทำงานตามหน้าที่ ใช้ชีวิตในความเงียบสงบ และไม่เคยพยายามหาสิ่งใดมาเติมเต็มชีวิตที่ท่านเลือกเดิน

คืนหนึ่งขณะที่ท่านกลับมาที่บ้านหลังจากออกไปเดินเล่นในป่า ท่านก็พบว่ามีชายคนหนึ่งยืนอยู่ในกระท่อมของเขา ชายคนนั้นดูเหมือนจะเป็นขโมย แต่เมื่อเขาเห็นกระท่อมที่ว่างเปล่ากลับไม่มีสิ่งของมีค่าใด ๆ เขาจึงรู้สึกสับสน

พระอาจารย์เรียวกังเดินเข้ามาและเห็นชายคนนั้นยืนอยู่ “เจ้าอาจจะเดินทางมาไกลเพื่อมาหาข้า”

พระอาจารย์เรียวกังพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบง่าย “ไม่ต้องห่วง เจ้าไม่ต้องกลับมือเปล่าเลย ขอให้เจ้ารับเสื้อผ้าของข้าไปเป็นของขวัญเถอะ”

ชายคนนั้นรู้สึกตกใจและงุนงงกับคำพูดของอาจารย์เซน เขามองไปที่เสื้อผ้าที่พระอาจารย์เรียวกังยื่นให้และรับไปอย่างงง ๆ ก่อนจะเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ

พระอาจารย์เรียวกังนั่งอยู่บนพื้นกระท่อมของท่านโดยไม่มีเสื้อผ้า หันหน้าไปทางท้องฟ้าและมองดูพระจันทร์ที่ส่องแสงสว่างจ้าอยู่บนฟ้า “คนผู้นั้นคงรู้สึกแปลกใจ”

ท่านคิดในใจ “ข้าหวังว่าเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างจากการกระทำของข้า”

เรียวคังนั่งมองพระจันทร์ “น่าสงสารจัง” ท่านครุ่นคิด “ข้าอยากจะมอบพระจันทร์แสนสวยนี้ให้เขาจริง ๆ”

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องดวงจันทร์ขโมยไม่ได้ 2

ขณะที่นั่งเงียบ ๆ พระอาจารย์เรียวกังยิ้มให้กับตัวเอง ก่อนจะพูดเบา ๆ กับตัวเอง “ข้าอยากจะให้เขาได้เห็นพระจันทร์ที่สวยงามนี้ด้วยเหมือนกัน”

ในคืนนั้น พระอาจารย์เรียวกังนั่งนิ่งเงียบใต้แสงจันทร์ที่ส่องสว่าง ท่านมองดูพระจันทร์ที่สวยงามและรู้สึกถึงความสงบที่ไหลเข้ามาในใจของท่าน ท่านไม่รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้มีเสื้อผ้าสวมใส่ หรือแม้แต่สิ่งของใด ๆ ที่อาจจะทำให้ชีวิตของท่านมีคุณค่าเพิ่มเติม

“สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตก็คือการปล่อยวาง” พระอาจารย์เรียวกังคิดในใจ “เราไม่ควรยึดติดกับสิ่งที่มี หรือสิ่งที่อยากได้ เพราะทุกสิ่งนั้นล้วนเป็นเพียงภาพลวงตา”

เสียงของลมหายใจของท่านดังชัดในความเงียบขณะที่ท่านนั่งอยู่ใต้ท้องฟ้า เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ และท่านเริ่มรู้สึกถึงความผ่อนคลายที่มาจากการปล่อยวางและการรับรู้ว่าไม่จำเป็นต้องมีอะไรเลยเพื่อที่จะมีความสุข

ในเช้าวันถัดมา พระอาจารย์เรียวกังยืนอยู่บนขอบเขา มองไปยังทิวทัศน์ของป่าเขียวขจีที่ทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา ท่านรู้สึกถึงความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ และพบว่าตัวท่านเองเป็นเพียงส่วนหนึ่งของจักรวาลที่กว้างใหญ่

ขณะที่ท่านยืนอยู่ในความสงบ มีชายคนหนึ่งเดินขึ้นมาจากทางด้านล่าง พระอาจารย์เรียวกังมองไปที่เขาและยิ้มให้ “เจ้ากลับมาอีกแล้ว” พระอาจารย์เรียวกังกล่าวอย่างเบา ๆ

