ในบางครั้ง การโกหกหรือการพยายามทำลายความสัมพันธ์ของผู้อื่นเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดและเสียใจในที่สุด
มีนิทานชาดกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับจิ้งจอกทอง ที่พยายามทำให้เสือและสิงโตทะเลาะกันเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่แผนการของมันกลับล้มเหลว และมันต้องเผชิญกับผลที่ตามมาอย่างที่ไม่คาดคิด กับนิทานชาดกเรื่องจิ้งจอกทองจอมโกหก

เนื้อเรื่องนิทานชาดกเรื่องจิ้งจอกทองจอมโกหก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในป่าใหญ่ที่เต็มไปด้วยสัตว์ที่แข็งแกร่งและดุร้าย มีสัตว์สองตัวที่ผู้คนในป่าเคารพนับถือมากที่สุด คือเสือและสิงโตทั้งสองเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม้ว่าพวกมันจะเป็นศัตรูของสัตว์อื่นๆ แต่พวกมันกลับทำงานร่วมกันในการล่าสัตว์และดูแลพื้นที่ป่าแห่งนี้
ส่วนจิ้งจอกทองตัวหนึ่ง มักจะหาเศษอาหารจากที่เสือและสิงโตทิ้งไว้ให้ จนมีชีวิตรอดอย่างพอเพียง แต่มันเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับการอยู่ในสถานะนี้ มันคิดว่า “ทำไมข้าต้องเป็นแค่จิ้งจอกทองที่คอยเก็บเศษอาหารจากพวกมัน? ข้าต้องการมากกว่านั้น ข้าต้องการกินเนื้อเสือและสิงโต!”
จิ้งจอกทองจึงเริ่มคิดแผนชั่วร้ายขึ้นในหัว “ถ้าข้าทำให้เสือและสิงโตทะเลาะกัน พวกมันจะฆ่ากันเอง แล้วข้าจะได้เป็นผู้ชนะและได้กินเนื้อของพวกมัน”
จิ้งจอกทองจึงเริ่มลงมือทันที โดยเดินไปหาสิงโตและพูดว่า “เจ้ารู้หรือไม่ เสือมันพูดถึงเจ้าไม่ดีเลย มันบอกว่าท่านไม่เก่งพอที่จะปกครองป่าแล้ว มันบอกว่าเจ้าล้าหลังและไม่สามารถเป็นเจ้าป่าได้อีกต่อไป”
สิงโตที่ฟังคำพูดนี้ก็รู้สึกโกรธและตกใจ ถึงแม้จะรู้ว่าเสือเป็นเพื่อนของมัน แต่การที่มีใครมาพูดถึงตัวมันในทางที่ไม่ดีทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่พอใจ
จากนั้น จิ้งจอกทองก็ไปหาทางเสือและพูดในทำนองเดียวกัน “เจ้ารู้หรือไม่ สิงโตมันพูดถึงเจ้าไม่ดีเลย มันบอกว่าเจ้าผู้ใหญ่เกินไปแล้ว มันพูดว่าเจ้าคงไม่เหมาะสมที่จะเป็นเจ้าป่าอีกต่อไป”
จิ้งจอกทองหัวเราะในใจว่า “แผนนี้ต้องสำเร็จแน่ๆ พวกมันจะต้องทะเลาะกันและข้าจะได้เป็นผู้ที่ชนะ”
เสือและสิงโตทั้งสองรู้สึกแปลกใจจากคำพูดของจิ้งจอกทอง แต่แทนที่จะโกรธและทะเลาะกัน พวกมันตัดสินใจพูดคุยกันอย่างสงบเพื่อตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น
เสือพูดขึ้นว่า “ท่านสิงโต ข้ารู้สึกแปลกใจเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ มันดูเหมือนจะเป็นแผนของจิ้งจอกทองที่จะทำให้เราแตกแยกกัน”
สิงโตพยักหน้าและตอบว่า “ข้าก็คิดเช่นเดียวกัน เจ้าจิ้งจอกมันพยายามใช้เราเป็นเครื่องมือเพื่อให้เราทะเลาะกันและฆ่ากันเอง มันคงอยากเห็นเราทำร้ายกัน”
เสือและสิงโตเริ่มคิดถึงสิ่งที่พวกมันควรจะทำต่อไป พวกมันตระหนักว่าจิ้งจอกทองมักจะใช้วิธีการหลอกลวงและโกหกเพื่อให้ได้สิ่งที่มันต้องการ
สิงโตหันไปพูดกับเสือว่า “เราไม่ควรหลงกลมัน ถ้ามันต้องการให้เราแตกแยก เราก็ต้องแสดงให้มันเห็นว่าเราเป็นเพื่อนกันและจะไม่ให้มันมาทำลายความสัมพันธ์ของเราได้”
ทั้งสองเริ่มหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง “จิ้งจอกทองไม่น่าจะรู้เลยว่าเราเข้าใจแผนของมัน”
พวกมันตัดสินใจไปตามหาจิ้งจอกทองที่กำลังหลบหนีไปไกลจากที่นี่ เพื่อทำให้มันรู้ว่าแผนการของมันไม่ได้ผล

