ชีวิตของเรามักจะถูกสิ่งต่าง ๆ มาดึงดูดและทำให้เราหลงทาง การยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอาจทำให้เราสูญเสียสมาธิและหลงจากสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือการตื่นรู้ในปัจจุบันและการเข้าใจตัวเอง
มีนิทานเซนเรื่องหนึ่งที่สอนให้เห็นถึงการฝึกฝนการไม่ยึดติดของท่านคิตาโนะ เก็มโปะ เจ้าอาวาสวัดเออิเฮอิ ที่ทุ่มเทชีวิตในการปล่อยวาง เพื่อให้จิตใจสงบและเข้าใจความจริงในชีวิตอย่างลึกซึ้ง กับนิทานเซนเรื่องการไม่ยึดติด

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องการไม่ยึดติด
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ถนนสายหนึ่งของญี่ปุ่น ชายหนุ่มนามว่าคิตาโนะ เก็มโปะ เขาออกเดินทางเป็นนักบวชท่องเที่ยวตามลำพังเพื่อใช้ชีวิต
เมื่อคิตาโนะ เก็มโปะ ยังอายุ 20 ปี ในระหว่างการเดินทางครั้งหนึ่ง เขาพบกับนักเดินทางคนหนึ่งที่สูบบุหรี่ ขณะที่ทั้งสองเดินไปตามเส้นทางบนภูเขาและหยุดพักใต้ต้นไม้
นักเดินทางยื่นบุหรี่ให้คิตาโนะ ซึ่งเขารับไว้เพราะรู้สึกหิวมากในตอนนั้น
“ท่านลองสูบดูสิ มันจะทำให้ท่านรู้สึกดีขึ้น” นักเดินทางกล่าว
“การสูบบุหรี่ช่างน่าพอใจจริง ๆ” คิตาโนะตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
นักเดินทางยิ้มและยื่นอุปกรณ์สูบเพิ่มเติมให้ “ท่านคงชอบมันมากนะ”
หลังจากที่สูบไปได้สักพัก คิตาโนะเริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่เพลิดเพลินชั่วคราว นี้อาจรบกวนการฝึกสมาธิในอนาคตของเขา เขาคิดในใจว่า “หากสิ่งนี้ทำให้ข้าหลงจากการฝึกฝน ข้าจะไม่สามารถฝึกเซนได้อย่างแท้จริง”
เขาตัดสินใจทิ้งอุปกรณ์การสูบบุหรี่ทั้งหมดและกล่าวว่า “ข้าจะไม่ให้สิ่งนี้รบกวนการฝึกสมาธิของข้า”
ด้วยการตัดสินใจนี้ คิตาโนะเรียนรู้ถึงความสำคัญของการไม่ยึดติด กับสิ่งที่ทำให้จิตใจไม่สงบ และสามารถกลับมามุ่งมั่นในการฝึกฝนได้อย่างเต็มที่
เมื่อคิตาโนะอายุ 23 ปี เขาศึกษาคัมภีร์อี้จิง หรือ “ตำราแห่งการทำนาย” ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการทำนายอนาคตและการเข้าใจจักรวาล
คัมภีร์อี้จิง I-King หรือ I Ching (易經) คือ ตำราโบราณของจีน ที่ใช้สำหรับการทำนายและการวิเคราะห์สถานการณ์ โดยใช้หลักการของความสมดุลระหว่างหยินและหยาง และการเปลี่ยนแปลงในจักรวาลเพื่อทำนายความเป็นไปได้ในอนาคตและแนะนำวิธีการที่ดีที่สุดในชีวิต
โดยทั่วไปตำรา ใช้การทำนายผ่านเครื่องหมาย 64 ชุดที่เรียกว่ากัมมะ (Hexagrams) ที่ประกอบด้วย 6 เส้นที่มีทั้งเส้นเต็มและเส้นขาด เพื่อแสดงถึงปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต
เขาต้องการเสื้อผ้าหนาในช่วงฤดูหนาว จึงเขียนจดหมายไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยไมล์ และมอบจดหมายให้กับนักเดินทางคนหนึ่งที่เขาพบเพื่อส่งไป
