ปกนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณธรรมแห่งความถ่อมตน

นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณธรรมแห่งความถ่อมตน

ในโลกนี้ หลายคนมักคิดว่าการยิ่งใหญ่เกิดจากการยกตนให้สูงหรือควบคุมผู้อื่น แต่คำสอนของเต๋ากลับสอนว่า ความสงบและการถ่อมตนคือพลังที่แท้จริง สิ่งที่ลดตัวลง ย่อมรวมทุกสิ่งไว้และค้ำจุนผู้อื่นได้อย่างยั่งยืน

มีนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหนึ่ง ที่เล่าจื๊อสอนให้เห็นคุณค่าของการอยู่ต่ำและไม่ประกาศตน ผ่านเรื่องราวของชายผู้หนึ่งที่สร้างความมั่นคงให้ผู้อื่นโดยไม่ต้องแสดงอำนาจ นี่คือหนึ่งในเรื่องราวที่สะท้อนแก่นแท้ของวิถีเต๋าอย่างลึกซึ้ง กับนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณธรรมแห่งความถ่อมตน

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณธรรมแห่งความถ่อมตน

เนื้อเรื่องนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณธรรมแห่งความถ่อมตน

กาลหนึ่ง ดินในหุบเขาแตกระแหงเหมือนผิวมือของคนแก่ที่ทำงานหนักมาทั้งชีวิต ลมพัดฝุ่นคลุ้งเหนือซากบ้านเก่าที่เคยอุดมสมบูรณ์ก่อนสงครามระหว่างรัฐใหญ่กับรัฐเล็กจะทำลายทุกสิ่ง

เล่าจื๊อเดินทางผ่านที่นั่นในยามพลบค่ำ แสงอาทิตย์สุดท้ายส่องลอดเมฆแดง เหมือนเลือดที่ยังไม่แห้งจากแผ่นดิน เขาได้ยินเสียง “ขุด” เบา ๆ ลึกเข้าไปในหุบเขา เสียงของจอบที่กระทบดินแห้งแข็ง

เมื่อเดินตามเสียงไป เขาเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังขุดร่องยาวจากเชิงเขา ลากต่อไปยังพื้นดินต่ำสุดของหุบเขา เขาอยู่ลำพัง ไม่มีผู้ติดตาม ไม่มีวัวเทียม ไม่มีแรงงานช่วย เพียงมีจอบเก่าและร่างกายที่เปื้อนดิน

เล่าจื๊อถามขึ้น “เจ้าทำอะไรในที่รกร้างนี้?”

ชายหนุ่มไม่เงยหน้า ตอบเสียงเรียบ “ข้าขุดทางให้น้ำ”

“น้ำหรือ?” เล่าจื๊อมองไปไกลสุดสายตา เห็นเพียงผืนดินแห้งไร้แหล่งน้ำ “แต่น้ำอยู่ห่างออกไปหลายสิบลี้ เจ้าคิดว่ามันจะไหลมาถึงนี่หรือ?”

ชายหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบ “น้ำย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ ข้าเพียงเปิดทางให้มัน”

เล่าจื๊อหัวเราะเบา ๆ “เจ้ามั่นใจเสียเหลือเกิน ทั้งที่น้ำยังไม่มาสักหยด”

ชายหนุ่มวางจอบลง ยกกำมือที่เปื้อนดินขึ้นดู แล้วพูดช้า ๆ “น้ำไม่ต้องมั่นใจ มันเพียงไหล ข้าก็แค่ทำอย่างมันเท่านั้น”

คำพูดเรียบง่ายนั้นกระทบหัวใจเล่าจื๊อเหมือนหยดน้ำแรกหล่นลงบนดินแห้ง แผ่วเบาแต่ปลุกชีวิตในเงียบงัน

หลายวันต่อมา เขายังเห็นชายหนุ่มขุดต่อทุกเช้า ไม่พัก แม้ฝนไม่ตก แม้ไม่มีใครมองเห็น
ชาวบ้านจากรัฐใกล้ ๆ ผ่านมาเห็นก็หัวเราะ “คนบ้า! ขุดทางให้น้ำในหุบเขาแห้ง จะได้อะไรนอกจากเหนื่อย?”

