ในชีวิตของคนเรา บางครั้งเรามักจะสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยเหตุผลหรือการมองเห็นด้วยตาเปล่า ความหมายของชีวิตและการตายเป็นคำถามที่ลึกซึ้งและทุกคนต้องเผชิญในบางจุดของชีวิต
มีนิทานเซนเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับแพทย์หนุ่มคนหนึ่งที่เริ่มต้นการเดินทางเพื่อค้นหาคำตอบเกี่ยวกับความกลัวการตาย เขาไปพบกับอาจารย์เซนผู้หนึ่งที่สอนเขาว่า ความกลัวนั้นไม่สามารถหายไปได้จากการหาคำตอบที่ชัดเจน กับนิทานเซนเรื่องตระหนี่ในการสอน

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องตระหนี่ในการสอน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในเมืองโตเกียวที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและผู้คนมากมาย คุสุดะเป็นแพทย์หนุ่มในเมืองโตเกียว เขามีชีวิตที่มุ่งมั่นในงานของตัวเอง แต่ลึก ๆ แล้วเขาก็มีความสงสัยเกี่ยวกับชีวิตและความตาย
วันหนึ่ง เขาได้พบกับเพื่อนเก่าที่เคยเรียนเซนด้วยกันในมหาวิทยาลัย เพื่อนของเขาได้พูดถึงเซนอย่างเต็มใจ “เซนคืออะไร?” คุสุดะถามด้วยความสงสัย
เพื่อนของเขาตอบว่า “ข้าบอกเจ้าไม่ได้ว่ามันคืออะไร แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ถ้าเจ้าทำความเข้าใจเซน เจ้าจะไม่กลัวตาย”
คุสุดะคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบกลับไปว่า “นั่นดีแล้ว ข้าจะลองฝึกเซน ถ้าเช่นนั้นข้าควรไปหาอาจารย์ที่ไหน?”
เพื่อนของเขาบอกว่า “ไปหาอาจารย์นันอิน ท่านจะสอนเจ้าให้เข้าใจเซน”
เมื่อได้รับคำแนะนำ คุสุดะจึงตัดสินใจเดินทางไปหาอาจารย์นันอินเพื่อเรียนเซน
เมื่อคุสุดะเดินทางมาถึงวัดของอาจารย์นันอิน เขาเดินเข้าไปในห้องและพบอาจารย์นั่งอยู่บนเบาะในท่าผ่อนคลาย ทันทีที่อาจารย์นันอินเห็นเขาก็ทักทายอย่างอบอุ่น
“สวัสดี เพื่อนของข้า! สบายดีไหม? เราไม่ได้พบกันมานานแล้วนะ!”
คุสุดะรู้สึกงุนงงเพราะไม่เคยพบอาจารย์มาก่อน จึงตอบกลับไปว่า “เราไม่เคยพบกันมาก่อนเลยครับ”
อาจารย์นันอินยิ้มและตอบว่า “ถูกแล้ว ข้าคิดว่าเจ้าคือแพทย์ท่านอื่นที่มารับการสอนที่นี่”
คุสุดะรู้สึกประหลาดใจ แต่ไม่ได้ปฏิเสธ เขาจึงกล่าวถามอย่างสุภาพ “ท่านอาจารย์ครับ ข้าต้องการศึกษาเซน ขอเรียนคำสอนจากท่านได้หรือไม่?”
อาจารย์นันอินตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เซนไม่ใช่เรื่องยากอะไร หากเจ้าคือแพทย์ ก็จงรักษาผู้ป่วยของเจ้าด้วยความเมตตา นั่นแหละคือเซน”
คุสุดะรู้สึกประหลาดใจ เพราะสิ่งที่อาจารย์นันอินพูดนั้นดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว แต่เขายังคงสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างเซนกับการเข้าใจชีวิตและความตาย
อาจารย์นันอินยิ้มและพูดต่อว่า “เจ้าควรไปดูแลผู้ป่วยของเจ้า อย่ามาเสียเวลาอยู่ที่นี่เลย”
คุสุดะเดินออกจากวัดอย่างสงบ แม้ว่าคำตอบของอาจารย์นันอินจะทำให้เขายังไม่เข้าใจในสิ่งที่ต้องการรู้ คุสุดะยังกลับไปเยี่ยมนันอินถึงสามครั้ง
แต่อาจารย์นันอินก็บอกเขาเรื่องเดียวกันทุกครั้ง “แพทย์ไม่ควรเสียเวลาอยู่ที่นี่ กลับบ้านไปดูแลคนไข้ของเจ้าเถอะ”
แต่เขาก็ยังคงกลับมาใหม่ในครั้งถัดไปด้วยความหวังว่าจะได้รับคำสอนที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

