ในป่าลึกแห่งหนึ่ง มีนักเดินทางสองคนเดินทางไปด้วยกัน โดยไม่คาดคิดพวกเขากลับเผชิญหน้ากับหมีตัวใหญ่ที่กำลังจะโจมตี พวกเขาต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่าจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร ท่ามกลางความตื่นตระหนก หนึ่งในนักเดินทางเลือกที่จะวิ่งหนีไป ทิ้งเพื่อนของเขาไว้เบื้องหลัง
นิทานเรื่องนี้สะท้อนถึงการทดสอบมิตรภาพที่แท้จริง และการแสดงออกถึงความภักดีและการวางใจที่ไม่ใช่แค่ในยามดี แต่ต้องยืนหยัดในยามคับขัน เรื่องราวจะเป็นเช่นไร กับนิทานอีสปเรื่องหมีกับสองนักเดินทาง

เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องหมีกับสองนักเดินทาง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นักเดินทางสองคนออกเดินทางแต่เช้าตรู่ ท้องฟ้าสว่างด้วยแสงอ่อนของดวงอาทิตย์ที่เพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้า พวกเขาเดินผ่านทุ่งหญ้า สะพายกระเป๋าหนักอึ้งไว้บนหลัง
และพูดคุยกันอย่างออกรส เสียงหัวเราะของพวกเขาลอยไปกับสายลมขณะที่ก้าวเข้าสู่แนวป่าลึก ต้นไม้สูงใหญ่ยืนเรียงรายแน่นขนัด แสงแดดแทบลอดผ่านไม่ได้
“ข้าคิดว่าเราจะได้พบอะไรบ้างในป่านี้” คนหนึ่งพูดขึ้นในขณะที่มองไปรอบ ๆ ด้วยแววตาตื่นเต้น “บางทีอาจเป็นนกหายาก หรือพืชสมุนไพรลึกลับก็ได้นะ”
“หรืออาจเป็นเสือก็ได้ ใครจะรู้” อีกคนหัวเราะพร้อมยักคิ้ว
พวกเขายังเดินต่อไป แม้เส้นทางจะเต็มไปด้วยรากไม้และใบไม้ทับถมก็ตาม เสียงนกในพุ่มไม้และกลิ่นดินเปียกทำให้ป่าดูมีชีวิตชีวา
แต่ทันใดนั้น ความเงียบสงบก็ถูกทำลายลง เสียงคำรามต่ำ ๆ ดังขึ้นจากพุ่มไม้หนาทึบด้านหน้า ใบไม้ไหวไหวเหมือนมีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างหลัง มันไม่ใช่เสียงลม ไม่ใช่เสียงนก แต่เป็นเสียงของสัตว์ขนาดใหญ่ที่กำลังขยับตัว
นักเดินทางทั้งสองหยุดชะงัก ดวงตาเบิกกว้าง สายตาเพ่งไปยังที่มาของเสียง และแล้ว พุ่มไม้ก็เปิดออก หมีตัวใหญ่มีขนสีเข้ม หน้าตาน่าเกรงขาม ยืนหายใจฟืดฟาดอยู่ไม่ห่างจากพวกเขานัก
หัวใจของนักเดินทางคนแรกเต้นระรัวด้วยความกลัว เขาไม่พูดอะไรสักคำ ไม่แม้แต่จะหันไปมองเพื่อน รีบปีนขึ้นต้นไม้สูงข้างทางในทันที มือเกาะกิ่งไม้แน่นจนข้อนิ้วซีด
“ข้าขอโทษ” เขาร้องออกมาโดยไม่หันกลับไปดูเพื่อน “ข้าทำอะไรไม่ได้จริง ๆ”
นักเดินทางอีกคนยืนตกตะลึงอยู่ด้านล่าง มองดูเพื่อนที่หายตัวขึ้นไปในพุ่มไม้ของต้นไม้สูงอย่างรวดเร็ว เขารู้ทันทีว่าไม่มีเวลาให้ลังเล หมีเริ่มเดินเข้ามาใกล้ ร่างใหญ่นั้นดูแน่วแน่ ราวกับจะไม่หยุดง่าย ๆ

ด้วยสติที่ยังเหลืออยู่ เขาทิ้งเป้บนหลังลงและล้มตัวนอนราบกับพื้น แขนแนบลำตัว หน้ากดกับดิน เขากลั้นหายใจและพยายามไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว ราวกับเป็นศพ
หมีเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นจนได้กลิ่นลมหายใจอุ่น ๆ ของมัน สัมผัสนั้นทำให้เขาเย็นวาบไปทั้งร่าง ขนที่ต้นคอลุกชัน แต่เขายังคงนิ่งอยู่
หมีโน้มตัวลง ดมไปรอบ ๆ ศีรษะและบ่าของเขา หยุดนิ่งอยู่ตรงริมใบหู ราวกับจะกระซิบอะไรบางอย่าง
