ปกนิทานกริมม์เรื่องปีศาจกับเส้นผมสีทองสามเส้น

นิทานกริมม์เรื่องปีศาจกับเส้นผมสีทองสามเส้น

ในโลกที่ผู้คนต่างไขว่คว้าความมั่นคง อำนาจ และโชคชะตาที่ดีกว่า ชีวิตของผู้ไร้อำนาจมักต้องลอยอยู่ท่ามกลางกระแสความอยุติธรรม ความหวัง และการดิ้นรน บ่อยครั้งที่สิ่งเล็ก ๆ อย่างการเกิดมาพร้อม “ลางมงคล” ก็อาจเปลี่ยนเส้นทางชีวิตให้ถูกจับจ้องจากผู้มีอำนาจที่หวาดกลัวชะตาของผู้อื่น

มีนิทานกริมม์เรื่องหนึ่งเล่าถึงเด็กหนุ่มผู้ถูกรวบรวมเข้าสู่เกมชะตากรรมโดยไม่รู้ตัว ต้องเผชิญทั้งความโลภ ความอิจฉา และภารกิจที่ดูเป็นไปไม่ได้ เพื่อพิสูจน์ว่าความดีและความกล้าหาญมีพลังมากกว่าที่โลกเชื่อ กับนิทานกริมม์เรื่องปีศาจกับเส้นผมสีทองสามเส้น

ภาพประกอบนิทานกริมม์เรื่องปีศาจกับเส้นผมสีทองสามเส้น

เนื้อเรื่องนิทานกริมม์เรื่องปีศาจกับเส้นผมสีทองสามเส้น

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหญิงยากจนคนหนึ่งให้กำเนิดเด็กชายในคืนที่ลมแรงและเมฆหม่น แต่แปลกประหลาดนัก… เด็กชายออกมาพร้อมเยื่อหุ้มทารกคลุมทั่วศีรษะ สิ่งที่ผู้คนในหมู่บ้านเชื่อว่าเป็น “เครื่องหมายแห่งโชคชะตายิ่งใหญ่” หมอตำแยพึมพำเสียงสั่นว่า “เด็กคนนี้… อีกสิบสี่ปีจะได้เป็นเขยกษัตริย์”

ข่าวลือแพร่ไปเร็วราวไฟลามทุ่ง ผ่านปากชาวบ้านจนถึงหูของกษัตริย์ผู้ใจดำและหวาดกลัวคำทำนายยิ่งกว่าสงคราม พระองค์โกรธจัดจะมีเด็กยากจนตัวเล็ก ๆ มาแตะต้องลูกสาวผู้สูงศักดิ์ได้อย่างไร!

กษัตริย์ปลอมตัวเป็นพ่อค้าใจดี เดินทางมาที่บ้านเล็ก ๆ ของหญิงยากจน พูดหว่านล้อมด้วยน้ำเสียงหวานแต่แฝงพิษ “ขอข้าพาเด็กไปเลี้ยงดูในวังเถิด เขาจะมีชีวิตดีขึ้นแน่นอน”

หญิงผู้เป็นแม่ เห็นเพียงโอกาสให้ลูกพ้นความยากจน จึงยอมมอบลูกให้โดยไม่รู้เลยว่ากำลังมอบเขาให้ความตาย กษัตริย์แอบยิ้มอย่างบิดเบี้ยว แล้วจับเด็กชายใส่หีบไม้ใบใหญ่ ก่อนผลักมันลงแม่น้ำกลางคืนอันมืดมิด ตั้งใจให้เด็กจมลงสู่ก้นน้ำ ไม่ต้องมายืนคู่เจ้าหญิงของเขาในอนาคต

แต่โชคชะตานั้นแปลกประหลาดกว่ามนุษย์คิดเสมอ… หีบไม้ไม่จม แต่ลอยไปตามสายน้ำอย่างดื้อดึง จนไปติดเขื่อนใกล้โรงสีเก่า

รุ่งเช้า ชายคนงานโรงสีกับภรรยาได้ยินเสียง “ตุบ… ตุบ…” คล้ายของหนักกระทบไม้ เมื่อเปิดหีบออกก็พบทารกน้อยตาใส นอนอยู่ภายใน ทั้งคู่ตกใจ แต่ยิ่งตกใจเมื่อเห็นผ้าเด็กที่บ่งบอกว่าเขามาจากครอบครัวสูงศักดิ์

