ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มีชายผู้หนึ่งที่หวงแหนทรัพย์สมบัติของตนเองยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ด้วยความพยายามเก็บหอมรอมริบอย่างสุดชีวิต เขาได้ครอบครองสิ่งที่คิดว่าล้ำค่าที่สุด แต่สิ่งที่เขาเลือกจะทำกับมัน กลับนำพาเรื่องราวที่ไม่มีใครคาดคิด
เรื่องราวของชายขี้เหนียวผู้ทุ่มเททั้งชีวิตให้กับสมบัติก้อนหนึ่ง และดูว่าความหวงแหนจะนำเขาไปพบกับอะไรในท้ายที่สุด… กับนิทานอีสปเรื่องคนขี้เหนียวกับทองคำของเขา
เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องคนขี้เหนียวกับทองคำของเขา
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มีชายคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความขี้เหนียวเป็นที่สุด เขามีชีวิตอยู่อย่างประหยัดสุดขีด กินน้อย ใช้น้อย และแทบไม่เคยใช้เงินไปกับสิ่งใดที่ไม่จำเป็น ชายคนนี้หลงใหลในความมั่งคั่ง และใฝ่ฝันที่จะเก็บเงินทองให้ได้มากที่สุดในชีวิตของตนเอง
วันหนึ่ง หลังจากสะสมเงินทองมาหลายปี เขาตัดสินใจขายทรัพย์สินทุกอย่างที่มี ทั้งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และของใช้ทั้งหมด เพื่อแลกกับทองคำก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง
ทองก้อนนั้นเป็นสิ่งที่เขาภูมิใจที่สุดในชีวิต ชายขี้เหนียวถือมันไว้ในมือพลางพูดกับตัวเองว่า “ในที่สุด ข้าก็มีสมบัติที่ล้ำค่า ทองคำก้อนนี้จะอยู่กับข้าไปตลอดชีวิต ข้าจะไม่มีวันยอมให้ใครแตะต้องมันเด็ดขาด!”
แต่เขารู้ดีว่าการเก็บทองคำก้อนใหญ่ไว้กับตัวอาจเป็นอันตราย เขาจึงหาที่ซ่อนอย่างมิดชิด หลังจากคิดอยู่หลายวัน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจขุดหลุมลึก ๆ ใกล้กำแพงเมืองที่ห่างไกลผู้คน แล้วฝังทองคำก้อนนั้นเอาไว้
นับจากวันนั้นเป็นต้นมา ชายขี้เหนียวจะไปที่หลุมนั้นทุกเช้าตรู่ เขาค่อย ๆ ขุดเอาทองคำขึ้นมาดู แล้วจ้องมองมันด้วยสายตาเปี่ยมสุข จากนั้นจึงฝังมันกลับไปที่เดิม ทำเช่นนี้ทุกวันไม่มีขาด “ทองคำของข้า ข้าไม่ต้องใช้มันหรอก แค่ได้เห็นเจ้าก็ทำให้ข้ามีความสุขเหลือเกิน” เขาพูดกับตัวเองอย่างภาคภูมิใจ
แต่ชายขี้เหนียวหารู้ไม่ว่า การกระทำแปลก ๆ ของเขาได้สะดุดตาของคนงานคนหนึ่งที่ทำงานแถวนั้น คนงานผู้นั้นสังเกตเห็นว่าเขาไปที่จุดเดิมทุกวัน ทำท่าขุดดินแล้วกลับไปพร้อมรอยยิ้มแปลก ๆ จึงเริ่มสงสัยว่าใต้พื้นดินนั้นจะมีสิ่งใดซ่อนอยู่
คืนหนึ่ง หลังจากชายขี้เหนียวกลับไปแล้ว คนงานผู้นั้นแอบย่องมาที่กำแพงเมืองและขุดหลุมที่ชายขี้เหนียวไปนั่งอยู่ทุกวัน เมื่อขุดลงไปได้ไม่นาน เขาก็พบกับทองคำก้อนใหญ่ตามที่คาดไว้ “ฮ่าฮ่า! ทองคำก้อนโตเช่นนี้ ข้าคงรวยไปตลอดชีวิต!” เขาหัวเราะออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะรีบนำทองก้อนนั้นหนีไปทันที
รุ่งเช้า ชายขี้เหนียวกลับมาที่หลุมทองของเขาเช่นทุกวัน เขาค่อย ๆ ขุดดินออกด้วยความตื่นเต้น แต่แล้วใบหน้าของเขาก็ซีดเผือด ทองคำก้อนนั้นหายไปแล้ว! เขายืนตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนจะล้มลงนั่งกอดหัวเข่าร้องไห้เสียงดังลั่น เขาทุบพื้นดินและดึงผมของตัวเองพลางร้องว่า “โอ้ ทองคำของข้า! ใครกันที่ขโมยสมบัติอันล้ำค่าของข้าไป? ชีวิตข้าสิ้นแล้ว ทองคำของข้า!”
