นิทานอีสปเรื่องชาวนากับนกกระสา

ปกนิทานอีสปเรื่องชาวนากับนกกระสา

ณ ทุ่งนาที่อุดมสมบูรณ์ ชาวนาผู้หนึ่งทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งปี เพื่อปลูกข้าวและดูแลพืชผลของเขา แต่เมื่อฤดูเก็บเกี่ยวมาถึง ฝูงนกที่ไม่มีวันพอใจก็พากันมาจิกกินเมล็ดข้าวจนเสียหาย ชาวนาจึงวางแผนจัดการกับนกเหล่านั้นอย่างเด็ดขาด

แต่ในเหตุการณ์นี้กลับมีนกผู้เคราะห์ร้ายที่ไม่เกี่ยวข้องติดร่างแหไปด้วย เรื่องราวนี้คือบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่และคบหาผู้อื่น… กับนิทานอีสปเรื่องชาวนากับนกกระสา

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องชาวนากับนกกระสา

เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องชาวนากับนกกระสา

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ทุ่งนากว้างใหญ่ที่มีข้าวเขียวชอุ่มกำลังเติบโต ชาวนาผู้หนึ่งทำงานอย่างขยันขันแข็งมาตลอดทั้งปี เขาดูแลไร่ข้าวของเขาอย่างดีที่สุด หวังว่าจะได้ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว แต่ความหวังของเขากลับต้องสะดุด เมื่อฝูงนกจำนวนมากบินลงมาจิกกินเมล็ดข้าวในทุ่งนาเสียหายเกือบหมด

“ข้าทำงานอย่างหนัก แต่พวกนกเหล่านี้กลับทำลายทุกอย่าง!” ชาวนากล่าวด้วยความโกรธ เขาตัดสินใจที่จะจัดการกับปัญหานี้อย่างจริงจัง เขานำตาข่ายขนาดใหญ่มากางไว้ในทุ่งนา เพื่อดักจับนกที่มาจิกกินพืชผลของเขา

เช้าวันรุ่งขึ้น ชาวนาเดินมาดูตาข่ายของเขาด้วยความหวังว่าจะจับนกได้บ้าง และเขาก็พบว่านกหลายตัวติดอยู่ในตาข่าย รวมถึงนกกระสาตัวหนึ่งที่ดูสง่างาม แต่น่าสงสาร เพราะมันพยายามดิ้นรนเพื่อหลุดจากตาข่าย นกกระสาไม่ได้มากินข้าว แต่มันบังเอิญเดินผ่านมาท่ามกลางฝูงนกที่ทำผิด

เมื่อชาวนาเดินเข้ามาใกล้ นกกระสาร้องขึ้นด้วยความตื่นตระหนก “ได้โปรดเถอะท่านชาวนา ได้โปรดฟังข้าก่อน! ข้าไม่ได้มาจิกกินข้าวของท่าน ข้าเป็นเพียงนักเดินทางที่ผ่านมาทางนี้โดยบังเอิญ และโชคร้ายที่ติดตาข่ายไปกับพวกนกเหล่านี้ ได้โปรดปล่อยข้าไป ข้าไม่มีเจตนาร้ายเลย”

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องชาวนากับนกกระสา 2

ชาวนายืนมองนกกระสาด้วยสายตาเย็นชา เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เจ้าพูดว่าเจ้าไม่ได้มากินข้าวของข้า แต่เจ้ากลับเลือกที่จะอยู่ในกลุ่มเดียวกับพวกนกที่ทำผิด เจ้าอาจไม่ได้ทำผิดเอง แต่การที่เจ้าอยู่ร่วมกับพวกมัน เจ้าก็สมควรได้รับโทษไม่ต่างจากพวกมัน”

“แต่ข้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกมันเลย!” นกกระสาร้องเสียงดัง พยายามอธิบาย “ท่านชาวนา ข้าเป็นเพียงผู้เคราะห์ร้ายที่ติดตาข่ายพร้อมกับพวกมัน ข้าขอร้องให้ท่านปล่อยข้าไปเถิด!”

ชาวนาไม่ยอมใจอ่อน เขาส่ายหน้าและกล่าวว่า “ข้าต้องทำในสิ่งที่สมควร แม้เจ้าอาจจะบริสุทธิ์ แต่เมื่อเจ้าเลือกที่จะอยู่ใกล้พวกนกที่ทำผิด เจ้าก็ต้องยอมรับผลของการกระทำนั้น ข้าไม่สามารถปล่อยเจ้าไปได้ ข้าวของข้ากำลังจะสูญเสียหมดเพราะพวกมัน ข้าจึงไม่มีทางเลือก”

นกกระสาถูกจับพร้อมกับนกตัวอื่น ๆ มันรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ต้องเผชิญชะตากรรมเช่นนี้ ทั้งที่มันไม่ได้ตั้งใจจะทำผิด แต่การที่มันอยู่ในกลุ่มผิดที่ผิดเวลา ก็ทำให้มันต้องรับโทษเช่นเดียวกับพวกที่ทำผิด

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องชาวนากับนกกระสา 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การเลือกคบคนหรืออยู่ร่วมกับกลุ่มที่ทำผิด อาจทำให้เราต้องรับผลกระทบหรือถูกลงโทษไปด้วย แม้ว่าเราจะไม่ได้ทำผิดเองก็ตาม และ การอยู่ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมในเวลาที่ผิด อาจนำมาซึ่งชะตากรรมที่เลวร้ายได้ นิทานนี้เตือนให้เรารอบคอบในการเลือกสภาพแวดล้อมและผู้คนที่เรามีปฏิสัมพันธ์ด้วย

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานอีสปเรื่องชาวนากับนกกระสา (อังกฤษ: The Farmer and the Stork) เป็นนิทานอีสปเรื่องหนึ่งซึ่งปรากฏเป็นภาษากรีกในคอลเล็กชันของทั้งบาบรีอุสและอัฟโธนีอุส ถูกจัดลำดับอยู่ใน Perry Index ลำดับที่ 194 (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) และมีการเล่าเรื่องที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยตลอดหลายศตวรรษ

นิทานเรื่องนี้เล่าถึงชาวนาที่สร้างกับดักในทุ่งนาของตนเพื่อดักนกกระเรียนและห่านที่กำลังขโมยเมล็ดพืชที่เขาหว่านลงไป เมื่อเขาตรวจกับดัก เขาก็พบนกกระสาตัวหนึ่งอยู่ท่ามกลางนกตัวอื่น ๆ ซึ่งขอร้องให้ช่วย เนื่องจากนกกระสาไม่มีอันตรายและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขโมย ชาวนาตอบว่าเนื่องจากนกกระสาถูกจับได้พร้อมกับพวกโจร มันจึงต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน คติสอนใจของเรื่องนี้ซึ่งประกาศไว้ล่วงหน้าในตำราเก่าแก่ที่สุดก็คือ การคบหาสมาคมกับเพื่อนที่ไม่ดีจะนำไปสู่ผลที่เลวร้าย

อย่าคบหาสมาคมกับคนชั่ว เพราะหากคุณคบหากับคนพาล คุณก็จะได้รับโทษเช่นเดียวกับพวกเขา

นิทานอีสปเรื่องอื่น ๆ

ติดตามนิทานทุกรูปแบบได้ที่ talezzz.com