ในป่าใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและภัยคุกคาม บีเวอร์ตัวหนึ่งต้องเผชิญกับการไล่ล่าจากมนุษย์ผู้ต้องการหางของมันไปใช้ประโยชน์ เมื่อมันรู้ว่าชีวิตของมันตกอยู่ในความเสี่ยง บีเวอร์จึงต้องใช้ปัญญาและกลยุทธ์เพื่อเอาชีวิตรอดจากการถูกจับตัวไป
นิทานเรื่องนี้จะพาผู้อ่านไปสำรวจเรื่องราวของการเสียสละและความสามารถในการใช้ปัญญาในการเผชิญกับความยากลำบาก เรื่องราวจะเป็นเช่นไร ติดตามได้ในนิทานอีสปเรื่องหางของบีเวอร์
เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องหางของบีเวอร์
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในป่าลึกใกล้แม่น้ำสายหนึ่ง มีบีเวอร์ตัวหนึ่งที่มีหางสวยงามและแข็งแรง หางของมันมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์สะท้อนแสงแดดยามเช้า บีเวอร์ภูมิใจในหางของมันมาก เพราะมันช่วยในการสร้างเขื่อนที่มั่นคงและแข็งแกร่ง
แต่แล้วข่าวร้ายก็แพร่สะพัดไปทั่วป่า มนุษย์กลุ่มหนึ่งเข้ามาในป่าพร้อมกับอุปกรณ์ล่าสัตว์ พวกเขาตามหาบีเวอร์ที่มีหางสวยเพื่อเอาไปทำเครื่องประดับราคาแพง
วันหนึ่ง ขณะที่บีเวอร์กำลังพักผ่อนอยู่ริมน้ำ มันได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงพูดคุยของมนุษย์ที่ใกล้เข้ามา
“ข้าได้ยินอะไรบางอย่าง” บีเวอร์พูดกับตัวเอง เสียงของมันสั่นเพราะความกลัว “ต้องหนีเดี๋ยวนี้!”
มันรีบพุ่งตัวหนีไปยังพุ่มไม้หนา แต่หางที่ใหญ่ทำให้การเคลื่อนไหวไม่คล่องตัวนัก เสียงของมนุษย์เริ่มดังใกล้ขึ้น
“ดูนั่นสิ! นั่นหางของบีเวอร์ที่เราตามหา!” มนุษย์ตะโกนด้วยความดีใจ
บีเวอร์หันกลับไปมองด้วยความหวาดกลัว มันรู้ว่าต้องทำบางอย่างเพื่อเอาชีวิตรอด มันกลั้นใจและพูดกับตัวเอง
“หากข้าต้องเสียสิ่งที่ข้าภาคภูมิใจเพื่อรักษาชีวิต ก็ให้เป็นเช่นนั้น”
ด้วยความเจ็บปวด บีเวอร์กัดหางของตัวเองจนหลุดออก มันร้องออกมาด้วยความเจ็บแปลบ แต่ไม่หยุดหนี มันใช้แรงเฮือกสุดท้ายพุ่งตัวเข้าพุ่มไม้ทึบ หายเข้าไปในความมืดของป่าใหญ่
มนุษย์เดินมาถึงจุดที่หางของบีเวอร์ตกอยู่ พวกเขามองดูหางด้วยความตื่นเต้น
“อย่างน้อยเราก็ได้หางมา” มนุษย์คนหนึ่งพูดพร้อมกับหยิบหางขึ้นมา
ในขณะที่มนุษย์หายไปจากสายตา บีเวอร์ซ่อนตัวอยู่ในโพรงลับ มันหอบหายใจหนัก แต่ดวงตาของมันเปล่งประกายด้วยความโล่งใจ มันพูดเบา ๆ กับตัวเอง
“ข้าอาจไม่มีหางอีกต่อไป แต่ข้ายังมีชีวิต และชีวิตมีค่ามากกว่าสิ่งใด”
บีเวอร์รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่หางขาด แต่มันยิ้มเล็กน้อย รู้ว่าการเสียสละครั้งนี้ทำให้มันได้อิสรภาพและโอกาสที่จะมีชีวิตต่อไป
และตั้งแต่นั้นมา บีเวอร์กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเสียสละและความกล้าหาญ สัตว์ในป่าต่างเล่าขานเรื่องราวของมันเพื่อเตือนใจกันว่าชีวิตมีค่าที่สุด แม้ต้องเสียบางสิ่งเพื่อปกป้องมัน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การเสียสละเพื่อรักษาชีวิตและอิสรภาพเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง บางครั้งเราต้องยอมสละสิ่งที่เรารักหรือภาคภูมิใจเพื่อรักษาสิ่งที่มีค่าที่สุด ซึ่งก็คือชีวิตของเราเอง นอกจากนี้ยังสอนให้รู้ถึงความกล้าหาญและการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวในยามวิกฤต ความแข็งแกร่งที่แท้จริงไม่ใช่เพียงการมีสิ่งของหรือคุณสมบัติที่ดี แต่คือความสามารถในการยอมเสียสละเพื่อสิ่งที่สำคัญที่สุด
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องหางของบีเวอร์ (อังกฤษ: The Beaver) มีที่มาอิงจากนิทานอีสปคลาสสิกเรื่อง “The Beaver” ยุคกรีกโบราณ ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 118 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) ซึ่งเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบีเวอร์ที่ถูกมนุษย์ล่าเพื่อหาชิ้นส่วนบางอย่างของมัน (ในนิทานอีสปดั้งเดิม ชิ้นส่วนนั้นคืออวัยวะที่มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรค) บีเวอร์ในนิทานอีสปใช้กลยุทธ์การเสียสละอวัยวะส่วนที่มนุษย์ต้องการด้วยตนเอง เพื่อให้มนุษย์หยุดไล่ล่ามันและเอาชีวิตรอดได้
หากผู้คนยอมรับแนวทางเดียวกันนี้ และยินดีสละทรัพย์สินของตนเพื่อใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยจากภัยอันตราย ก็คงจะดี เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีใครคิดจะวางกับดักให้กับผู้ที่ถูกถอดเปลือยจนไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว