ในวันที่แสงแดดแผดเผาและถนนลูกรังเต็มไปด้วยฝุ่น ล่อตัวหนึ่งลากเกวียนหนักไปตามทางอย่างอดทน มันมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตัวเอง แม้จะเหนื่อยล้าจากสัมภาระที่บรรทุกอยู่บนหลัง แต่ท่ามกลางความสงบและความพยายามของมัน
กลับมีสิ่งเล็กจ้อยที่พยายามทำให้ตัวเองดูสำคัญ เรื่องราวของแมลงวันผู้โอ้อวดและล่อผู้มั่นคง จะเผยให้เราเห็นถึงคุณค่าของความมั่นใจในสิ่งที่แท้จริง กับนิทานอีสปเรื่องแมลงวันกับล่อ
เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องแมลงวันกับล่อ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านชนบท ล่อตัวหนึ่งถูกใช้แรงงานอย่างหนัก มันต้องลากเกวียนที่เต็มไปด้วยสัมภาระหนักแน่นไปตามถนนลูกรังที่ทั้งขรุขระและเป็นหลุมเป็นบ่อ ล่อเดินอย่างช้า ๆ และมั่นคง แม้ว่าจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อย แต่มันก็มุ่งมั่นจะทำหน้าที่ให้เสร็จสิ้น
ระหว่างทาง แมลงวันตัวหนึ่งบินมาเกาะบนเกวียน มันเห็นล่อที่เดินช้า ๆ ก็นึกอยากสนุก “เจ้าล่อตัวใหญ่ ดูเหมือนเจ้าจะชักช้าเกินไปแล้วนะ” แมลงวันพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
ล่อหันมามองเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบอะไร มันยังคงลากเกวียนต่อไป
แมลงวันรู้สึกเสียหน้าเพราะล่อไม่สนใจมัน มันจึงบินไปเกาะที่หัวของล่อและพูดว่า “ข้ากำลังจับตาดูเจ้าอยู่ หากเจ้าไม่เร่งให้เร็วขึ้น ข้าจะต่อยเจ้าแน่!”
ล่อถอนหายใจและตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เจ้าตัวเล็ก ข้าแบกน้ำหนักมากมายไว้บนหลัง และข้ากำลังทำหน้าที่ของข้าให้ดีที่สุด แต่คำขู่ของเจ้าไม่มีความหมายอะไรเลย”
แมลงวันโกรธที่ล่อไม่กลัว มันบินวนไปมารอบหัวของล่อพร้อมพูดว่า “เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าคือแมลงวันผู้ยิ่งใหญ่? ข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกถึงพลังของข้าเอง!”
ล่อหัวเราะเบา ๆ และตอบกลับ “เจ้าอาจคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ แต่ข้ากลัวเพียงเจ้าของของข้า และแค่แส้ของคนขับที่อยู่ข้างหลัง ข้ารู้ว่าแส้นั้นมีพลังพอที่จะทำให้ข้าต้องเจ็บ แต่สำหรับเจ้า คำขู่ของเจ้าก็เหมือนเสียงลมที่พัดผ่าน ข้าจะไม่เสียเวลาไปสนใจเจ้า”
แมลงวันเริ่มรำคาญที่ล่อไม่ตอบสนองตามที่มันคาดหวัง “ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เจ้าล่อขี้เกียจ!” มันตะโกนพลางบินโฉบลงมาหัวของล่อ
ล่อยังคงสงบนิ่ง มันพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “เจ้าจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ข้าเดินหน้าต่อเพราะข้ารู้ว่าข้าต้องทำอะไร ข้าไม่ปล่อยให้เสียงรบกวนจากเจ้า หรือการขู่ที่ว่างเปล่ามาเปลี่ยนเส้นทางของข้าได้”
แมลงวันได้ยินดังนั้นก็รู้ว่ามันไม่มีอำนาจที่จะทำอะไรล่อได้จริง ๆ มันบินออกไปด้วยความอับอายและโมโหตัวเอง ล่อหันกลับไปมองแวบหนึ่งก่อนจะพึมพำกับตัวเองว่า “บางสิ่งที่ไร้ความสำคัญก็แค่เสียงรบกวน เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาตอบโต้”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การโอ้อวดหรือขู่เข็ญจากผู้ที่ไม่มีอำนาจแท้จริงนั้นไม่มีความหมายอะไรต่อผู้ที่ตั้งมั่นในหน้าที่ของตนเอง สิ่งสำคัญคือการมุ่งมั่นทำหน้าที่และเป้าหมายของตัวเอง โดยไม่ปล่อยให้คำพูดที่ไร้สาระหรือสิ่งเล็กน้อยมาทำให้ไขว้เขวหรือเสียเวลา
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องแมลงวันกับล่อ (อังกฤษ: The Fly and the Mule) ถูกบันทึกโดยฟีดรัส (Phaedrus) และถูกจัดลำดับอยู่ใน Perry Index ลำดับที่ 498 (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) ในนิทานเรื่องนี้ แมลงวันตัวหนึ่งนั่งอยู่บนรถม้าและขู่ที่จะต่อยม้าลากจูงหากมันไม่ดึงเร็วขึ้น แต่ม้าลากตอบกลับว่า มันกลัวเพียงแค่คนขับและแส้ของเขาเท่านั้น ส่วนคำขู่เปล่าจากคนรอบข้างไม่มีความหมายเลย
นิทานเรื่องนี้สามารถนำมาใช้ล้อเลียนบุคคลที่ชอบข่มขู่ด้วยคำพูดเปล่า ๆ โดยไม่มีอำนาจหรือความสามารถใด ๆ ที่จะสนับสนุนคำขู่นั้นได้อย่างแท้จริง
นิทานนี้เข้าสู่ผลงานวรรณกรรมยุโรปผ่านการรวบรวมนิทานอีสปของ ไฮน์ริช สไตน์โฮเวล (Heinrich Steinhöwel) ในปี 1476 และถูกถ่ายทอดต่อไปในหนังสือที่ดัดแปลงจากฉบับนี้ รวมถึงคอลเลกชันนิทานของ วิลเลียม แคกซ์ตัน (William Caxton)