ในบ้านหลังหนึ่งที่เต็มไปด้วยซอกมุมและที่ซ่อน หนูมากมายอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่แล้ววันหนึ่งเจ้าของบ้านนำแมวตัวหนึ่งเข้ามาเพื่อกำจัดหนู ทำให้พวกมันตกอยู่ในความหวาดกลัว
แมวผู้เงียบเชียบคอยจ้องจะจับหนูทุกตัว หนูเหล่านั้นจึงคิดหาทางป้องกันตัวเองให้รอดจากนักล่าผู้เก่งกาจนี้ เรื่องราวของแผนการอันชาญฉลาด แต่ยากที่จะลงมือทำจริง จะถูกถ่ายทอดในนิทานอีสปเรื่องแมวกับหนู
เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องแมวกับหนู
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในบ้านหลังหนึ่งที่เต็มไปด้วยหนูจำนวนมาก พวกมันใช้ชีวิตอย่างร่าเริง วิ่งไปมารอบ ๆ บ้านเพื่อหาอาหารและเล่นสนุกกันทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้าของบ้านเริ่มเบื่อกับการถูกหนูรบกวน จึงนำแมวตัวใหญ่เข้ามาเพื่อกำจัดหนู
เมื่อแมวมาถึง หนูทั้งหลายต่างหวาดกลัว เพราะแมวตัวนี้ล่าเก่งและเคลื่อนไหวเงียบจนหนูไม่ทันระวังตัว หลายตัวถูกจับไปโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้หนูที่เหลือพากันหลบซ่อนด้วยความหวาดกลัว
หนูตัวหนึ่งจึงเสนอให้พวกมันจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหาทางรอดจากอันตรายนี้ พวกมันมารวมตัวกันในมุมลับของบ้าน เพื่อพูดคุยหาทางป้องกันตัวจากแมว
หนูตัวหนึ่งพูดขึ้นว่า “พวกเราต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้แมวมาใกล้โดยที่เราไม่รู้ตัวอีกต่อไป”
หนูอีกตัวพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้ว! เราต้องหาวิธีทำให้รู้ว่าแมวอยู่ใกล้เมื่อไหร่ จะได้เตรียมตัวหนีทัน”
ในขณะที่ทุกตัวกำลังคิดหนัก หนูฉลาดตัวหนึ่งก็ยกมือตะโกนด้วยความตื่นเต้น “ข้ามีแผนที่ดีมาก เราจะผูกกระดิ่งไว้ที่คอแมว!”
ทุกตัวหันมามองมันด้วยความสนใจ หนูฉลาดพูดต่อ “ถ้ามีกระดิ่งที่คอแมว เมื่อใดก็ตามที่มันเดินเข้ามาใกล้ พวกเราจะได้ยินเสียงกระดิ่งและจะหนีทัน”
หนูทั้งหลายส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดี “แผนนี้ดีจริง ๆ! ผูกกระดิ่งไว้ที่คอแมว พวกเราจะปลอดภัย!”
แต่แล้ว หนูแก่ตัวหนึ่งซึ่งฟังอยู่เงียบ ๆ ตลอด ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “แผนนี้ฟังดูดี แต่ข้ามีคำถามสำคัญอยู่นะ”
ทุกตัวเงียบและหันมามองหนูแก่
มันพูดต่อ “ใครจะเป็นคนกล้าพอที่จะเอากระดิ่งไปผูกที่คอแมว?”
บรรยากาศในที่ประชุมเงียบลงทันที หนูแต่ละตัวมองหน้ากันด้วยความกังวล ไม่มีใครกล้าพูดอะไร ทุกตัวเริ่มเข้าใจว่าการจะเอากระดิ่งไปผูกที่คอแมวนั้นอันตรายเกินไปและไม่มีใครกล้าทำ
ในที่สุด การประชุมจบลงโดยไม่มีทางแก้ที่เป็นไปได้ หนูทั้งหลายกลับไปด้วยความสิ้นหวัง พวกมันเรียนรู้ว่า แม้แผนการอาจดูดีเพียงใด แต่ถ้าไม่มีใครกล้าหาญมาลงมือทำ แผนการนั้นก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การวางแผนที่ดีอาจฟังดูง่าย แต่การลงมือปฏิบัติให้สำเร็จนั้นต้องการความกล้าหาญและความรับผิดชอบ หากไม่มีผู้ใดพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย แผนการที่ดีเพียงใดก็ไม่อาจเกิดผลได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงแค่การคิดแผนที่ดูดี แต่คือการพร้อมลงมือทำเพื่อให้แผนสำเร็จ
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องแมวกับหนู (อังกฤษ: The Cat and the Mice) ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 79 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) เป็นหนึ่งในนิทานอีสปที่เก่าแก่และมีหลายรูปแบบ ต้นฉบับหนึ่งเล่าเกี่ยวกับฝูงหนูที่ถูกรบกวนโดยแมวที่ถูกนำเข้ามาเพื่อกำจัดพวกมัน หนูจึงตัดสินใจประชุมกันเพื่อหาวิธีป้องกันตนเอง พวกมันได้ข้อสรุปว่า หากสามารถผูกกระดิ่งที่คอแมวได้ ทุกตัวจะรู้ว่าแมวเข้ามาใกล้เมื่อได้ยินเสียงกระดิ่ง แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นเมื่อไม่มีหนูตัวใดกล้าหาญพอที่จะนำกระดิ่งไปผูกที่คอแมว ทำให้แผนการต้องพับไปเพราะไม่มีใครลงมือปฏิบัติ
นิทานเรื่องนี้พบในงานเขียนของนักเล่านิทานโบราณหลายคน เช่น Babrius และ Phaedrus และยังมีปรากฏในนิทานพื้นบ้านของหลายวัฒนธรรม ความนิยมของนิทานนี้ทำให้เกิดคำสำนวน “belling the cat” หรือแปลว่ากระดิ่งแมว ซึ่งหมายถึงการเสนอแผนการที่ดูดี แต่ขาดการปฏิบัติจริง นิทานนี้สะท้อนบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความกล้าหาญและความรับผิดชอบในการลงมือทำตามแผน ไม่เช่นนั้น แผนที่ดีเพียงใดก็จะเป็นไปไม่ได้