ในชีวิตมนุษย์ ความรักและความห่วงใยเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง แต่หากความรักนั้นมาพร้อมกับความตระหนี่และความกลัว อาจนำมาซึ่งความสูญเสียและความทุกข์ใจ
มีนิทานชาดกเรื่องหนึ่ง เล่าถึงพราหมณ์ผู้ขี้เหนียวที่รักลูกชายมาก แต่กลับไม่ยอมเสียสละเพื่อรักษาลูก จนนำไปสู่บทเรียนล้ำค่าที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา… กับนิทานชาดกเรื่องคนขี้งก

เนื้อเรื่องนิทานชาดกเรื่องคนขี้เหนียว
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพราหมณ์คนหนึ่งผู้มั่งคั่งแต่กลับขี้เหนียวเกินกว่าจะใช้เงินรักษาลูกชายที่รักยิ่ง เมื่อเด็กชายอายุสิบหกปี ป่วยหนักลงอย่างรวดเร็ว
พราหมณ์กลับไม่ยอมเรียกหมอผู้เชี่ยวชาญมา เพราะคิดว่าค่ารักษาจะสิ้นเปลืองเกินไป “ข้าจะใช้วิธีรักษาเอง ไม่ต้องเสียเงินแพง ๆ หรอก” เขาพูดกับตัวเองอย่างหนักแน่น
แต่ด้วยความรู้ที่จำกัดและขาดการดูแลที่ถูกต้อง อาการของลูกชายกลับทรุดโทรมลงทุกวัน เด็กชายซูบผอมลงจนเห็นซี่โครงชัดเจน ใบหน้าซีดเซียวและแววตาเริ่มอ่อนแรง
ชาวบ้านเริ่มพูดกันถึงความทุกข์ของครอบครัวพราหมณ์ แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปช่วยเพราะพราหมณ์ขี้เหนียวและขวางโลก
พราหมณ์เริ่มหวาดกลัวว่าคนในหมู่บ้านจะรู้ถึงความเจ็บป่วยของลูกชาย และอาจแอบเข้ามาในบ้านเพื่อขโมยทรัพย์สินที่เขาสะสมไว้หลายปี
“ถ้าคนรู้เรื่องนี้ พวกเขาอาจจะเข้ามาทำลายข้าวของข้าได้” เขากล่าวกับตัวเองด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว
เพราะความกลัวและความขี้เหนียวนี้ เขาตัดสินใจนำลูกชายออกมาวางไว้กลางแจ้งในลานบ้านเพื่อให้คนเห็นแค่อาการป่วยโดยไม่ต้องเข้าไปในบ้าน
ผู้คนในหมู่บ้านต่างรู้สึกสงสารเด็กชายที่ถูกทิ้งให้อยู่กลางแดดกลางลม บางคนพยายามเข้ามาเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือ แต่พราหมณ์ก็ขวางไว้ทุกครั้ง
บรรยากาศในหมู่บ้านเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและความวิตกกังวล ขณะที่พราหมณ์ยังคงยึดมั่นในความขี้เหนียวของตนอย่างไม่ลดละ

วันหนึ่ง ขณะที่เด็กชายยังนอนซูบผอมในลานบ้าน พระฤๅษีผู้มีปัญญาและเมตตาก็เดินทางผ่านมาที่หมู่บ้านนั้น เขาได้ยินเรื่องราวความทุกข์ของครอบครัวพราหมณ์และตัดสินใจแวะเยี่ยมเด็กชาย
พระฤๅษีนั่งลงใกล้ ๆ เด็กชาย และเริ่มเทศนาอย่างใจเย็น “เจ้าหนูเอ๋ย… ความรักและความห่วงใยต้องมาก่อนความโลภและความขี้เหนียว จงเปิดใจรับความเมตตาและความช่วยเหลือจากผู้อื่นเถิด”
พราหมณ์ผู้เป็นพ่อที่ยืนดูอยู่ก็เริ่มรู้สึกละอายใจ แต่ยังไม่กล้าพูดอะไร พระฤๅษีเทศนาอีกหลายวันจนเด็กชายรู้สึกสงบขึ้นและมีใจฮึดสู้
แต่ในที่สุด เด็กชายก็จากไปอย่างสงบ ท่ามกลางความเศร้าโศกของทุกคน
พราหมณ์โศกเศร้าเสียใจมาก เขาไปที่สุสานทุกวัน น้ำตาไหลไม่หยุด
พระเจ้าทรงเห็นความทุกข์ของพราหมณ์ จึงเสด็จลงมาพูดกับเขา “เหตุใดเจ้าจึงคร่ำครวญอยู่เช่นนี้ ข้าเห็นว่าเพราะความขี้เหนียวของเจ้าต่างหาก ที่ทำให้เจ้าสูญเสียลูกชายที่รักไป”
คำเตือนนั้นทำให้พราหมณ์ตระหนักถึงความผิดของตนเอง เขารู้ว่าความรักต้องมาพร้อมกับความเอื้อเฟื้อและการดูแลอย่างแท้จริง
หลังจากนั้น พราหมณ์เปลี่ยนใจ กลายเป็นคนใจกว้างและมีเมตตา เขาเริ่มช่วยเหลือผู้คนในหมู่บ้าน และใช้ทรัพย์สินของตนอย่างมีคุณค่า
ชาวบ้านเริ่มเคารพและรักเขาอีกครั้ง ชีวิตของเขาและชุมชนก็เจริญรุ่งเรืองอย่างสงบสุข

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ความขี้เหนียวและความเห็นแก่ตัว แม้จะเกิดจากความรัก ก็สามารถนำมาซึ่งความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ได้
พราหมณ์รักลูกชายมากแต่กลับไม่ยอมเสียสละเพื่อรักษาเขาอย่างเหมาะสม จนลูกชายต้องจากไปก่อนเวลาอันควร เรื่องราวจึงเตือนใจให้เรารู้ว่าความรักที่แท้จริง ต้องมาพร้อมกับความเอื้อเฟื้อและการดูแลอย่างมีเมตตา มิใช่ความเก็บงำหรือความกลัวสูญเสียเพียงอย่างเดียว
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานชาดกเรื่องคนขี้เหนียว (อังกฤษ: The Miser) จัดอยู่ในหมวดมนุษยชาดก ซึ่งพระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นมนุษย์ เรื่องราวนี้สะท้อนถึงโทษของความขี้เหนียวและความเห็นแก่ตัวในครอบครัวและสังคม
พระพุทธองค์ทรงเล่าเรื่องนี้เพื่อเตือนใจให้ผู้ฟังตระหนักถึงความสำคัญของการเสียสละและความเมตตาในการดูแลคนที่รัก และชี้ให้เห็นว่าความรักที่แท้จริงไม่ควรถูกจำกัดด้วยความกลัวหรือความตระหนี่
ชาดกเรื่องนี้จึงเป็นบทเรียนที่ย้ำเตือนถึงคุณค่าของความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการเปิดใจรับความช่วยเหลือจากผู้อื่นเพื่อสร้างชีวิตที่สงบสุขและมีความหมาย
คติธรรม: “ความรักที่แท้จริงไม่ใช่การเก็บงำ แต่คือการให้โดยไม่มีข้อแม้ เพราะความตระหนี่จะพรากสิ่งสำคัญที่สุดไปจากใจ”