เวลาผ่านไปจนเกือบจะหมดฤดูหนาว แต่เขายังไม่ได้รับจดหมายตอบกลับหรือเสื้อผ้าจากอาจารย์ คิตาโนะจึงตัดสินใจใช้คัมภีร์อี้จิง ในการทำนายว่าจดหมายของเขานั้นไม่ได้ถึงอาจารย์ และพบว่าคำทำนายของเขาถูกต้องจริง ๆ
คิตาโนะคิดว่า “การทำนายได้แม่นยำขนาดนี้ หากข้ายังใช้ศาสตร์นี้ ข้าจะหลงทางจากการฝึกสมาธิ”
เขารู้สึกว่าการทำนาย แม้ว่าจะมีความแม่นยำและช่วยให้เขาเข้าใจสถานการณ์ได้ แต่กลับทำให้เขาละเลยการฝึกฝนสมาธิและการตื่นรู้ในชีวิตจริง เขาจึงตัดสินใจละทิ้งการศึกษาศาสตร์การทำนายนี้ และกลับมามุ่งมั่นในการฝึกสมาธิอย่างจริงจัง
คิตาโนะเริ่มเข้าใจว่าการยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แม้จะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ในบางเวลา แต่ก็อาจทำให้เขาหลงจากการฝึกฝนจิตใจ และได้เรียนรู้ว่าความสำคัญของการฝึกฝนเซนนั้นอยู่ที่การปล่อยวางและไม่ยึดติดกับสิ่งที่อาจรบกวนการตื่นรู้

เมื่อคิตาโนะอายุ 28 ปี เขาเริ่มศึกษาค่าลายมือและบทกวี เขามีความสามารถมากขึ้นจนได้รับคำชมจากอาจารย์ ผู้ที่เคยฝึกสอนเขาในเรื่องนี้ วันหนึ่ง ขณะที่เขานั่งคิดถึงความสำเร็จที่เขาได้มาในศิลปะเหล่านี้ เขาเริ่มรู้สึกถึงการดึงดูดตัวเองไปสู่เส้นทางที่ไม่ตรงกับการฝึกฝนเซน
ในขณะที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เขาถามตัวเองว่า “หากข้ายังคงเขียนบทกวีต่อไป ข้าจะกลายเป็นกวีมากกว่าผู้สอนเซน”
เขามองไปที่บทกวีที่เขียนไว้และรู้สึกว่าการยึดติดกับความสามารถในศิลปะ อาจทำให้เขาหลงจากเส้นทางเซนที่เขาเลือกเดิน เขาจึงตัดสินใจหยุดเขียนบทกวี และเลิกฝึกฝนในด้านนี้ เพื่อไม่ให้มันกลายเป็นสิ่งที่ขวางทางการตื่นรู้ในตัวเขา
คิตาโนะรู้ว่าการยึดติดกับสิ่งที่เก่งกาจในทางโลก อาจทำให้เขาหลงลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดในการฝึกเซน นั่นคือการปล่อยวางและการไม่ยึดติด
เมื่อคิตาโนะอายุ 35 ปี เขาเริ่มเข้าใจคำสอนเซนอย่างลึกซึ้ง การฝึกฝนโดยไม่ยึดติดกับสิ่งใดเป็นสิ่งสำคัญในการเข้าถึงความจริง และการตื่นรู้
ทุกการกระทำของเขาในชีวิตประจำวันกลายเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การกิน หรือแม้แต่การนั่งสมาธิ
วันหนึ่ง ขณะที่เขานั่งสมาธิและเฝ้าสังเกตความคิดในใจ เขาตระหนักถึงคำสอนของอาจารย์ที่เคยบอกไว้ “หากท่านไม่ปล่อยวางสิ่งที่ยึดติดอยู่ ท่านจะไม่สามารถตื่นรู้ได้”
สุดท้ายคิตาโนะ เก็มโปะ ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดเออิเฮอิ มีอายุ 92 ปี ท่านมรณภาพในปี 1933 ท่านพยายามตลอดชีวิตที่จะไม่ยึดติดกับสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ หรือความสำเร็จทางโลก
ท่านเลือกที่จะปล่อยวางสิ่งที่ยึดติดอยู่ในชีวิตทุกด้าน เพื่อให้สามารถบรรลุถึงความเข้าใจในธรรมะและการตื่นรู้ที่แท้จริง