เสียงร้องไห้ของชายขี้เหนียวดังไปไกล จนผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาเริ่มหยุดดูด้วยความสงสัย ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปหาเขาและเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้นหรือท่าน? ทำไมท่านถึงร้องไห้โศกเศร้าเช่นนี้?”
ชายขี้เหนียวหันมาทั้งน้ำตาแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เขาเล่าว่าเขาขายทุกสิ่งที่มีเพื่อซื้อทองคำ และนำมันมาฝังไว้ตรงนี้ แต่ตอนนี้มันกลับหายไปเสียแล้ว
ชายผู้นั้นฟังจบก็ส่ายหัวพลางหัวเราะเบา ๆ “เจ้าหยุดร้องไห้ได้แล้ว! ทำไมเจ้าถึงเศร้าโศกนักล่ะ? เอาหินก้อนหนึ่งมาวางไว้ที่เดิมสิ แล้วทำเหมือนว่าทองยังอยู่ตรงนั้นก็พอ เพราะอย่างไรเจ้าก็ไม่เคยใช้มันอยู่ดี!”
ชายขี้เหนียวเงยหน้าขึ้นมองผู้พูดด้วยความตกตะลึง เขาอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก เพราะสิ่งที่ชายผู้นั้นพูดเป็นความจริงมาตลอด ทองคำที่เขาฝังไว้เป็นเพียงสิ่งที่เขาเอาไว้ชื่นชมเท่านั้น เขาไม่เคยใช้มันทำอะไรเลยแม้แต่น้อย
ตั้งแต่นั้นมา ชาวบ้านต่างเล่าขานเรื่องราวของชายขี้เหนียวผู้เสียทองคำที่เขาหวงแหน แต่ไม่เคยใช้ประโยชน์มันเลยแม้แต่นิดเดียว
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทรัพย์สมบัติใด ๆ จะไร้ค่า หากผู้ครอบครองไม่รู้จักนำมันไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะการเก็บสะสมไว้เฉย ๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่มีสิ่งนั้นเลย ความมั่งคั่งที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การครอบครอง แต่คือการใช้มันอย่างเหมาะสมเพื่อสร้างคุณค่าให้กับตนเองและผู้อื่น การเป็นเจ้าของสิ่งใดก็ตามย่อมไร้ความหมาย หากไม่รู้จักนำมันไปใช้ให้เกิดประโยชน์
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องคนขี้เหนียวกับทองคำของเขา (อังกฤษ: The Miser and his Gold) เป็นหนึ่งในนิทานอีสปที่สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของมนุษย์อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการใช้ทรัพย์สินอย่างผิดวิธี เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับมนุษย์ล้วน ๆ ข้อคิดจึงสามารถถ่ายทอดออกมาได้โดยตรงผ่านบทสนทนา ไม่ต้องตีความจากสถานการณ์เหมือนนิทานที่มีสัตว์เป็นตัวละคร นิทานเรื่องนี้ได้รับการจัดอยู่ในลำดับที่ 225 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ)
เรื่องราวหลักของนิทานนี้เล่าถึงชายขี้เหนียวคนหนึ่งที่นำทรัพย์สมบัติทั้งหมดมาเปลี่ยนเป็นก้อนทองคำแล้วนำไปฝังไว้ใต้ดิน เขาแวะเวียนกลับมาดูสมบัติของเขาทุกวันจนกระทั่งมีคนแอบสังเกตเห็นและขโมยทองก้อนไป เมื่อชายขี้เหนียวพบว่าทองของเขาหายไป เขาก็ร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าสงสาร
เพื่อนบ้านคนหนึ่งปลอบเขาว่า “เจ้าจะเสียใจไปทำไม? เอาหินก้อนหนึ่งไปฝังไว้แทน หรือกลับมาดูหลุมเปล่านี้ก็ได้ เพราะมันก็ไม่ต่างอะไรจากการมีทองอยู่ตรงนั้นเลย ในเมื่อทองของเจ้าก็ไม่ได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์อะไรเลย”
ทรัพย์สมบัติย่อมไร้ค่า หากไม่ถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น