มนุษย์ทั้งหลายมักเชื่อว่า ความสงบสุขจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยกฎเกณฑ์อันเข้มงวด และคุณธรรมที่ถูกสั่งสอนให้ยึดถือ แต่เต๋ากลับบอกเล่าอีกหนทางหนึ่ง หนทางที่เรียบง่ายกว่า คือการละทิ้งสิ่งปรุงแต่ง แล้วกลับคืนสู่ความจริงแท้ดั้งเดิมของชีวิต
มีนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหนึ่ง ที่เล่าจื๊อได้ถ่ายทอดผ่านเหตุการณ์ของเจ้ารัฐผู้ยิ่งใหญ่ ผู้แบกรับปัญหาบ้านเมืองอันหนักหน่วง จนต้องหันไปค้นหาความหมายใหม่ของการปกครอง และในเส้นทางนั้น พระองค์ได้เรียนรู้พลังของความเรียบง่ายตามวิถีแห่งเต๋า… กับนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหวนคืนสู่อิทธิพลอันบริสุทธิ์

เนื้อเรื่องนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหวนคืนสู่อิทธิพลอันบริสุทธิ์
ในกาลนั้น รัฐโจววุ่นวายหนัก ประชาชนมากมีความเหน็ดเหนื่อย ต่างพากันปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และคำสั่งซับซ้อน แต่ดวงใจกลับแห้งแล้ง ความกตัญญูเสื่อม ความเมตตาลดถอย
เจ้ารัฐโจวครั้นเห็นบ้านเมืองไม่สงบ จึงให้คนเชิญข้า ซึ่งเคยเป็นสหายเก่ามาเยี่ยมเยือนเพื่อปรึกษาปัญหาการปกครอง ครั้นเมื่อข้าเหยียบย่างเข้าสู่พระราชวัง พระองค์ก็ลุกขึ้นต้อนรับด้วยไมตรี
“สหายเอ๋ย ข้าเหน็ดเหนื่อยนัก ปกครองด้วยกฎหมายก็ไม่อาจทำให้ประชาชนสงบ ปกครองด้วยคุณธรรมก็ยังเกิดการแย่งชิง ข้ามิอาจเข้าใจได้”
ข้าพินิจพระพักตร์ที่หม่นหมอง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ “หากพระองค์ละทิ้งความเฉลียวฉลาดและความรู้ซับซ้อน ประชาชนจะกลับคืนสู่ความสุขเป็นร้อยเท่า”
เจ้ารัฐโจวทอดพระเนตรข้า แววพระเนตรเต็มไปด้วยคำถาม ข้าจึงกล่าวต่อ “ความเมตตาที่ถูกยัดเยียด ความถูกต้องที่บังคับ มิใช่หนทาง หากพระองค์ละทิ้งสิ่งเหล่านี้ ความดีแท้จะงอกงามเอง”

หลายวันต่อมา เจ้ารัฐโจวเริ่มละทิ้งสิ่งที่เคยผูกมัดประชาชน ทรงลดกฎหมายที่มากเกินควร มิบังคับคุณธรรม มิประดับด้วยถ้อยคำสวยหรู แต่ให้ผู้คนอยู่ด้วยวิถีของตนเอง
ข้ายืนมองเหตุการณ์ด้วยใจสงบ เห็นว่าเมื่อไม่มีการยัดเยียด ประชาชนมิได้กลายเป็นคนชั่ว แต่กลับช่วยเหลือกันเองมากกว่าแต่ก่อน ข้าพึมพำเบา ๆ “เมื่อไม่มีสิ่งล่อใจ ความโลภย่อมเหือด เมื่อไม่มีการบังคับ ความกตัญญูย่อมฟื้น”
คืนหนึ่ง เจ้ารัฐโจวเสด็จออกมาเฝ้าดูตลาด ทรงเห็นว่ามิได้มีโจรผู้ร้ายดังแต่ก่อน ชาวบ้านแลกเปลี่ยนสินค้าด้วยความจริงใจ มีเสียงหัวเราะปะปนอยู่ในลมราตรี พระองค์ทอดพระเนตรมาทางข้า แล้วตรัสด้วยความประหลาดใจ
“สหายเอ๋ย ข้าไม่เคยคาดคิดเลยว่า เมื่อกฎเกณฑ์น้อยลง ความสงบกลับมากขึ้น”
ข้ายิ้มอ่อน กล่าวตอบ “เพราะความซับซ้อนบังหนทางแท้จริง เมื่อเลิกบังคับ ผู้คนก็กลับคืนสู่ความดีดั้งเดิม”
ไม่นานนัก บรรยากาศในรัฐโจวเริ่มเปลี่ยนแปลง ผู้คนมิได้ทำความดีเพราะกลัวโทษทัณฑ์ หากแต่ทำด้วยใจรัก ครอบครัวอยู่กันอย่างสมัครสมาน เพื่อนบ้านแบ่งปันอาหารและแรงงาน ความสงบเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องมีผู้เฆี่ยนตี
เจ้ารัฐโจวหันมาตรัสกับข้าอีกครา “สหายเอ๋ย ข้าบัดนี้จึงเข้าใจแล้วว่า ความเฉลียวฉลาด ความเมตตา และความถูกต้องที่ถูกยัดเยียด หาได้นำสุขมาไม่ แต่เมื่อเรากลับคืนสู่ความเรียบง่าย พลังบริสุทธิ์ย่อมเผยตน”
ข้าพนมมือโค้งศีรษะ ตอบด้วยเสียงแผ่ว “ดังนั้นเต๋าจึงอยู่เหนือถ้อยคำและกฎเกณฑ์ มนุษย์เพียงวางใจตามทางแห่งธรรมชาติ ความสงบสุขก็จะบังเกิดเอง”
ครั้นแล้ว ข้าจึงลุกขึ้นจากพระราชวังเจ้ารัฐโจว เดินออกสู่เส้นทางสายเปลี่ยวใต้ดวงดาว ดวงใจอิ่มเอิบว่า ความจริงแท้ของเต๋าได้ถูกสานเข้าในแผ่นดินนี้แล้ว

