ในชายฝั่งทะเลที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยโขดหิน มีปูตัวหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยของมัน โขดหินเหล่านั้นปกป้องมันจากคลื่นแรงและภัยร้ายอื่น ๆ ปูพอใจกับชีวิตเรียบง่ายในที่ที่มันคุ้นเคย
แต่วันหนึ่ง ความอยากรู้อยากเห็นทำให้มันเหลียวมองออกไปยังทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ มันเริ่มคิดว่าอาจจะมีสิ่งใหม่ ๆ ให้ค้นหาและชีวิตที่ตื่นเต้นกว่าเดิม เรื่องราวของการละทิ้งความปลอดภัยเพื่อตามหาความแปลกใหม่นั้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในนิทานอีสปเรื่องปูกับสุนัขจิ้งจอก
เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องปูกับสุนัขจิ้งจอก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ชายหาดที่สงบเงียบ มีปูตัวหนึ่งอาศัยอยู่ท่ามกลางโขดหินใหญ่ มันรักบ้านของมัน เพราะโขดหินช่วยป้องกันทั้งคลื่นและภัยอันตรายจากผู้ล่า ปูรู้สึกปลอดภัยที่นี่และใช้ชีวิตอย่างสบายใจ
แต่แล้ว วันหนึ่ง ปูเริ่มรู้สึกเบื่อกับการอยู่ในที่เดิมทุกวัน มันมองออกไปยังชายหาดที่เปิดโล่งและได้ยินเสียงนกร้อง กลิ่นหญ้าทะเลโชยมา ปูคิดว่า
“ถ้าเราได้ลองออกไปเห็นโลกกว้าง มันคงน่าตื่นเต้นไม่น้อย”
มันใช้เวลาตรึกตรองอยู่หลายวัน และในที่สุด ปูก็ตัดสินใจว่าอยากจะออกจากโขดหินไปสำรวจพื้นที่ใหม่ ๆ บนชายหาด
“ข้าอยากจะเห็นชายหาดในมุมอื่นบ้าง” ปูพูดกับตัวเอง “บางที อาจจะมีที่ใหม่ที่กว้างขวางและสวยงามกว่าที่นี่”
เช้าวันหนึ่ง ปูจึงเริ่มเดินออกจากโขดหิน เดินไปยังพื้นที่โล่งของชายหาด มันรู้สึกตื่นเต้นกับความแปลกใหม่ที่ได้พบ เห็นคลื่นซัดเข้ามาใกล้ ฝูงนกบินผ่านไป และแสงแดดส่องสะท้อนเป็นประกายบนผิวทะเล
“ช่างงดงามอะไรเช่นนี้!” ปูอุทานอย่างตื่นเต้น “ที่นี่ทั้งสว่างไสวและเปิดกว้าง ต่างจากโขดหินแคบ ๆ ของข้าจริง ๆ”
แต่ในขณะที่ปูกำลังเพลิดเพลินอยู่นั้น สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งที่เดินผ่านมาสังเกตเห็นปูอยู่กลางชายหาด มันยิ้มและเลียริมฝีปาก พึมพำกับตัวเองว่า
“ดูเหมือนข้าจะมีอาหารเช้าแล้วนะ วันนี้โชคดีจริง ๆ!”
สุนัขจิ้งจอกเดินตรงมาหาปูอย่างเงียบเชียบ เมื่อปูรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของบางอย่างในสายลม มันหันกลับไปมองและเห็นสุนัขจิ้งจอกที่กำลังตรงเข้ามา ปูตกใจมาก
“ไม่นะ! ข้าไม่น่าทิ้งโขดหินที่ปลอดภัยออกมาเลย!” ปูร้องด้วยความเสียใจ “ถ้าข้ายังอยู่ที่นั่น ข้าคงไม่ต้องเจออันตรายเช่นนี้”
สุนัขจิ้งจอกยิ้มเยาะและพูดขึ้นว่า “ข้าคิดว่าเจ้าเลือกผิดนะ เจ้าปูตัวน้อย นี่ไม่ใช่ที่สำหรับเจ้า”
ปูพยายามหันหลังกลับไปที่โขดหิน มันพยายามหนี แต่ความช้าของมันทำให้ไม่สามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าของสุนัขจิ้งจอกได้ ท้ายที่สุด สุนัขจิ้งจอกก็พุ่งเข้ามาจับปูไว้แน่น
ก่อนที่ปูจะถูกกิน มันได้แต่คิดในใจว่า “การละทิ้งที่ปลอดภัยเพราะความอยากรู้อยากเห็นของข้า ทำให้ข้าต้องพบจุดจบเช่นนี้”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การละทิ้งที่ปลอดภัยอาจนำมาซึ่งอันตรายที่เราไม่คาดคิด บางครั้ง ความอยากรู้อยากเห็นหรือความต้องการเปลี่ยนแปลงอาจทำให้เราลืมเห็นคุณค่าของความปลอดภัยที่เรามีอยู่ ความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นอาจทำให้เราสูญเสียสิ่งสำคัญที่เรามองข้ามไป และยังสอนให้เราไม่ประมาทกับชีวิตแม้จะอยู่จุดไหนก็ตาม
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องปูกับสุนัขจิ้งจอก (อังกฤษ: The Crab and the Fox) มีต้นกำเนิดจากนิทานอีสปของกรีกโบราณ ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 116 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) โดยเล่าถึงปูที่ละทิ้งชายฝั่งทะเลและออกไปยังทุ่งหญ้า แต่กลับถูกสุนัขจิ้งจอกจับกิน และแฝงข้อคิดว่า คนที่ละทิ้งหน้าที่และสภาพแวดล้อมที่ตนคุ้นเคย มักพบกับความล้มเหลว ซึ่งสะท้อนว่าความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมเดิมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบางชีวิต
นิทานเรื่องนี้แสดงให้เราเห็นว่า คนย่อมล้มเหลวเมื่อละทิ้งสิ่งที่ตนคุ้นเคย แล้วหันไปทำสิ่งที่ตนไม่รู้จักเลย