ปกนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหวนคืนสู่ความเรียบง่าย

นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหวนคืนสู่ความเรียบง่าย

ในโลกนี้ หลายคนมักคิดว่าความยิ่งใหญ่เกิดจากการโอ้อวดหรือบังคับสิ่งต่าง ๆ แต่คำสอนของเต๋ากลับชี้ว่า ความสงบและความเรียบง่ายต่างหากคือหนทางที่แท้จริงของชีวิต

มีนิทานเต้าเต๋อจิงบทหนึ่ง เล่าจื๊อบันทึกเรื่องการกลับคืนสู่ความเรียบง่าย ผ่านภาพของผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต ผู้ซึ่งแม้มีพลัง ปัญญา และเกียรติยศ กลับเลือกดำเนินชีวิตด้วยความอ่อนโยน ถ่อมตน และใจที่กว้างใหญ่ กับนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหวนคืนสู่ความเรียบง่าย

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหวนคืนสู่ความเรียบง่าย

เนื้อเรื่องนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหวนคืนสู่ความเรียบง่าย

คืนหนึ่ง ข้านั่งอยู่ใต้แสงตะเกียงน้ำมัน กลิ่นหมึกหอมอบอวล เสียงลมพัดลอดเข้ามาทางหน้าต่างไม้เก่า ข้าเอื้อมหยิบพู่กัน ลากหมึกลงบนกระดาษไผ่ทีละเส้นอย่างช้า ๆ “คนที่แข็งแรงแท้จริง มิใช่ผู้โอ้อวดกำลังของตน แต่คือผู้ที่รู้จักอ่อนโยนเหมือนสตรี”

ข้าเขียนประโยคนี้ด้วยใจสงบ แล้วปล่อยให้ความคิดไหลย้อนกลับไปยังเรื่องราวของกษัตริย์ในอดีตกาล กษัตริย์ผู้หนึ่งที่ชื่อพระเจ้าเหยา

พระเจ้าเหยา… ชื่อของพระองค์ยังคงส่องสว่างอยู่เหนือกาลเวลา แม้นานนับพันปี ผู้คนยังยกย่องว่าเป็น “กษัตริย์นักบุญ” ข้านึกภาพชายชราผู้เรียบง่าย ไม่อวดอำนาจ แต่เปี่ยมด้วยเมตตา

พระองค์มีอำนาจครองแผ่นดิน แต่ทรงวางตนดุจพ่อบ้านธรรมดา ไม่สร้างวังใหญ่โต ไม่ห่มเครื่องทรงหรูหรา พระองค์เดินท่ามกลางราษฎรเหมือนเป็นหนึ่งในพวกเขาความอ่อนโยนของพระองค์คือพลังที่แท้จริง

ข้าหยุดพู่กันครู่หนึ่ง ยกสายตามองท้องฟ้าที่มืดสนิท แล้วคิดว่า… “หากผู้ปกครองในวันนี้รู้จักเรียนแบบพระเจ้าเหยา บ้านเมืองคงสงบสุขยิ่งนัก”

ข้าเขียนต่อไปด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความสว่าง ท“คนที่ฉลาดแท้จริง ไม่ต้องพยายามเด่น แต่รู้จักถ่อมตน อยู่เงียบ ๆ ดุจเงาดำใต้ต้นไม้ใหญ่”

พระเจ้าเหยา คือแบบอย่างแห่งความเงียบเช่นนั้น พระองค์มีปัญญาเหนือผู้ใด แต่กลับไม่โอ้อวด ไม่เขียนชื่อตนบนผืนฟ้า ไม่ประกาศพระบารมีด้วยกำแพงหรือหินจารึก แต่ใช้การฟัง ใช้ความสงบ และใช้หัวใจที่อ่อนโยนปกครองแผ่นดิน

เมื่อข้าเขียนถึงตรงนี้ ภาพอีกภาพหนึ่งผุดขึ้นในใจ หุบเขากว้างใหญ่ที่รองรับน้ำจากทุกทิศทาง น้ำใส น้ำขุ่น น้ำเชี่ยว น้ำเอื่อย… หุบเขามิได้ปฏิเสธสักหยดเดียว

พระเจ้าเหยาก็เป็นเช่นนั้น ทรงรับฟังทั้งเสียงขุนนางและเสียงชาวนา เสียงร่ำไห้และเสียงหัวเราะ ด้วยใจที่กว้างใหญ่จนไม่หวั่นไหวต่อคำสรรเสริญหรือคำตำหนิ เกียรติและความอับอายเป็นเพียงเงา ไม่อาจทำให้ใจพระองค์แปรเปลี่ยน

พู่กันวางลง เสียงลมพัดผ่านเงียบสงัด บนแผ่นไผ่ยังคงเหลือหมึกดำที่เปล่งประกายใต้แสงไฟอ่อน ๆ ราวกับย้ำเตือนข้าว่าความยิ่งใหญ่สูงสุด มิได้อยู่ที่การขึ้นครองสูงสุด แต่คือการกลับสู่ความเรียบง่าย

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหวนคืนสู่ความเรียบง่าย 2

ข้าวางพู่กันลงชั่วครู่ หลับตาแล้วนึกถึงคำว่า “เกียรติ” และ “ความอับอาย”

สองคำนี้ผลัดกันครอบงำใจมนุษย์นับไม่ถ้วน บางคนหลงใหลในเกียรติยศ จนเผลอสร้างกำแพงสูงกั้นตนเองจากผู้คน บางคนกลัวความอับอาย จนใจสั่นไหวไม่เป็นอิสระ

แต่พระเจ้าเหยา…ต่างออกไป พระองค์ยอมให้ราษฎรตำหนิหากทำผิด และไม่เคยปฏิเสธความผิดพลาด พระองค์ไม่หลบเลี่ยงความอับอาย เพราะรู้ว่า ความอับอายก็เป็นเพียงครูที่เตือนให้มนุษย์กลับมาสู่วิถีที่ถูกต้อง

“ผู้ที่รู้จักรับทั้งเกียรติและความอับอายได้อย่างสงบ คือผู้ที่ยืนอยู่กลางหุบเขา ใจเขากว้างใหญ่จนไม่มีสิ่งใดทำให้แคบลง”

ข้าเขียนประโยคนี้ลงบนกระดาษไผ่ด้วยจิตใจมั่นคง รู้สึกได้ว่าแสงตะเกียงสั่นไหวคล้ายจะย้ำถ้อยคำที่ปรากฏตรงหน้า

เมื่อบันทึกมาถึงตอนท้าย ข้าหวนคิดถึงถ้อยคำทั้งหมดที่เขียนลงไป ทั้งเรื่องกำลังที่อ่อนโยน ปัญญาที่ถ่อมตน และหัวใจที่กว้างใหญ่จนรับได้ทั้งเกียรติและความอับอาย สิ่งเหล่านี้รวมกันทำให้พระเจ้าเหยาคงอยู่ในความทรงจำของคนรุ่นหลัง

และแล้วความจริงหนึ่งก็ปรากฏแก่ใจข้า ความยิ่งใหญ่แท้จริง ไม่ได้เกิดจากการสร้างสิ่งซับซ้อน หากแต่เกิดจากการละทิ้งสิ่งปรุงแต่ง และกลับคืนสู่ความเรียบง่าย

ข้าจรดพู่กันเขียนบรรทัดสุดท้ายลงอย่างช้า ๆ

“เมื่อผู้ปกครองไม่บังคับ ไม่เร่งรัด ไม่โอ้อวด ไม่เสแสร้ง บ้านเมืองก็จะสงบ ผู้คนก็จะกลับสู่ความบริสุทธิ์ดังเด็กเล็ก ๆ เช่นนี้เอง จึงเป็นหนทางแห่งความยิ่งใหญ่สูงสุด”

ข้าจรดพู่กันเขียนบรรทัดสุดท้ายลงอย่างช้า ๆ

“มิใช่เพียงผู้ปกครองแผ่นดินเท่านั้นที่ต้องเรียนรู้วิถีแห่งความเรียบง่าย แต่ทุกคนต่างก็เป็นผู้ปกครองชีวิตของตนเอง หากใจเราชอบโอ้อวด เราก็จะเหนื่อยล้า หากเรากลัวความอับอาย เราก็จะสูญเสียอิสรภาพ หากเรายึดถือเกินไป ชีวิตก็จะเต็มด้วยพันธนาการ”

ข้าหยุด หายใจลึก แล้วเขียนต่อไปว่า

“แต่หากเรากลับมาสู่วิถีที่เรียบง่าย รู้จักอ่อนโยน รู้จักถ่อมตน รู้จักกว้างใจต่อทุกสิ่ง เราจะกลับเป็นดั่งเด็กน้อยที่บริสุทธิ์ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม และนั่นคือการปกครองตนเองอย่างแท้จริง”

เมื่อพู่กันวางลง ความเงียบสงัดก็ปกคลุมห้อง ข้าเงยหน้ามองแสงจันทร์นอกหน้าต่าง ใจสงบ ราวกับได้เดินทางไกลแสนไกลแล้วกลับมาถึงบ้าน บ้านที่เรียกว่าความเรียบง่าย

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหวนคืนสู่ความเรียบง่าย 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ความยิ่งใหญ่ที่แท้จริง คือการกลับคืนสู่ความเรียบง่าย อ่อนโยน และถ่อมตน ไม่หลงในเกียรติ ไม่หวั่นต่อความอับอาย และปกครองตนเองได้อย่างสงบ