แต่ชายหนุ่มเพียงเงยหน้าขึ้น ยิ้มบาง ๆ แล้วตอบ “ข้าไม่ต้องการได้อะไร แค่ให้สิ่งอื่นได้บ้างก็พอ”

ในแววตานั้นไม่มีความดื้อรั้น มีเพียงความสงบของคนที่ยอมเป็นพื้นต่ำ เพื่อให้สิ่งอื่นไหลผ่านได้

เล่าจื๊อเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ วันแล้ววันเล่า ในความเงียบงันนั้น เขาเริ่มรู้สึกว่า “ความอ่อนน้อม” อาจเป็นพลังที่หนักแน่นที่สุดที่เคยเห็น

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณธรรมแห่งความถ่อมตน 2

หลายปีผ่านไป หุบเขาที่เคยแห้งแล้งกลายเป็นแผ่นดินอุดมสมบูรณ์ ผู้คนเริ่มตั้งหมู่บ้านเล็ก ๆ รอบธารน้ำกลายเป็นเมืองการค้า ลำน้ำที่ไม่มีชื่อเชื่อมรัฐเล็กหลายแห่งเข้าด้วยกันโดยธรรมชาติ ไม่มีสัญญา ไม่มีผู้บังคับ แต่ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน

เมื่อข่าวนี้ไปถึงหูเจ้ารัฐแห่งรัฐใหญ่ พระองค์เกิดความประหลาดใจ “ในหุบเขาเล็ก ๆ นั้น ไม่มีขุนพล ไม่มีทูต แต่กลับรวมผู้คนได้มากกว่ากองทัพข้าเสียอีก”

จึงส่งขุนนางผู้หนึ่งพร้อมทหารไม่กี่นายไปสำรวจ ขุนนางผู้นั้นมาถึงริมธาร เห็นผู้คนทำงานอย่างสงบ ไม่มีใครเฝ้าประตู ไม่มีทหาร ไม่มีสัญลักษณ์แห่งอำนาจ

เขาถามชาวบ้านว่า “ใครเป็นผู้นำที่นี่? ใครสร้างที่นี่นี้ขึ้น?”

หญิงชราผู้หนึ่งตอบพร้อมรอยยิ้ม “ไม่มีผู้นำหรอกเจ้าค่ะ มีแต่น้ำที่ไหลมาตามทางที่มีคนขุดไว้”

“แล้วเขาอยู่ที่ไหน?” ขุนนางถามอีก

หญิงชราพยักหน้าไปทางปลายน้ำ “เขาอยู่ตรงนั้น ที่ที่น้ำเริ่มไหลเข้าสู่แผ่นดิน”

ขุนนางเดินไปตามทางน้ำ เห็นชายร่างผอมบางกำลังซ่อมฝายไม้ ผิวของเขาไหม้แดด แต่แววตายังสงบเหมือนเดิม

เล่าจื๊อก็ยืนอยู่ไม่ไกล มองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มที่เงียบงัน

ขุนนางเอ่ยเสียงแข็ง “ข้าคือทูตจากรัฐใหญ่ เจ้ารัฐของข้าต้องการให้ที่นี่อยู่ใต้การคุ้มครองของพระองค์ เจ้าคงไม่ขัดขืนสินะ?”

ชายเงยหน้าขึ้น มองขุนนางอยู่ครู่ แล้วตอบอย่างนุ่มนวล “ท่านจะคุ้มครองน้ำได้หรือ?”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

เขากล่าวต่อ “ข้าไม่มีอะไรจะมอบให้ท่าน เพราะสิ่งที่ท่านต้องการ มันไม่เคยเป็นของข้าเลย”

“ข้าเพียงขุดทางให้น้ำไหลเท่านั้น น้ำไม่ได้เป็นของข้า เช่นเดียวกับแผ่นดินนี้ มันมีอยู่ก่อนข้า และจะอยู่ต่อไปหลังข้า”

ขุนนางนิ่งงัน ไม่รู้จะตอบอย่างไร เล่าจื๊อเดินเข้ามา กล่าวเบา ๆ “น้ำไม่ขัดขืน แต่ไม่มีสิ่งใดขัดขวางมันได้ คนผู้นี้เข้าใจสิ่งนั้นดี จึงสร้างรัฐได้โดยไม่ต้องขึ้นครอง”

ขุนนางก้มศีรษะ เขียนรายงานกลับไปว่า “ไม่มีผู้ปกครองในหุบเขานี้ แต่ผู้คนอยู่ในระเบียบอย่างสมบูรณ์ ควรปล่อยไว้เช่นนั้น มิใช่ยึดครอง”

และเจ้ารัฐผู้ชาญฉลาด เมื่ออ่านรายงานนี้ ก็เพียงกล่าวว่า “ผู้ที่อยู่ต่ำกว่าเรา กลับทำให้แผ่นดินสูงขึ้นได้ เราจะเรียนรู้จากเขา”

พระองค์จึงสั่งให้ส่งเสบียง เมล็ดพันธุ์ และแรงงานไปช่วยพัฒนาหมู่บ้านนั้น ไม่ใช่เพื่อยึดครอง แต่เพื่อเชื่อมมิตรภาพ สายน้ำแห่งความอ่อนโยน ได้ไหลสู่หัวใจของผู้ปกครองที่เคยแข็งกร้าว

