นิทานอีสปเรื่องชาวนากับทะเล

ปกนิทานอีสปเรื่องชาวนากับทะเล

ณ หมู่บ้านริมทะเลที่เงียบสงบ มีชาวนาผู้ขยันขันแข็งทำงานในไร่นาของเขาอย่างเหน็ดเหนื่อยทุกวัน แต่ลึก ๆ ในใจ เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเบื่อหน่ายกับความยากลำบากและความไม่แน่นอนของอาชีพเกษตรกร วันหนึ่ง ขณะที่เขาเดินไปที่ชายฝั่งทะเลและมองเห็นผืนน้ำกว้างใหญ่ ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นในใจ เขาคิดว่าอาจมีชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตที่ไม่ต้องเหนื่อยกับการทำไร่และเผชิญกับดินที่ไม่เคยปรานีเขาเลย

แต่เมื่อความงดงามของทะเลถูกแทนที่ด้วยพายุที่โหมกระหน่ำ เรื่องราวที่เขาได้เรียนรู้ในวันนั้นกลับกลายเป็นบทเรียนสำคัญที่เปลี่ยนมุมมองของเขาไปตลอดกาล… กับนิทานอีสปเรื่องชาวนากับทะเล

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องชาวนากับทะเล

เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องชาวนากับทะเล

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมู่บ้านริมทะเลที่เงียบสงบ มีชาวนาผู้หนึ่งใช้ชีวิตอย่างเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานในไร่ของเขา ฤดูร้อนมักร้อนเกินไป ฤดูฝนก็ชุ่มจนดินกลายเป็นโคลนที่ยากจะเพาะปลูก เขาต้องต่อสู้กับธรรมชาติที่ไม่แน่นอนในทุกวัน แม้เขาจะได้รับผลผลิตพอเลี้ยงชีพ แต่เขามักมองว่านี่ไม่ใช่ชีวิตที่ดีอย่างที่หวังไว้

วันหนึ่ง ชาวนารู้สึกเบื่อหน่ายกับการทำงาน จึงตัดสินใจเดินไปที่ชายฝั่งเพื่อพักผ่อน เขายืนมองทะเลอันกว้างใหญ่ เกลียวคลื่นระยิบระยับในแสงแดดดูชวนให้หลงใหล “ดูสิ ทะเลนี่ช่างกว้างใหญ่และงดงามจริง ๆ” เขาพึมพำกับตัวเอง “ข้าเคยได้ยินว่าพ่อค้าทางทะเลร่ำรวยจากการเดินทาง พวกเขาคงไม่ต้องลำบากเหมือนข้าในไร่ดินเหนียวเช่นนี้”

ขณะที่เขายืนคิด ชาวนาเห็นเรือลำหนึ่งแล่นผ่านออกไป แต่ไม่ทันไร พายุโหมกระหน่ำขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ลมพัดแรงจนเรือเริ่มโคลงเคลง ลูกเรือพยายามควบคุมเรือแต่ไม่สำเร็จ เกลียวคลื่นสูงท่วมทับเรือจนหัวเรือหายลงไปในน้ำ ชาวนายืนมองภาพนั้นด้วยความตกใจ เสียงลูกเรือตะโกนร้องขอความช่วยเหลือดังก้องกลางสายลม แต่ชาวนาไม่อาจช่วยอะไรได้

ด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ชาวนาโพล่งขึ้นมาเสียงดัง “โอ้ ทะเล! เจ้าน่ากลัวเหลือเกิน ข้าคิดผิดที่ชื่นชมเจ้า! เจ้าเป็นธาตุธรรมชาติที่ไร้ความปรานีและเป็นศัตรูของมนุษย์! ข้าคงไม่มีวันใช้ชีวิตบนตัวเจ้าได้”

ทันใดนั้น เสียงอันสงบและลึกลับดังขึ้นมาจากทะเล “เจ้าช่างรีบด่วนกล่าวโทษข้าเสียเหลือเกินนะ มนุษย์” ทะเลตอบกลับ “ข้ามิใช่ผู้ที่ทำให้เรือลำนั้นล่ม ลมต่างหากที่พัดผ่านข้า และทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ เจ้าจะโทษข้าทำไม?”