ดังเช่นเรื่องราวที่เล่าจื๊อบันทึกถึงพระเจ้าเหยา กษัตริย์ผู้ไม่อวดอำนาจ แต่ปกครองด้วยความเมตตาและความถ่อมตน จนผู้คนอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็น สอนเราว่าไม่ว่าเป็นผู้นำแผ่นดินหรือผู้นำชีวิตตนเอง หากยึดความเรียบง่าย ก็จะพบความสงบสุขแท้จริง

อ่านต่อ: นิทานเต้าเต๋อจิงแฝงข้อคิดดี ๆ และปรัชญาชีวิตสุดลึกซึ้งในวิถีเต๋าของเล่าจื๊อ

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหวนคืนสู่ความเรียบง่าย (อังกฤษ: Returning to Simplicity) นิทานเรื่องนี้มาจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิงบทที่ 28 ซึ่งกล่าวถึงการ “กลับคืนสู่ความเรียบง่าย” อันเป็นแก่นแท้ของวิถีเต๋า ความแข็งแรง ความฉลาด และเกียรติยศ แม้จะสูงส่งเพียงใด หากขาดความอ่อนโยน ความถ่อมตน และใจที่กว้างใหญ่ ก็ไม่อาจยืนยาว การกลับคืนสู่ความเรียบง่าย คือการละทิ้งสิ่งปรุงแต่ง กลับสู่สภาพดั้งเดิมบริสุทธิ์ของชีวิต ดุจเด็กน้อยไร้เล่ห์เหลี่ยม โดยเล่าจื๊อได้บันทึกไว้ว่า:

การกลับสู่ความเรียบง่าย

ใครเล่าจะรู้ถึงความเข้มแข็งของตน
แต่ยังคงรักษาความอ่อนโยนไว้
ดั่งแม่น้ำสายหนึ่งที่รับน้ำจากลำธารหลายสาย
ทุกสิ่งไหลมาหาเขา ภายใต้ฟ้าเดียวกัน

เพราะฉะนั้น เขาจึงรักษาความดีมั่นคงไว้
ดุจเด็กน้อยผู้เรียบง่าย ปราศจากคราบใด ๆ

ใครเล่าจะรู้ว่าความขาวดึงดูดสายตา
แต่ยังคงอยู่ในเงาของความดำ
แบบแผนแห่งความถ่อมตนปรากฏแก่ทุกสายตา
เขาประดับด้วยความดีที่ไม่เปลี่ยนแปลง
กลับสู่สภาพเดิมดั้งเดิมของมนุษย์อย่างไม่สิ้นสุด

ใครเล่าจะรู้ว่าความรุ่งโรจน์ส่องสว่าง
แต่กลับรักความอัปยศ และไม่เคยซีดเซียวเพราะมัน
จงเห็นเขาปรากฏในหุบเขากว้างใหญ่
ที่ผู้คนมาจากทุกสารทิศ

ความดีมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง
เรื่องราวของเขาจึงสมบูรณ์
ดุจเด็กน้อยมนุษย์ดั้งเดิม เราขอคารวะเขา

วัตถุดิบที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป
เมื่อแบ่งและกระจายแล้ว กลายเป็นภาชนะ
ปราชญ์เมื่อถูกว่าจ้าง
ก็เป็นหัวหน้าข้าราชการทั้งปวง
และในการบริหารสูงสุดของเขา
ไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง

เล่าจื๊อได้สอนว่า ผู้ที่เข้าใจแก่นแท้นี้ย่อมรู้จักปกครองใจของตนเอง ไม่ถูกเกียรติหรือความอับอายครอบงำ รู้จักความสงบ อ่อนโยน และถ่อมตน จนสามารถดำรงชีวิตร่วมกับสรรพสิ่งได้อย่างกลมกลืนใจดั่งหุบเขากว้างใหญ่ รับทุกสิ่งได้โดยไม่หวั่นไหว ความเรียบง่ายนี้ทำให้ผู้ใดที่ยึดถือ สามารถปกครองตนเองได้อย่างแท้จริง และบังเกิดความสงบในทุกการกระทำ

นิทานเรื่องนี้จึงถูกแต่งขึ้นเพื่อสะท้อนคำสอนในบทดังกล่าว โดยยกพระเจ้าเหยาเป็นตัวอย่าง กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แต่ไม่โอ้อวด ทรงอ่อนโยนและถ่อมตน แม้มีอำนาจและปัญญามากมาย แต่กลับเลือกใช้ความเรียบง่ายในการปกครองบ้านเมือง และกลับคืนสู่ความบริสุทธิ์ของใจ นี่คือหัวใจของ “การกลับคืนสู่ความเรียบง่าย” ที่เล่าจื๊อต้องการให้ผู้คนตระหนักและเรียนรู้

คติธรรม: “ความยิ่งใหญ่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อใจกลับคืนสู่ความเรียบง่าย อ่อนโยน และบริสุทธิ์ดุจเด็กน้อย”