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ความสงบแท้จริงหาได้เกิดจากความฉลาดเล่ห์รู้ หรือคุณธรรมที่บังคับ แต่เกิดจากการละทิ้งสิ่งซับซ้อน แล้วกลับคืนสู่ความเรียบง่ายและพลังอันบริสุทธิ์ที่มีอยู่ในใจมนุษย์
ในนิทาน ดังที่เล่าจื๊อเล่าถึงเจ้ารัฐโจว เมื่อทรงลดละกฎหมายที่ซับซ้อนและเลิกยัดเยียดคุณธรรมแก่ประชาชน ผู้คนกลับมีความกตัญญู มีเมตตา และอยู่ร่วมกันอย่างสงบโดยธรรมชาติ แสดงให้เห็นว่าแท้จริงแล้ว ความดีงามมิได้มาจากการบังคับ แต่เกิดจากการวางใจให้ทุกสิ่งดำเนินไปตามหนทางแห่งเต๋า
อ่านต่อ: นิทานเต้าเต๋อจิงสอนปรัชญาเต๋าจีนโบราณโดยปรมาจารย์เล่าจื๊อ
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหวนคืนสู่อิทธิพลอันบริสุทธิ์ (อังกฤษ: Returning to The Unadulterated Influence) นิทานเรื่องนี้มาจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิง บทที่ 19 ซึ่งเล่าจื๊อกล่าวถึง “การละทิ้งความปรุงแต่ง” เพื่อกลับคืนสู่ความเรียบง่ายดั้งเดิมของชีวิตหากมนุษย์ละทิ้งความฉลาดเล่ห์รู้และคุณธรรมที่ถูกยัดเยียดเสีย ความสงบสุขจะกลับคืนสู่ผู้คนเป็นร้อยเท่า หากละทิ้งความเมตตาและความถูกต้องที่ฝืนบังคับ ผู้คนจะหวนกลับมากตัญญูและเอื้อเฟื้อกันเอง และหากละทิ้งกลอุบายอันชาญฉลาดกับการแสวงหากำไร โลภะและโจรผู้ร้ายจะไม่เกิดขึ้นในแผ่นดิน เล่าจื๊อได้บันทึกไว้ว่า:
หากเราสามารถละทิ้งความรู้ปราชญ์และความฉลาด ผู้คนก็จะอยู่เย็นเป็นสุขยิ่งขึ้นเป็นร้อยเท่า
หากเราละทิ้งความกรุณาและความชอบธรรม มนุษย์ก็จะกลับมาเป็นบุตรที่กตัญญูและเปี่ยมด้วยไมตรี
หากเราละทิ้งเล่ห์กลและการแสวงหาผลประโยชน์ จะไม่เหลือโจรหรือคนร้ายอีกต่อไปวิธีทั้งสามนี้
แม้ในอดีตถูกมองว่าไร้ความสง่างาม
และถูกสร้างชื่อเรียกขึ้นเพื่อกลบเกลื่อนความขาดคุณค่า
แต่หนทางอันเรียบง่าย ตรงไปตรงมา และจริงแท้
ย่อมดับความเห็นแก่ตัวและความใคร่ปรารถนาทั้งหลายได้
เล่าจื๊อสอนว่า ความฉลาดและคุณธรรมที่ถูกยัดเยียดเป็นเพียงสิ่งลวงตา มันทำให้มนุษย์ห่างไกลจากความเป็นจริง แต่เมื่อมนุษย์วางสิ่งเหล่านี้ลง เขาจะกลับมาสัมผัสความดีงามแท้จริงในจิตใจ ความเรียบง่ายย่อมเป็นหนทางที่มั่นคงและปลอดภัยกว่า เพราะสอดคล้องกับธรรมชาติและไม่ฝืนสัจจะของเต๋า
นิทานเรื่องนี้จึงถูกแต่งขึ้นเพื่อสะท้อนคำสอนในบทที่ 19 โดยเปรียบเหตุการณ์ที่เจ้ารัฐโจวเผชิญความวุ่นวายภายใน จนต้องหันมาฟังคำสอนของเล่าจื๊อ และเมื่อพระองค์กล้าละทิ้งกฎหมายที่ซับซ้อนกับคุณธรรมที่ฝืนบังคับ จึงได้เห็นว่าประชาชนกลับมามีความสงบสุขด้วยตนเอง นี่คือหัวใจของ “การกลับคืนสู่อิทธิพลอันบริสุทธิ์” ที่เล่าจื๊อต้องการถ่ายทอด
คติธรรม: “เมื่อมนุษย์ละทิ้งความฉลาดเล่ห์รู้ ความเมตตาที่ฝืนบังคับ และกฎเกณฑ์ที่ซับซ้อนลงเสีย ความดีงามแท้จริงจะหวนคืน และความสงบจักบังเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องสั่งสอน”