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องชาวนากับทะเล 2

ชาวนาตกใจที่ได้ยินทะเลพูดได้ เขาอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะถามกลับ “แต่ข้าเห็นว่าเรือที่ล่มนั้นจมหายไปในตัวเจ้า หากไม่ใช่เพราะเจ้า พวกเขาคงไม่สูญเสียทุกอย่างเช่นนี้”

ทะเลหัวเราะเบา ๆ “เจ้ามองเพียงเปลือกนอก หากเจ้ามองข้าในยามสงบ เมื่อไม่มีลมพัดหรือพายุโหมกระหน่ำ เจ้าจะเห็นว่าข้าอ่อนโยนและนิ่งสงบเพียงใด ข้ารองรับเรือทุกลำที่แล่นผ่าน และช่วยให้ผู้คนเดินทางไกลได้สำเร็จมากมายนับไม่ถ้วน”

ชาวนานิ่งคิดตามคำพูดนั้น และตอบด้วยเสียงที่อ่อนลง “อืม บางทีข้าอาจตัดสินเจ้าเร็วเกินไป แต่เจ้ายังคงอันตราย ข้ารู้ว่าข้าคงไม่มีวันอยู่บนตัวเจ้าได้ ข้าชอบชีวิตบนดินมากกว่า แม้มันจะเหนื่อยยาก แต่อย่างน้อยข้าก็รู้ว่าดินจะไม่โหมกระหน่ำทำลายสิ่งที่ข้ามี”

ทะเลยิ้มและตอบ “ดินของเจ้าก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกับข้า เจ้าไม่อาจปลูกพืชได้ทุกฤดู เจ้าต้องพึ่งพาธรรมชาติ แต่เจ้าก็ยังอยู่ได้เพราะความพยายามของเจ้าเอง ข้าก็เป็นเช่นนั้น หากมนุษย์รู้จักเลือกเวลาเดินเรือและเข้าใจธรรมชาติของข้า พวกเขาก็จะได้รับสิ่งที่พวกเขาหวังไว้เช่นกัน”

ชาวนายิ้มและพยักหน้า “เจ้าพูดถูก ทะเล ทุกสิ่งในธรรมชาติล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน และมองหาหนทางที่เหมาะสมที่สุด”

จากนั้นชาวนาก็เดินกลับบ้าน เขาตระหนักว่า แม้ชีวิตในไร่นาจะเหน็ดเหนื่อยและต้องเผชิญกับปัญหา แต่ทุกสิ่งก็มีข้อดีของมัน และเขาควรยินดีกับสิ่งที่เขามีอยู่

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องชาวนากับทะเล 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าด่วนตัดสินสิ่งใดโดยมองเพียงข้อเสียในช่วงเวลาหนึ่ง ทุกสิ่งในธรรมชาติล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวเอง และจงพอใจในสิ่งที่เรามี พร้อมทั้งเรียนรู้ที่จะเข้าใจธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ และปรับตัวให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังเตือนให้เราเห็นว่า ชีวิตทุกแบบล้วนมีความท้าทาย และความสำเร็จมักมาจากการปรับตัวและทำความเข้าใจกับข้อจำกัดที่เรามี

ที่มาของนิทานเรืองนี้

นิทานอีสปเรื่องชาวนากับทะเล (อังกฤษ: The Farmer and the Sea) เป็นนิทานอีสปโบราณ ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 168 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ)

เรื่องราวชาวนาเห็นเรือและลูกเรือกำลังจะจมลงสู่ทะเลขณะที่หัวเรือหายไปใต้เกลียวคลื่น ชาวนากล่าวว่า “โอ้ ทะเล มันคงจะดีกว่าถ้าไม่มีใครเคยแล่นเรือบนเจ้า! เจ้าเป็นธาตุธรรมชาติที่ไร้ความปรานีและเป็นศัตรูกับมนุษย์” เมื่อทะเลได้ยินเช่นนั้น ทะเลจึงกลายเป็นรูปหญิงสาวและตอบกลับว่า “อย่าได้แพร่ข่าวร้ายเช่นนั้นเกี่ยวกับข้าเลย! ข้ามิใช่สาเหตุของเหตุการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นกับเจ้า ลมต่างหากที่พัดผ่านข้าเป็นสาเหตุ หากเจ้ามองดูข้าเมื่อไร้ลมพัด และแล่นเรือบนข้าในเวลานั้น เจ้าจะยอมรับว่าข้านั้นอ่อนโยนยิ่งกว่าผืนแผ่นดินแห้งแล้งของเจ้าเสียอีก”

นิทานเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงผู้คนที่วิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นอย่างไม่เหมาะสม ทั้งที่แท้จริงแล้วคนผู้นั้นกำลังช่วยเหลือพวกเขาอยู่

นิทานอีสปเรื่องอื่น ๆ

ติดตามนิทานทุกรูปแบบได้ที่ talezzz.com