ปกนิทานชาดกเรื่องรัฐมนตรีกับมูลแพะแห้ง

นิทานชาดกเรื่องรัฐมนตรีกับมูลแพะแห้ง

ในชีวิตของคนเรา คำพูดเป็นสิ่งสำคัญที่ใช้สื่อสารและเชื่อมสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่บางครั้งคำพูดมากเกินไปกลับกลายเป็นอุปสรรคและทำให้เกิดความวุ่นวาย

มีนิทานชาดกเรื่องหนึ่ง เล่าถึงรัฐมนตรีผู้พูดมากจนพระราชาถึงกับหมดความอดทน และเรื่องราวของชายยิงเป้าที่เข้ามาสอนบทเรียนให้เขา ด้วยวิธีที่ไม่เหมือนใคร… กับนิทานชาดกเรื่องข้าราชบริพารกับมูลแพะแห้ง

ภาพประกอบนิทานชาดกเรื่องรัฐมนตรีกับมูลแพะแห้ง

เนื้อเรื่องนิทานชาดกเรื่องรัฐมนตรีกับมูลแพะแห้ง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ราชอาณาจักรแห่งหนึ่ง มีพระราชาผู้ทรงธรรมและเมตตา แต่พระราชามีรัฐมนตรีคนหนึ่งที่พูดมากเสียจนแทบจะไม่ยอมให้ผู้อื่นได้เอ่ยปากเลย

ทุกครั้งที่ประชุมหรือหารือ เรื่องต่าง ๆ มักถูกกลบด้วยเสียงพูดที่ไม่มีวันหยุดของรัฐมนตรี “ท่านทูลกระหม่อม… เรื่องนี้ควรเป็นอย่างนั้น… และเรื่องนั้นต้องทำแบบนี้…” เสียงของรัฐมนตรีคนนั้นดังแทรกทุกคำพูด

พระราชาเริ่มรู้สึกหมดความอดทนและเหนื่อยหน่ายกับความวุ่นวายที่เกิดจากคำพูดมากมายของรัฐมนตรี “นี่เจ้าพูดไม่หยุดจริงๆ หรือ? หากไม่หาทางจัดการเสียที ข้าจะไม่สามารถบริหารราชอาณาจักรนี้ได้เลย” พระราชาพึมพำในใจ

พระราชาจึงคิดหาวิธีที่จะสอนบทเรียนให้รัฐมนตรีรู้จักความเงียบและรู้จักฟังบ้าง

ข่าวลือเกี่ยวกับชายผู้ยิงเป้าที่แม่นยำและชาญฉลาดแพร่ไปถึงพระราชา พระองค์จึงส่งคนไปเชิญชายผู้นั้นเข้ามาพบ

เมื่อชายยิงเป้ามาถึงพระราชา ท่านก็ถามตรงๆ “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าคือผู้ที่ยิงเป้าได้แม่นยำที่สุดในแผ่นดินนี้ ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า มีรัฐมนตรีคนหนึ่งที่พูดมากเสียจนวุ่นวาย เจ้าคิดว่าจะทำอย่างไรให้เขาหยุดพูดได้?”

ชายยิงเป้าหัวเราะพร้อมตอบอย่างมั่นใจ “ข้าเชื่อว่าข้าสามารถช่วยพระองค์ได้ แม้จะดูเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่ข้ารับรองว่าจะทำให้เรื่องนี้จบลงด้วยวิธีที่ท่านจะพึงพอใจ”

พระราชาจึงมอบหมายให้ชายยิงเป้ารับหน้าที่นี้ พร้อมเตือนให้ใช้ความคิดและความชาญฉลาดอย่างระมัดระวัง

ชายยิงเป้ารับคำพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

ภาพประกอบนิทานชาดกเรื่องรัฐมนตรีกับมูลแพะแห้ง 2

รุ่งเช้าวันต่อมา ชายยิงเป้าหยิบกระบอกยิงลูกดอกพิเศษที่บรรจุมูลแพะแห้งไว้เต็ม กระซิบกับตนเองอย่างมั่นใจ “ถึงเวลาที่จะทำให้เจ้ารู้จักความเงียบเสียที”