หลังจากที่เสือและสิงโตตัดสินใจร่วมมือกัน จิ้งจอกทองรู้สึกถึงความผิดปกติในแผนของมัน มันแอบฟังบทสนทนาของเสือและสิงโตและรู้สึกว่าแผนการของมันอาจจะล้มเหลว ดังนั้นมันจึงตัดสินใจหนีไปจากที่นั้นเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง
จิ้งจอกทองวิ่งไปจนถึงป่าอันลึกและมืด เพื่อซ่อนตัวจากการไล่ล่าของเสือและสิงโต ขณะที่มันวิ่งหนีอย่างเร่งรีบ มันคิดในใจ “ทำไมแผนของข้าถึงล้มเหลว? ข้าต้องการให้พวกมันทะเลาะกัน แต่พวกมันกลับเป็นเพื่อนกัน!” มันรู้สึกอับอายและตกใจที่แผนของมันไม่สำเร็จ
ในขณะเดียวกัน เสือและสิงโตเดินตามหามันไปทั่วป่า พวกมันหัวเราะและพูดคุยกันด้วยความสบายใจว่า “จิ้งจอกมันคงไม่รู้หรอกว่าเราเข้าใจแผนของมัน และเราจะไม่ยอมให้มันทำลายมิตรภาพของเรา”
ทั้งสองเดินตามไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพบจิ้งจอกทองที่กำลังวิ่งหนีอย่างสิ้นหวัง เสือยิ้มและพูดว่า “เจ้าคิดจะหลอกพวกเราได้หรือ? เรารู้ดีว่าเจ้าพยายามทำให้เราทะเลาะกัน”
จิ้งจอกทองหยุดวิ่งและหันกลับมา เมื่อมันเห็นทั้งสองยืนอยู่ข้างหลังมัน จิ้งจอกทองมองดูทั้งสองด้วยความกลัวและรู้ว่าไม่มีทางหนีแล้ว มันได้แต่ก้มหน้าลงและพูดว่า “ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายพวกท่าน”
เมื่อทั้งสองเห็นจิ้งจอกทองที่ขอโทษและรู้สึกเสียใจ เสือและสิงโตไม่ได้โกรธหรือทำร้ายมัน พวกมันเพียงยิ้มและพูดว่า “เราจะไม่ลงโทษเจ้าหรอก เพราะการทำร้ายเจ้าจะไม่ทำให้เราเป็นคนดีขึ้น แต่เจ้าจงจำไว้ว่าการโกหกไม่เคยนำไปสู่สิ่งดี”
สิงโตกล่าวต่อว่า “การโกหกทำให้เราต้องสูญเสียความเชื่อมั่นกัน และทำลายความสัมพันธ์ที่มีค่า สิ่งที่เจ้าทำไปไม่ใช่แค่การพยายามทำให้เราแตกแยก แต่เจ้าทำลายความเชื่อใจที่เราเคยมีให้กัน”
ทั้งเสือและสิงโตเดินจากไปหลังจากที่ได้แสดงบทเรียนให้จิ้งจอกทองเห็นว่าการโกหก ไม่สามารถทำให้มันได้สิ่งที่ต้องการ และมันจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาของการกระทำ
จิ้งจอกทองยังคงนั่งอยู่ในป่าและคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับมัน มันเริ่มรู้สึกว่าการโกหก และการทำร้ายผู้อื่น ไม่มีทางนำไปสู่ความสุขที่แท้จริง

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… “การโกหกและการพยายามทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนแท้ไม่เพียงแต่ทำให้เราเสียใจ แต่ยังส่งผลเสียต่อตัวเองในที่สุด”
จิ้งจอกทองพยายามใช้การโกหกเพื่อให้เสือและสิงโตทะเลาะกัน แต่ในที่สุดแผนของมันล้มเหลวเพราะทั้งสองมีความเชื่อใจและซื่อสัตย์ต่อกัน การโกหกไม่เพียงแต่ทำให้หมาต้องหนีจากการกระทำผิดของตัวเอง แต่ยังแสดงให้เห็นว่าความจริงใจและการเคารพในมิตรภาพ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานชาดกเรื่องจิ้งจอกทองจอมโกหก (อังกฤษ: The Lying Jackal) จัดอยู่ในหมวดสัตว์ชาดก หรือชาดกที่พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นสัตว์ ซึ่งมักจะสะท้อนถึงการสอนด้านศีลธรรมผ่านการกระทำของสัตว์ต่าง ๆ ในป่า นิทานเรื่องนี้ถูกเล่าเพื่อแสดงให้เห็นถึงผลร้ายของการโกหก และการใช้กลอุบายเพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนหรือผู้ร่วมทาง
พระพุทธองค์ทรงเล่าเรื่องนี้เพื่อสอนให้ผู้ฟังเห็นถึงความสำคัญของความซื่อสัตย์ และการรักษาความสัมพันธ์ที่ดี โดยแสดงให้เห็นว่าการโกหกและการสร้างความแตกแยก ไม่มีวันนำไปสู่ความสุขจริง ๆ และมักจะทำให้ผู้กระทำต้องเผชิญกับผลเสียตามมา
ในเรื่องนี้จิ้งจอกทองที่พยายามใช้กลอุบายเพื่อทำให้เสือและสิงโตทะเลาะกัน สุดท้ายกลับทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียใจ การที่เสือและสิงโตรู้ทันแผนการของมันและไม่ให้มันทำลายมิตรภาพก็เป็นการสอนว่าความจริงใจ และความเข้าใจ ต่อกันเป็นสิ่งที่ยั่งยืนที่สุด
คติธรรม: “การโกหกและการทำลายความสัมพันธ์ไม่เคยนำไปสู่ผลดี และในที่สุดผู้ที่พยายามทำให้คนอื่นแตกแยกจะต้องเผชิญกับผลที่ไม่ดีของการกระทำ”