“เราจะเลี้ยงเขาเอง” ภรรยาพูดโดยไม่ลังเล
“ใช่… บางทีฟ้าคงส่งเขามาให้เรา” ชายคนงานตอบ

และเด็กคนนับจากวันนั้นก็เติบโตขึ้นท่ามกลางเสียงโม่หิน กลิ่นแป้งสาลี และความรักที่แท้จริงของคนจนสองคน ที่ดีกว่าราชวังทั้งวังเสียอีก

สิบสี่ปีผ่านไป เด็กชายเติบโตเป็นหนุ่มฉลาด สุภาพ กล้าหาญ และหล่อเหลาแบบบ้าน ๆ จนใครในหมู่บ้านก็เอ็นดู วันหนึ่ง ขณะที่กษัตริย์เสด็จผ่านโรงสีโดยบังเอิญ พระองค์เห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนหาบกระสอบราวกับคนปกติทั่วไป แต่ใบหน้ากลับคุ้นแปลก ๆ…

เมื่อได้ถาม ชายโรงสีก็เล่าเรื่องหีบที่เกยตื้นเมื่อสิบสี่ปีก่อน กษัตริย์ถึงกับ เลือดไหลวูบตามใบหน้า

เด็กคนนี้ยังไม่ตาย! คำทำนายยังตามหลอกหลอนเขาอยู่!

พระองค์ยิ้มปลอม ๆ ก่อนยื่นจดหมายผนึกตราราชวงศ์ให้เด็กหนุ่ม “นำจดหมายนี้ไปให้ราชินีด้วยตนเอง เธอจะให้รางวัลเจ้าอย่างงาม”

แต่ภายในจดหมาย เขียนว่า “ฆ่าเด็กคนนี้ทันทีที่มาถึง และฝังไว้เสีย อย่าให้เหลือแม้เถ้าถ่าน”

เด็กหนุ่มจึงออกเดินทางด้วยหัวใจบริสุทธิ์ ไม่รู้เลยว่ากำลังถือเอกสารประหารชีวิตของตัวเองอยู่

ระหว่างทาง เขาไปหลบฝนในบ้านหลังเล็ก ๆ ของหญิงชราใจดี นางเตือน “คืนนี้โจรจะมาปล้นที่นี่ ออกไปซะเถอะ!”

แต่เด็กหนุ่มล้าเต็มที่จึงตอบ “ผมนอนตรงนี้แหละครับ… เดี๋ยวก็เดินต่อไหวเอง”

คืนตกเงียบ… แล้วเสียงโจรกลุ่มใหญ่ก็บุกเข้ามาจริง พวกเขาพบเด็กหนุ่มนอนหลับสนิท พร้อมจดหมายในมือ เมื่อเปิดอ่าน พวกเขาโกรธจนแทบฉีกมันทันที “ใครมันจะใจดำขนาดนี้!”

ด้วยความสงสาร พวกโจรเปลี่ยนจดหมายใหม่ เขียนแทนว่า “ให้ราชินีจัดงานแต่งทันที ให้เด็กหนุ่มคนนี้อภิเษกกับเจ้าหญิง”

เช้าวันต่อมา เด็กหนุ่มตื่นขึ้นแบบงง ๆ พวกโจรก็เพียงยิ้มแล้วชี้ทางไปวัง “เดินตรงไปก็ถึงแล้ว โชคดีนะไอ้หนู”

และเมื่อเขามาถึงวัง ราชินีก็รีบเตรียมงานแต่งทันที งานใหญ่ยิ่งกว่าฤดูเก็บเกี่ยวทั้งหมู่บ้านรวมกัน!

จนกระทั่งกษัตริย์กลับมาถึง เห็นงานแต่งกำลังจะเริ่ม เขานิ่งค้างตัวแข็งราวหิน น้ำเสียงปะทุด้วยความเดือด “นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!!”

แต่สายเกินไปแล้ว เด็กหนุ่มผู้ถูกสั่งฆ่า… กลายเป็นลูกเขยของเขาไปเรียบร้อย

กษัตริย์ผู้โกรธจนแทบระเบิดพยายามเก็บอารมณ์บนใบหน้า แต่ภายในอกเต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งความเกลียดและความกลัว เขาไม่อาจยอมให้ชายบ้านนอกผู้ไม่มีเลือดกษัตริย์ครอบครองหัวใจของลูกสาวได้

ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาจึงประกาศต่อหน้าทุกคนราวกับเป็นงานเฉลิมฉลอง “ลูกเขยที่ข้ารัก… ช่างโชคดีเสียจริงที่ได้แต่งงานกับเจ้าหญิง แต่หากอยากเป็นเจ้าชายในอนาคต เจ้าต้องทำภารกิจหนึ่งให้สำเร็จ”

เด็กหนุ่มยืนอย่างนอบน้อม แม้จะงงอยู่บ้าง “ภารกิจอะไรพะย่ะค่ะ?”