เมื่อรัฐมนตรีเข้ามาหาพระราชา เริ่มต้นพูดจาเหมือนเช่นเคย “ท่านพระราชา… เรื่องนี้ข้าคิดว่า…”

ทันใดนั้น ชายยิงเป้ายิงลูกดอกมูลแพะแห้งพุ่งเข้าใส่รัฐมนตรี รัฐมนตรีรีบกลืนมันลงไปด้วยความตกใจ

พระราชายิ้มและพูดอย่างขบขัน “เจ้าพูดมากจนกลืนมูลแพะลงคอไปเสียแล้ว!”

รัฐมนตรีอับอายจนไม่กล้าพูดอีกเลยตั้งแต่วันนั้น

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา รัฐมนตรีไม่เคยพูดมากเหมือนเก่าอีกเลย พระราชารู้สึกว่าสภาพแวดล้อมในราชสำนักสงบสุขขึ้นมาก

พระราชาได้มอบรางวัลอันล้ำค่าแก่ชายยิงเป้าผู้มีไหวพริบ “เจ้าควรได้รับรางวัลสำหรับความคิดและความกล้าที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับราชสำนัก”

ชายยิงเป้ายิ้มรับอย่างภาคภูมิใจ

รัฐมนตรีเองก็ได้รับบทเรียนล้ำค่าที่ไม่อาจลืมได้ และตั้งแต่นั้นมา ราชสำนักก็เต็มไปด้วยความสงบและความเป็นระเบียบเรียบร้อย

ภาพประกอบนิทานชาดกเรื่องรัฐมนตรีกับมูลแพะแห้ง 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… คำพูดที่มากเกินไปโดยไม่มีสติ อาจนำมาซึ่งความอับอายและผลร้ายที่ไม่คาดฝัน

รัฐมนตรีผู้พูดมากเกินไปจนไม่ได้ฟังผู้อื่น ได้รับบทเรียนที่เจ็บปวดผ่านแผนการชาญฉลาดของชายยิงเป้า เรื่องราวจึงเตือนใจให้รู้จักการใช้วาจาอย่างเหมาะสม รู้จักฟัง และรู้จักหยุดเมื่อต้องการ เพราะบางครั้งความเงียบคือพลังที่แท้จริงในการสื่อสารและสร้างความสงบสุขในสังคม

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานชาดกเรื่องรัฐมนตรีกับมูลแพะแห้ง (อังกฤษ: The Minister and the Goat’s Dry Dung) จัดอยู่ในหมวดมนุษยชาดก ซึ่งพระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นมนุษย์ เรื่องราวนี้เน้นสอนคุณธรรมเกี่ยวกับการรู้จักใช้วาจาอย่างเหมาะสมและการมีสติในการพูดคุย

พระพุทธองค์ทรงเล่าเรื่องนี้เพื่อเตือนใจให้ผู้ฟังเห็นถึงโทษของการพูดมากเกินไปโดยไม่รู้จักประมาณตน และชี้ให้เห็นว่าความสงบเงียบและการรับฟังผู้อื่น เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความสงบสุขในสังคมและชีวิตส่วนตัว

ชาดกเรื่องนี้จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่ส่งเสริมให้รู้จักการควบคุมตนเองในเรื่องวาจา และตระหนักถึงพลังของความเงียบที่สามารถนำมาซึ่งความสุขและความสงบได้อย่างแท้จริง

คติธรรม: “วาจามากเกินไปไม่ใช่ความกล้าหาญ แต่คือดาบที่อาจฟันลึกลงในใจตนเอง ความรู้จักหยุดและฟัง จึงเป็นพลังที่แท้จริงของปัญญา”


by