เมื่อฤดูฝนมาถึงอีกครั้ง น้ำในหุบเขาเต็มเอ่อ ลำธารไหลเอื่อยผ่านหมู่บ้านที่เขียวชอุ่ม
เล่าจื๊อเดินทางกลับมาที่ฝายเก่า ท่ามกลางเสียงน้ำไหลไม่ขาดสาย

ชายผู้นั้นได้จากไปแล้ว

เล่าจื๊อยืนมองสายน้ำ เพียงมองภาพนั้นอยู่นาน จนทุกเสียงรอบข้างกลายเป็นความเงียบ

เขาพูดกับตนเองช้า ๆ “รัฐใหญ่กับรัฐเล็กทั้งหลาย ต่างดำรงอยู่ได้เพราะสายน้ำนี้…
ชายผู้ขุดร่องเล็ก ๆ กลับสร้างศูนย์กลางของทุกสิ่ง โดยไม่ต้องครอบครองอะไรเลย”

สายตาของเขาเลื่อนตามทิศทางของน้ำ “ศูนย์กลางแท้ ไม่ได้อยู่บนที่สูง
แต่มันอยู่ ณ จุดที่ต่ำสุด ที่ซึ่งทุกสิ่งไหลมารวมกัน ถ้าเขาพยายามยกตนให้สูงกว่าน้ำ สายน้ำนี้คงไม่ไหลถึงตรงนี้หรอก…”

ลมเย็นพัดผ่าน กลีบดอกหญ้าปลิวลู่ไปตามทางน้ำ เล่าจื๊อหลุบตาเล็กน้อย แล้วพึมพำเบา ๆ ราวกับกำลังสอนใครบางคนที่มองไม่เห็น

“เขาสร้างรัฐขึ้นโดยไม่มีธง สร้างอำนาจโดยไม่ต้องมีบัลลังก์ นี่แหละคือความอ่อนโยนที่เอาชนะความแข็งกร้าว เหมือนเพศหญิงที่ชนะเพศชายด้วยความอ่อนโยนสงบนิ่งเหมือนสายน้ำ เหมือนรัฐใหญ่ที่ยิ่งใหญ่ได้เพราะรู้จักลดตนลงก่อน”

เสียงน้ำกระทบหินดังเป็นจังหวะอ่อนโยน แสงอาทิตย์ยามเย็นตกกระทบหยดน้ำจนส่องประกายเหมือนทองคำ แต่ทองคำเหล่านั้น… ไม่มีใครครอบครองได้

เล่าจื๊อยืนนิ่งอยู่นาน ก่อนกล่าวกับตนเองในที่สุด “สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือสิ่งที่ไม่แสดงว่าตนยิ่งใหญ่เลย น้ำไหลลงต่ำเสมอ แต่กลับรวมแม่น้ำทั้งปวงไว้ ผู้ที่ยอมอยู่ต่ำ… คือผู้ที่เป็นที่พึ่งของคนทั้งหลาย”

เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าที่สะท้อนในผิวน้ำ แสงสุดท้ายของวันส่องผ่านฝายไม้เก่า เสียงสายน้ำยังคงไหลไม่หยุด

ในความเงียบงันนั้น เต๋าไม่กล่าวคำ แต่ยังคงปรากฏอยู่… ในทุกหยดน้ำที่ไหล จากความถ่อมตน… สู่ความยิ่งใหญ่ที่ไม่ต้องเอ่ยชื่อ

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณธรรมแห่งความถ่อมตน 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.. ความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงไม่ได้มาจากการถือครองอำนาจ การสั่งสอน หรือการยกตนให้สูงเหนือผู้อื่น แต่เกิดจากการถ่อมตน ลดตนลง และสร้างสิ่งดีงามให้แก่ผู้อื่นโดยไม่ต้องประกาศตน การทำสิ่งเล็ก ๆ ด้วยความสงบและสม่ำเสมอ สามารถรวมพลังของผู้คน สร้างศูนย์กลาง และทำให้ทุกสิ่งเติบโตอย่างยั่งยืน นี่คือแก่นของนิทาน “คุณสมบัติแห่งความถ่อมตน”

ในนิทาน ชายผู้ขุดร่องน้ำเพียงลำพัง ไม่เคยเรียกร้องชื่อเสียงหรือผลตอบแทน แต่การกระทำของเขากลับหล่อเลี้ยงหมู่บ้านและผู้คนรอบข้างอย่างยั่งยืน การยอมอยู่ต่ำของเขาทำให้รัฐใหญ่เห็นคุณค่า จนเปลี่ยนจากศัตรูเป็นพันธมิตร และพร้อมช่วยเหลือโดยไม่ใช้กำลัง สำคัญความสงบและความอ่อนน้อม สามารถสร้างอำนาจที่แท้จริงและเป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้

อ่านต่อ: นิทานเต้าเต๋อจิงสอนชีวิตผ่านปรัชญาวิถีเต๋าในรูปแบบนิทานอ่านง่าย ๆ

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องคุณธรรมแห่งความถ่อมตน (อังกฤษ: The Attribute of Humility) นิทานเรื่องนี้มาจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิงบทที่ 61 ซึ่งกล่าวถึงคุณสมบัติของความถ่อมตนและความสงบนิ่ง ที่ทำให้ผู้อื่นเกิดความเคารพและศรัทธา อันเป็นแก่นแท้ของวิถีเต๋า การลดตนลงและอยู่ต่ำกว่าสิ่งอื่น ไม่ใช่การอ่อนแอ แต่กลับเป็นพลังที่สามารถรวมสรรพสิ่งไว้และสร้างความมั่นคงได้อย่างแท้จริง ความสงบนิ่งและความอ่อนโยนเปรียบเสมือนน้ำที่ไหลลงต่ำ ยิ่งอยู่ต่ำ ยิ่งกลายเป็นศูนย์กลางที่ทุกสิ่งมารวมกัน โดยเล่าจื๊อบันทึกไว้ว่า:

คุณสมบัติแห่งความถ่อมตน

สิ่งที่ทำให้รัฐยิ่งใหญ่ได้ ก็เพราะมันเปรียบเหมือนสายน้ำที่ไหลลงสู่ที่ต่ำ
มันจึงกลายเป็นศูนย์กลางที่สายน้ำเล็ก ๆ ทั้งหลายไหลมาบรรจบ

เหมือนอย่าง “ผู้หญิง” ที่มักชนะผู้เพศชายด้วยความสงบนิ่งและอ่อนโยน
ความนิ่งนี้ดูเหมือนการยอมถอย แต่กลับเป็นพลังที่เหนือกว่า

ดังนั้น รัฐใหญ่ที่รู้จักถ่อมตนลงต่อรัฐเล็ก จะชนะใจพวกเขาได้ ในขณะเดียวกัน รัฐเล็กที่รู้จักอ่อนน้อมต่อรัฐใหญ่ ก็จะได้รับความเมตตาและการคุ้มครอง

รัฐใหญ่ต้องการรวมผู้คนไว้ด้วยกันและดูแลพวกเขา ส่วนรัฐเล็กเพียงต้องการการยอมรับและการปกป้อง
เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างเข้าใจบทบาทของตน ต่างฝ่ายต่างได้ในสิ่งที่ปรารถนา

แต่เงื่อนไขเดียวคือ… รัฐใหญ่ต้องรู้จักลดตนเองลงก่อน

โดยเล่าจื๊อสอนว่า ผู้ที่เข้าใจคุณสมบัตินี้ย่อมรู้จักลดตนลงก่อนผู้อื่น ไม่แข่งขันเพื่อยกตนให้สูง แต่กลับสร้างความอุดมสมบูรณ์และความสงบให้แก่ผู้อื่นอย่างเงียบ ๆ ความอ่อนน้อมนี้สามารถสร้างอำนาจที่แท้จริง ทำให้ผู้คนเกิดความศรัทธาและเชื่อมั่น โดยไม่ต้องใช้กำลังหรือบังคับ และเมื่อรวมเข้ากับการสังเกตและอดทนต่อสภาพแวดล้อม ผู้นั้นก็จะกลายเป็นศูนย์กลางของสังคมอย่างแท้จริง

นิทานเรื่องนี้จึงถูกแต่งขึ้นเพื่อสะท้อนคำสอนในบทดังกล่าว โดยเปรียบชายผู้ขุดร่องน้ำเพียงลำพังกับสายน้ำที่ไหลลงต่ำ แม้ภายนอกดูเหมือนเล็กน้อยและไม่เด่นชัด แต่แท้จริงแล้วเป็นพลังที่สามารถรวมผู้คนและสร้างรัฐได้อย่างมั่นคง นี่คือหัวใจของ “คุณสมบัติแห่งความถ่อมตน” ที่เล่าจื๊ออยากให้ผู้คนได้ตระหนักและเรียนรู้

คติธรรม: “ผู้ที่ยอมอยู่ต่ำเสมอ ย่อมรวมสรรพสิ่งไว้ได้โดยไม่ต้องบังคับ ความอ่อนโยนและความสงบเป็นพลังที่แท้จริง ซึ่งสามารถสร้างศูนย์กลางของชีวิตและผู้อื่นได้โดยไม่อวดตัว”