“ง่ายมากเพียงเข้าไปในนรก และนำ ‘เส้นผมทองคำสามเส้นของปีศาจ’ มาให้ข้าเท่านั้นเอง” กษัตริย์จอมเจ้าเล่ห์ตอบ

ราชสำนักเงียบลงทันทีเหมือนอากาศถูกสูบออก ทุกคนรู้ดีว่าใครที่กษัตริย์ไล่ให้ไปนรก…ไม่เคยมีวันกลับมา

แต่เด็กหนุ่มหันมามองเจ้าหญิงที่เขาเพิ่งได้ใช้ชีวิตร่วม และยิ้มบาง ๆ “เพื่อพระชายา… ข้าจะไป”

ภาพประกอบนิทานกริมม์เรื่องปีศาจกับเส้นผมสีทองสามเส้น 2

เด็กหนุ่มออกเดินทางไกล ผ่านป่ามืดและหมอกหนาทึบ จนมาถึงเมืองแรก ที่เคยรุ่งเรืองเพราะบ่อน้ำวิเศษที่ให้น้ำไวน์

บัดนี้แห้งผากจนคนทั้งเมืองเกือบจะอพยพไปหมด ชาวเมืองล้อมเขาไว้แล้วถามด้วยความสิ้นหวัง “เจ้าหนุ่ม เจ้ามีอาชีพอะไร ช่วยพวกเราได้ไหม?”

“ข้ารู้ทุกอย่าง” เขาตอบมั่ว ๆ เพื่อให้ดูเป็นนักเดินทางผู้มีปัญญา

“งั้นเจ้าช่วยบอกหน่อย ทำไมบ่อน้ำของเราถึงแห้ง?”

เด็กหนุ่มยิ้มเจื่อน ๆ “ข้าจะตอบ… เมื่อข้ากลับมาจากนรก”

เขาเดินต่อสู่เมืองที่สอง เมืองทองคำที่เคยมีต้นแอปเปิลทองคำ ผลิตผลมากมาย แต่ต้นนั้นกลับเหี่ยว รากแห้งจนต้นใกล้ตาย ชาวเมืองถามคำถามเดิม “เจ้าเป็นใคร ช่วยพวกเราได้ไหม?”

“ข้าจะช่วยทุกอย่าง” ชายหนุ่มตอบ

“แล้วทำไมต้นแอปเปิลของเราจึงไม่ออกผลแม้แต่ใบเดียว?” ชาวเมืองแอปเปิลทองคำถาม

“ข้าจะช่วย…เมื่อข้ากลับมาจากนรก” ชายหนุ่มตอบด้วยความมั่นใจ

ท้ายที่สุด เขามาถึงแม่น้ำใหญ่ ที่มีเพียงชาวเรือคนหนึ่งพายไปกลับอย่างไม่มีวันหยุด

คนเรือถามเสียงหอบ “ไอ้หนุ่ม เจ้ารู้ทุกอย่างจริงหรือไม่ ช่วยข้าหน่อยได้ไหม?”

“ข้าจะช่วยท่าน” ชายหนุ่มตอบ

“งั้นบอกข้าที ทำไมข้าต้องติดอยู่ที่นี่ พายไปพายมาไม่จบไม่สิ้น?”

“ท่านจะรู้เมื่อข้ากลับมาจากนรกเช่นกัน” ชายหนุ่มตอบ

ชาวเรือถอนหายใจหนักราวจะร้องไห้ แต่ก็พาเขาข้ามฟากไปสู่พื้นที่ที่ชาวบ้านเรียกว่า ‘ปากนรก’

บรรยากาศเย็นยะเยือกทั้งที่เป็นนรก กลิ่นกำมะถันตีขึ้นจมูกทุกวินาที เมื่อเดินลึกเข้าไป เด็กหนุ่มพบกระท่อมเก่า ๆ ที่มีหญิงชราแปลกประหลาดนั่งอยู่ ผิวซีด รอยย่นลึก แต่แววตาอบอุ่นเกินคาด

“เจ้าหลงมาที่นี่ได้อย่างไร ไอ้หนุ่ม?” เด็กหนุ่มเล่าทุกอย่างตั้งแต่คำทำนายจนถึงภารกิจพิสดาร

หญิงชราหัวเราะเบา ๆ “เด็กเอ๋ย… เจ้าจะขโมยผมทองคำของปีศาจเหรอ? ไอ้นั่นมันหลับยากยิ่งกว่าเตาหลอมเสียอีกนะ!”