คุสุดะกลับมาหาอาจารย์นันอินครั้งที่ 4 ในครั้งนี้เขารู้สึกท้อแท้และไม่พอใจกับคำสอนที่ได้รับ เขาจึงพูดขึ้นด้วยความรำคาญในใจ
“เพื่อนของข้าบอกว่าเมื่อเข้าใจเซนแล้วเราจะไม่กลัวตาย แต่ว่าทุกครั้งที่ข้ามาที่นี่ ท่านบอกแค่ให้ข้าดูแลผู้ป่วย ข้ารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ถ้านั่นคือเซน ข้าจะไม่มาอีกแล้ว”
อาจารย์นันอินมองคุสุดะแล้วยิ้มเบา ๆ เขาวางมือบนไหล่ของคุสุดะแล้วกล่าวอย่างใจเย็นว่า
“ข้าอาจจะเข้มงวดกับเจ้ามากไป ลองฟังคำนี้ดู ข้าจะให้เจ้าโคอานหนึ่งข้อ”
อาจารย์นันอินให้โคอาน “มุ” (Mu) ซึ่งเป็นคำถามแรกที่สำคัญในหนังสือ The Gateless Gate เป็นปัญหาที่กระตุ้นการตระหนักรู้ในเซน
คุสุดะรับโคอานนั้นไป และในใจเขาก็รู้สึกว่า นี่อาจเป็นคำตอบที่เขากำลังตามหา
คุสุดะใช้เวลาสองปีในการคิดทบทวนคำถาม “มุ” (Mu) หรือ “ไม่มีสิ่งใด” จนเขาคิดว่าเขาเริ่มเข้าใจสิ่งที่มันหมายถึง เขารู้สึกมั่นใจในตัวเอง แต่เมื่อเขากลับไปหาอาจารย์นันอินและบอกว่าเขาเข้าใจแล้ว อาจารย์ก็เพียงแค่ยิ้มและกล่าวว่า
“เจ้ายังไม่เข้าใจจริง ๆ”
คุสุดะไม่ยอมแพ้และฝึกต่อไปอีกหนึ่งปีครึ่ง จนในที่สุดเขารู้สึกว่าจิตใจของเขาสงบและปัญหาทุกอย่างก็หายไป “มุ” กลายเป็นความจริงที่เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
คุสุดะเริ่มให้การดูแลผู้ป่วยของเขาอย่างดีและไม่กังวลเกี่ยวกับชีวิตและความตายเหมือนเดิม เขารู้สึกอิสระจากความกลัวและความวิตกกังวลต่าง ๆ แม้ว่าเขาจะยังคงทำงานเป็นแพทย์ แต่จิตใจของเขากลับเต็มไปด้วยความสงบและความเข้าใจในธรรมชาติที่แท้จริง
เมื่อคุสุดะกลับไปหาอาจารย์นันอินอีกครั้ง ครูเพียงแค่ยิ้มและไม่พูดอะไรอีกต่อไป เขาไม่ต้องการคำพูด เพราะการตระหนักรู้ที่แท้จริงไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดได้

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ความเข้าใจในเซนไม่ได้มาจากการคิดหรือการหาคำตอบด้วยเหตุผล แต่คือการปล่อยวางและเข้าใจความจริงของชีวิตที่ไม่มีข้อจำกัด การทำความเข้าใจความไม่เป็นสิ่งใดอย่างแท้จริงทำให้เราสงบและไม่กลัวชีวิตหรือความตาย
คุสุดะค้นพบว่าเซนคือการเข้าใจชีวิตในขณะที่ไม่ยึดติดกับคำตอบหรือความกลัวใด ๆ และในที่สุดการฝึกฝนความสงบในจิตใจทำให้เขาหลุดพ้นจากความกังวลเรื่องชีวิตและความตาย
อ่านต่อ: นิทานเซนสั้น ๆ ที่แฝงข้อคิด และช่วยให้คุณเข้าใจความสงบในชีวิต
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเซนเรื่องตระหนี่ในการสอน (อังกฤษ: Stingy in Teaching) เรื่องราวนี้มาจากคำสอนของอาจารย์นานอิน (Nan-in) ซึ่งเป็นอาจารย์เซนที่มีชื่อเสียงในช่วงสมัยเมจิในประเทศญี่ปุ่น ท่านเป็นผู้ที่มีแนวทางการสอนเซนที่แยบยลและตรงไปตรงมา โดยเน้นให้ผู้เรียนทำความเข้าใจในสิ่งที่เรียกว่า “ความไม่เป็นสิ่งใด” หรือ “มุ” (Mu) ซึ่งเป็นคำถามแรกที่นักปฏิบัติเซนต้องเผชิญในหนังสือ The Gateless Gate ของโจชู (Joshu)
เรื่องราวของคุสุดะ แพทย์หนุ่มที่ต้องการศึกษาธรรมะและเข้าใจเซนเกิดขึ้นเมื่อเขาไปขอรับการสอนจากอาจารย์นานอิน ท่านสอนเขาผ่านการฝึกในชีวิตประจำวัน เช่น การดูแลผู้ป่วยด้วยความเมตตา ซึ่งเป็นการฝึกเซนที่แท้จริง ที่ไม่ได้ยึดติดกับคำตอบทางปัญญาหรือการคาดหวัง ท่านแสดงให้เห็นว่าเซนไม่ใช่แค่คำสอนในหนังสือ แต่เป็นการกระทำในชีวิตจริง
อาจารย์นานอินใช้วิธีการที่เรียกว่า “การสอนแบบตระหนี่” ซึ่งหมายถึงการให้คำสอนน้อย ๆ และไม่เปิดเผยทุกสิ่งให้เห็นทันที แต่จะให้ผู้เรียนเข้าใจด้วยประสบการณ์ตรง โดยเฉพาะการให้โคอาน (Koan) ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยเหตุผล แต่ต้องใช้สติและการตระหนักรู้ภายในเพื่อให้เข้าใจ
นิทานนี้สอนว่า การเข้าใจเซนไม่ได้มาจากการหาคำตอบที่สมบูรณ์หรือการใช้ความคิด แต่เป็นการฝึกฝนที่ต่อเนื่องและการเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง ซึ่งอาจารย์นันอิน ได้ถ่ายทอดแนวคิดนี้แก่คุสุดะ จนเขาเข้าใจเซนและหลุดพ้นจากความกังวลเกี่ยวกับชีวิตและความตาย
คติธรรม: “วิถีเซนไม่ใช่สิ่งที่ต้องค้นหาในคำพูด แต่คือการเข้าใจและดำเนินชีวิตในทุกการกระทำ ด้วยสติและความเมตตา”