ท่านเข้าใจดีว่าการยึดติด แม้กับสิ่งที่ดูดีและมีคุณค่าก็อาจทำให้จิตใจเบียดเบียนการตื่นรู้ได้ ท่านได้ละทิ้งทุกสิ่ง ที่อาจทำให้ท่านหลงทางจากการฝึกสมาธิและการตื่นรู้ในปัจจุบัน ท่านเชื่อว่าการไม่ยึดติด คือการไม่ให้สิ่งใดมาควบคุมชีวิตหรือจิตใจของเรา
ในช่วงเวลาที่ท่านมรณภาพ ท่านได้ทิ้งบทเรียนที่สำคัญไว้ให้ทุกคนการไม่ยึดติด เป็นหนึ่งในหลักการของการฝึกฝนเซนที่ท่านยึดถือมาโดยตลอด และท่านได้พิสูจน์แล้วว่า การเดินทางในเส้นทางเซนไม่สามารถไปถึงจุดหมายได้หากไม่มีการปล่อยวางและยอมรับสิ่งที่เป็นอยู่ในแต่ละขณะ
การสอนของคิตาโนะยังคงอยู่ และคำสอนของท่านยังคงเป็นแสงสว่างสำหรับผู้ที่เดินตามเส้นทางการฝึกฝนเซนต่อไป

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… การไม่ยึดติดกับสิ่งใดไม่ว่าจะเป็นสิ่งดีหรือไม่ดี จะช่วยให้จิตใจของเราไม่ถูกรบกวน และทำให้เราเข้าใจความจริงของชีวิตอย่างลึกซึ้ง
คิตาโนะ เก็มโปะได้สอนให้เราเห็นว่าการฝึกฝนเซนและการตื่นรู้ที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นเมื่อเราปล่อยวางความยึดติดที่ไม่จำเป็น และเข้าใจว่าทุกสิ่งในชีวิตล้วนมีการเกิดและการดับ การไม่ยึดติดกับสิ่งใดช่วยให้เรามีจิตใจที่สงบและเข้าถึงความจริงที่แท้จริงได้
อ่านต่อ: ค้นหาความสงบของชีวิตจากการไม่ยึดติดและการปล่อยวางผ่านหลักธรรมวิถีเซนกับนิทานเซนสั้นๆ สนุก ๆ ได้ข้อคิดดี ๆ เพียบ
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเซนเรื่องการไม่ยึดติด (อังกฤษ: Non-Attachment) เรื่องราวนี้มาจากพระอาจารย์คิตาโนะ เก็มโปะ (Kitano Gempo) เจ้าอาวาสของวัดเออิเฮอิ (Eihei Temple) ซึ่งเป็นปรมาจารย์เซนที่มีชื่อเสียงในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เขาเกิดในปี 1841 และมรณภาพในปี 1933 ด้วยอายุ 92 ปี คิตาโนะเป็นผู้ที่ฝึกฝนการไม่ยึดติด กับสิ่งต่าง ๆ ตลอดชีวิตและเป็นตัวอย่างที่ดีของการปฏิบัติธรรมในแนวทางเซน
การที่ท่านคิตาโนะละทิ้งทุกสิ่ง ที่อาจทำให้เขาหลงทางจากการฝึกสมาธิหรือการตื่นรู้สะท้อนถึงหลักธรรมของเซนที่ว่าการปล่อยวาง และการไม่ยึดติดกับสิ่งใด เป็นการเดินทางสู่ความเข้าใจที่แท้จริงในชีวิตและความเป็นจริง
เรื่องนี้เป็นการถ่ายทอดคำสอนและแนวทางการฝึกฝนของคิตาโนะที่ท่านได้สะท้อนให้เห็นผ่านการตัดสินใจในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทิ้งการสูบบุหรี่ การละทิ้งศาสตร์การทำนาย หรือแม้แต่การหยุดเขียนบทกวี ทั้งหมดล้วนสะท้อนถึงการไม่ยึดติด กับสิ่งที่อาจขัดขวางการฝึกฝนเซนอย่างแท้จริง
นิทานเรื่องนี้มีการบันทึกไว้ในหนังสือ Zen Flesh, Zen Bones ซึ่งเป็นการรวบรวมคำสอนและเรื่องราวของปรมาจารย์เซน รวมทั้ง 101 Zen Stories ที่สะท้อนถึงการปฏิบัติธรรมและการตื่นรู้ในแนวทางเซน
คติธรรม: “การไม่ยึดติดกับสิ่งใดไม่ว่าจะดีหรือเลว จะทำให้จิตใจเราไม่ถูกรบกวน และทำให้เราสามารถสัมผัสความจริงของชีวิตอย่างลึกซึ้ง”