แล้วในที่สุด หมีตัวนั้นก็ชะงัก ก้าวถอยหลังสองก้าว และหันหลังกลับเดินจากไปช้า ๆ เข้าสู่ความมืดของป่า
นักเดินทางที่แกล้งตายนอนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากแน่ใจว่าหมีจากไปแล้ว เขาค่อย ๆ ลืมตาและยันกายขึ้นอย่างระมัดระวัง หัวใจยังเต้นแรงอยู่ในอก เสื้อผ้าของเขาเปื้อนดินและใบไม้ แต่เขารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
เพื่อนของเขาค่อย ๆ ปีนลงจากต้นไม้ ท่าทางยังตื่นตระหนกอยู่บ้าง แต่พอเห็นว่าเพื่อนปลอดภัย ก็รีบเดินเข้ามาหา
“เจ้าปลอดภัยดีใช่ไหม ข้าดีใจจริง ๆ” เขาพูดขึ้นพลางปัดเศษใบไม้ออกจากไหล่ตัวเอง “เมื่อครู่นั้น ข้าเห็นหมีทำท่ากระซิบอะไรบางอย่างที่หูเจ้า มันพูดอะไรกับเจ้าหรือเปล่า”
ชายที่เพิ่งรอดตายหันมามองเขานิ่ง ๆ แววตาเรียบเฉย ไม่มีความตื่นตระหนกหลงเหลืออยู่แล้ว เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“มันบอกข้าว่า อย่าไว้ใจเพื่อนที่ทิ้งข้าในยามคับขัน”
คำพูดนั้นทำให้อีกฝ่ายชะงักไป เขาเบนสายตาหลบ สีหน้าเปลี่ยนเป็นสลดและเงียบงัน ไม่มีคำใดหลุดจากปากอีก
พวกเขาเดินออกจากป่าด้วยความเงียบ ต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดตนเอง เสียงฝีเท้าที่เคยมีจังหวะกลับช้าลง บทสนทนาที่เคยสนุกสนานหายไปเหลือเพียงเสียงลมพัดผ่านใบไม้
ในวันนั้น นักเดินทางคนหนึ่งได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของความกล้าหาญ ส่วนอีกคนหนึ่งได้เรียนรู้ถึงความหมายของมิตรภาพที่แท้จริง ไม่ใช่จากคำพูด แต่จากการกระทำในยามที่โลกไม่อ่อนโยน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… มิตรแท้จะยืนเคียงข้างในยามที่เราต้องการที่สุด การทดสอบมิตรภาพจะเห็นได้ชัดในยามคับขันและวิกฤต การทิ้งเพื่อนหรือหันหลังให้ในช่วงเวลาที่ลำบากทำให้ความสัมพันธ์นั้นไร้ความหมาย การรักษาความซื่อสัตย์และการช่วยเหลือกันในยามยากลำบากเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างและรักษามิตรภาพที่แท้จริง ชีวิตต้องการคนที่เราสามารถพึ่งพาได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากและสำคัญ
อ่านต่อ: นิทานอีสปสร้างแรงบันดาลใจดี ๆ อีกมากมาย
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องหมีกับสองนักเดินทาง (อังกฤษ: The Bear and the Travelers) เป็นนิทานที่ถูกอ้างถึงว่าเป็นผลงานของอีสป ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 65 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ)
โดยมีการบันทึกครั้งแรกในบทกวีภาษาละตินโดย Avianus นิทานนี้ถูกขยายความและตีความใหม่ในยุคกลาง มักใช้ในการสอนเด็ก ๆ เกี่ยวกับคุณค่าทางศีลธรรม เนื้อเรื่องกล่าวถึงนักเดินทางสองคนที่เผชิญหน้ากับหมี คนหนึ่งปีนต้นไม้เพื่อหนีเอาตัวรอด ขณะที่อีกคนแกล้งตายจนหมีจากไป เพื่อนที่อยู่บนต้นไม้ลงมาถามอย่างล้อเลียนและได้รับคำตอบว่า “อย่าไว้ใจคนที่ทิ้งเราในยามคับขัน”
คำแนะนำที่สำคัญแก่ข้า และมีอยู่หนึ่งข้อที่ข้าจะไม่มีวันลืม นั่นคือ ‘อย่าได้กลับไปคบหากับผู้ที่ทอดทิ้งเจ้าในยามคับขัน เพราะเจ้าจะตกอยู่ในเงื้อมมือของอสูรร้ายอีกครั้ง’