ชายคนนั้นที่เป็นขโมยในคืนก่อน หยุดอยู่ที่ด้านหน้าและยืนมองพระอาจารย์เรียวกังอย่างเงียบ ๆ “ข้า… ข้ายังไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านพูดเลย”

เขาพูดเสียงแผ่ว “ทำไมท่านถึงให้ทุกอย่างกับข้า ทั้ง ๆ ที่ท่านเองก็ไม่มีอะไรเลย”

พระอาจารย์เรียวกังยิ้มและตอบกลับไปด้วยความสงบ “สิ่งที่เจ้าต้องการไม่ใช่สิ่งที่มองเห็นได้ด้วยตา แต่เป็นการเข้าใจว่า สิ่งที่เรามีจริง ๆ คือความสงบและการปล่อยวาง”

ชายคนนั้นนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะยิ้มเล็กน้อยและเดินจากไปในที่สุด ขณะที่พระอาจารย์เรียวกังยังคงยืนอยู่ที่เดิม มองดูท้องฟ้าและพระจันทร์ที่ส่องแสงงดงาม

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องดวงจันทร์ขโมยไม่ได้ 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… สิ่งที่เรามีค่าที่สุดในชีวิตไม่ใช่สิ่งที่เราครอบครอง แต่คือการปล่อยวางและการเข้าใจในสิ่งที่มีอยู่แล้ว

พระอาจารย์เรียวกังไม่ได้สอนด้วยคำพูด แต่ด้วยการกระทำที่แสดงถึงความเมตตาและการปล่อยวาง เมื่อขโมยมาที่กระท่อมของท่าน ท่านไม่ได้แสดงความโกรธหรือความผิดหวัง แต่กลับให้เสื้อผ้าไปโดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน การกระทำนี้คือการเปิดประตูสู่ความสงบและการปล่อยวาง สิ่งที่ท่านให้ไปไม่ใช่แค่เสื้อผ้า แต่คือบทเรียนที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าคำสอนใด ๆ

อ่านต่อ: นิทานเซนเข้าถึงปรัชญาชีวิตความสงบ การปล่อยวาง

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานเซนเรื่องดวงจันทร์ขโมยไม่ได้ (อังกฤษ: The Moon Cannot Be Stolen) นิทานเรื่องนี้มาจากเรื่องราวในประเพณีเซนของญี่ปุ่น ซึ่งปรากฏในหลายแหล่งที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับเซน เช่น Zen Flesh, Zen Bone และ 101 Zen Stories ที่เป็นหนังสือที่รวบรวมคำสอนและเรื่องราวในแนวเซนโดยใช้การเล่าเรื่องเพื่อถ่ายทอดหลักการของเซนอย่างลึกซึ้ง

แนวคิดในศาสนาเซนที่เน้นการปล่อยวางและการมองหาความสงบภายในจิตใจ ผ่านการกระทำที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ในเรื่องนี้พระอาจารย์ไทกุ เรียวกัง (Taigu Ryōkan) ปรมาจารย์เซนผู้มีชีวิตเรียบง่ายและสงบ ได้ให้บทเรียนที่สำคัญเกี่ยวกับสิ่งที่แท้จริงในชีวิต

การปล่อยวางสิ่งที่ไม่จำเป็นและการเข้าใจในสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว เช่นเดียวกับพระจันทร์ที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้าไม่สามารถถูกขโมยหรือครอบครองได้ ความสงบในใจของท่านก็เช่นกัน ไม่สามารถถูกเอาไปได้จากภายนอก เพราะมันเกิดจากการปล่อยวางสิ่งต่างๆ ที่เราไม่จำเป็นต้องยึดติด

ดวงจันทร์ขโมยไม่ได้จึงสะท้อนถึงแนวคิดที่ว่า ความสงบและความสุขแท้จริงไม่สามารถถูกเอาไปจากเราได้ เพราะมันอยู่ภายในใจของเราเอง เสมือนกับดวงจันทร์ที่ส่องแสงในยามค่ำคืน ไม่มีใครสามารถจับต้องหรือครอบครองมันได้.

คติธรรม: “สิ่งที่เรายึดติดเป็นเพียงเงาของตัวเอง เมื่อเราปล่อยวางมัน เราจึงพบแสงสว่างในใจที่แท้จริง”


by