แต่เพราะสงสาร เธอจึงช่วย “มา ข้าจะซ่อนเจ้า” เธอร่ายมนต์เล็ก ๆ เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นมดตัวจิ๋ว แล้วซ่อนไว้ในรอยจีบเสื้อของนาง

ไม่นาน ปีศาจร่างยักษ์ก็กลับถึงบ้าน ตะโกนเสียงก้อง “มีมนุษย์หรือ?! ข้ารู้เลยว่ามีกลิ่น!”

“โอ๊ย ๆ เจ้าเหนื่อยละสิ นั่งลงกินอะไรก่อน” หญิงชรากล่อมจนปีศาจยอมจมตัวลงบนตักนางเหมือนเด็กน้อยที่ง่วงไม่หาย

พอหลับสนิทหญิงชราก็ดึงผมทองเส้นแรก!

ปีศาจผงะขึ้น “โอ๊ย! ข้าฝันว่าอะไรบางอย่างหลุดจากหัว!”

“ฝันไปละลูก” หญิงชราตบไหล่ปีศาจเบา ๆ ให้มันหลับต่อ

เส้นที่สองถูกดึง ปีศาจสะดุ้งอีกครั้งเล่าอีกความฝัน และเส้นที่สามก็หลุดเช่นกัน หลังแต่ละเส้น มันเล่า “ความฝัน” ของมัน ซึ่งแท้จริงคือคำเฉลยคำถามทั้งสามเมืองที่ชาวบ้านถาม

เมื่อปีศาจหลับต่อแบบเมา ๆ หญิงชราก็รีบพาเด็กหนุ่มออกมานอกบ้าน “เอ้านี่ผมทองสามเส้น รีบไปก่อนมันตื่น!”

เด็กหนุ่มก้มกราบขอบคุณ และวิ่งกลับขึ้นสู่โลกมนุษย์

เด็กหนุ่มเดินทางย้อนกลับเส้นทางเดิม กลับสู่แม่น้ำก่อน

ชาวเรือถามทันที “บอกข้าทีสิ! ทำไมข้าต้องติดอยู่พายไปพายมาแบบนี้?!”

เด็กหนุ่มตอบ “ง่ายมาก เมื่อมีคนขึ้นเรืออีกครั้ง ท่านเพียงส่งไม้พายให้เขา แล้วก้าวขึ้นฝั่ง ท่านก็จะเป็นอิสระ”

ชาวเรือถึงกับน้ำตาซึม “ขอบใจมาก ไอ้หนุ่ม!”

ต่อมาเมืองต้นแอปเปิลทองคำ เด็กหนุ่มบอกชาวเมืองว่า “หนูตัวหนึ่งกำลังกัดกินรากต้นไม้อยู่ แค่จับมันออก ต้นแอปเปิลก็จะกลับมางอกงามอีกครั้ง”

เพื่อเป็นการตอบแทน ชาวเมืองให้เขา ลา 2 ตัวบรรทุกทองคำจนหลังแทบงอ

ต่อมาเมืองบ่อน้ำไวน์วิเศษ “บ่อน้ำของท่านถูกคางคกยักษ์ตัวหนึ่งนั่งทับปากบ่อ” เมื่อชาวเมืองจัดการคางคก น้ำใสก็ผุดขึ้นดังเดิม

และเด็กหนุ่มได้รับลาอีกสองตัว เต็มไปด้วยทองคำอีกชุด

เมื่อเขากลับถึงวัง พร้อมลาที่บรรทุกทองเป็นภูเขา กษัตริย์แทบกลืนลิ้น “เจ้าหา…ทองพวกนี้มาจากไหน?”

เด็กหนุ่มยิ้มอย่างใจดี “จากอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำพะย่ะค่ะ ใครก็ตามที่รู้วิธีไป ก็หาได้ไม่จำกัดเลย”

กษัตริย์โลภจนหน้ามืด รีบพุ่งไปที่แม่น้ำทันที

ชาวเรือเห็นเขาแล้วก็ยิ้มแบบรู้ทัน “ต้องการข้ามแม่น้ำหรือพะย่ะค่ะ? เชิญขึ้นเรือ”

เมื่อถึงอีกฝั่ง ชาวเรือก็ยื่นไม้พาย ให้กษัตริย์ “ช่วยถือให้ข้าหน่อย”

กษัตริย์รับโดยไม่คิด เพียงแค่นั้น… คำสาปก็ทำงานทันที

ชาวเรือเดินขึ้นฝั่งอย่างสง่างาม ส่วนกษัตริย์ผู้ชั่วร้าย… ถูกผูกชะตาให้พายเรือไปกลับ แม่น้ำเดิม ชั่วนิรันดร์

เด็กหนุ่มและเจ้าหญิงใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ได้สร้างบ้านเมืองให้รุ่งเรือง และไม่มีเรื่องร้ายใดจากกษัตริย์ใจดำอีกเลย

ภาพประกอบนิทานกริมม์เรื่องปีศาจกับเส้นผมสีทองสามเส้น 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… “คนที่มีใจซื่อสัตย์ แม้ไร้อำนาจ ก็ย่อมพบทางรอดเสมอ ส่วนผู้ที่คิดร้ายเพราะความโลภและความกลัว จะถูกชะตากรรมลงโทษในที่สุด”

นิทานเล่าผ่านการเดินทางอันยากลำบากของเด็กหนุ่มที่ไม่เคยคิดร้ายต่อใคร แม้โลกจะโยนความอยุติธรรมใส่เขามากเพียงใด เขายังพาเพียงน้ำใจและความจริงใจติดตัวไปทุกที่ จนได้รับความช่วยเหลือจากทั้งโจร ยายแก่ และแม้แต่ “คำตอบจากปีศาจ” ขณะเดียวกัน ผู้เป็นกษัตริย์ผู้กระทำผิดด้วยความอิจฉาและหวาดกลัวชะตา กลับจบชีวิตด้วยการติดอยู่ในวงจรที่หลุดพ้นไม่ได้ สะท้อนว่า “กรรมตามสนอง” นั้นหนีไม่พ้นจริง ๆ

อ่านต่อ: คอลเลกชันนิทานกริมม์อ่านสนุกเพลิดเพลินได้ข้อคิดดี ๆ อ่านได้ทุกวัยที่นี่ taleZZZ.com

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานกริมม์เรื่องปีศาจกับเส้นผมสีทองสามเส้น (อังกฤษ: The Devil with the Three Golden Hairs) นิทานเรื่องนี้เป็นหนึ่งในคอลเลกชันจาก Kinder und Hausmärchen ของพี่น้องกริมม์ ซึ่งปรากฏในลำดับที่ 029 KHM ฉบับดั้งเดิม โดยเก็บรวบรวมจากนิทานพื้นบ้านเยอรมันที่เล่าต่อกันมาหลายชั่วอายุคน เนื้อเรื่องสะท้อนวิถีความเชื่อ ความหวังดีของผู้คนธรรมดา และการต่อสู้กับชะตากรรมที่ใหญ่กว่าตัวเอง

ต้นแบบของนิทานนี้เกี่ยวพันกับตำนานฮีโร่ผู้ถูกทำนายชะตาแต่กำเนิด ซึ่งพบได้ในหลายวัฒนธรรม เช่น เด็กที่เกิดมาพร้อมลางมงคลหรือพลังบางอย่าง เรื่องเล่าหลายส่วนยังสะท้อนความเชื่อโบราณเกี่ยวกับ “นรก ปีศาจ และขุมทรัพย์” ที่มักเป็นด่านทดสอบความกล้าหาญของผู้เดินทาง

ในโลกที่ความยุติธรรมไม่ได้เป็นสิ่งที่พบได้ง่าย นิทานเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อปลอบประโลมผู้คนธรรมดา สอนว่าแม้ผู้มีอำนาจอาจกดขี่หรือใช้เล่ห์กล แต่บาปแห่งความอิจฉา ความโลภ และความหวาดกลัวจะย้อนกลับไปหาผู้ก่อเสมอ ขณะที่ผู้บริสุทธิ์และมุ่งมั่นจะได้รับการปกป้องจากโชคชะตาและความดีที่เขายึดถือ

คติธรรม: “ผู้มีใจบริสุทธิ์ย่อมก้าวผ่านอุปสรรคได้ แม้คนชั่วใช้เล่ห์กลปิดกั้นหนทาง แต่บาปและความโลภจะย้อนกลับสู่ผู้ก่อเสมอ”