ในโลกของเซน คำสอนไม่ได้ถ่ายทอดเพียงแค่ผ่านถ้อยคำ แต่แทรกซึมอยู่ในการกระทำอันเรียบง่ายของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการกวาดใบไม้ จัดสวน หรือแม้แต่การถือจอบในวัยชรา…
มีนิทานเซนเรื่องหนึ่งเล่าถึงปรมาจารย์เซนเฮียะคุโจ คืออีกหนึ่งบทเรียนที่เตือนใจเราว่า การปฏิบัติธรรมแท้จริงนั้น มิได้แยกขาดจากการลงมือทำด้วยตนเอง กับนิทานเซนเรื่องไม่มีงาน ไม่มีอาหาร

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องไม่มีงาน ไม่มีอาหาร
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในวัดเซนอันเงียบสงบกลางหุบเขาแห่งหนึ่ง มีพระอาจารย์ชาวจีนชื่อว่าพระอาจารย์เฮียะคุโจ ผู้เคร่งครัดและเปี่ยมด้วยเมตตา แม้อายุจะล่วงเลยกว่าแปดสิบปีแล้ว ท่านก็ยังคงลุกขึ้นมาทำงานเช่นเดียวกับศิษย์ทุกวัน
ไม่ว่าจะเป็นตัดแต่งกิ่งไม้ ปัดกวาดใบไม้ในลานวัด หรือดูแลแปลงผัก ท่านไม่เคยเว้นว่างจากกิจกรรมใด ๆ ที่ช่วยพยุงวัดให้ดำรงอยู่อย่างสะอาดเรียบร้อย
ศิษย์ทั้งหลายต่างนับถือและรักพระอาจารย์เฮียะคุโจเป็นอย่างยิ่ง แต่ในใจก็อดเป็นห่วงไม่ได้เมื่อเห็นท่านผู้อาวุโสยังต้องออกแรงทำงานเช่นนี้ “อาจารย์อายุมากแล้ว น่าจะได้พักบ้าง…” ลูกศิษย์คนหนึ่งกระซิบเบา ๆ ขณะดูท่านก้มลงเก็บใบไม้ด้วยท่าทางมั่นคง
บรรดาศิษย์จึงประชุมกันและตกลงว่า ควรหาทางให้ท่านหยุดพักบ้าง แม้อาจารย์จะไม่ยอมฟังหากพูดตรง ๆ พวกเขาจึงแอบซ่อนเครื่องมือทำงานของท่านไว้ ตั้งแต่จอบ เสียม ไปจนถึงไม้กวาด หวังว่าเมื่อหาอุปกรณ์ไม่เจอ ท่านคงจะยอมพักผ่อนเสียที
ในเช้าวันรุ่งขึ้น พระอาจารย์เฮียะคุโจตื่นเช้าเช่นเคย ทว่าหลังจากเดินหาของอยู่พักใหญ่ เมื่อไม่พบเครื่องมือ ท่านก็เดินกลับเข้ากุฏิอย่างสงบ…
และในวันนั้น ท่านไม่แตะต้องอาหารแม้แต่น้อย ลูกศิษย์ต่างประหลาดใจ แต่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ จนกระทั่งวันที่สอง… และวันที่สาม… อาจารย์ยังคงไม่รับอาหารแม้แต่น้อยเช่นเดิม

เมื่อถึงคืนวันที่สาม บรรยากาศภายในวัดเริ่มเงียบผิดปกติ ลูกศิษย์ทุกคนพากันวิตกกังวล บางคนเริ่มรู้สึกผิดที่ทำไปโดยไม่บอกกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “บางที… ท่านอาจารย์จะโกรธพวกเรา” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นท่ามกลางแสงโคมริบหรี่
ศิษย์ผู้มีอาวุโสที่สุดพยักหน้า “เราไม่มีสิทธิ์ขัดเจตนาของอาจารย์ แม้จะด้วยความหวังดี” ในที่สุด พวกเขาตัดสินใจนำเครื่องมือทั้งหมดกลับไปวางไว้ที่เดิม ข้างใต้ต้นบ๊วยหน้ากุฏิของอาจารย์
รุ่งเช้าวันถัดมา พระอาจารย์เฮียะคุโจออกจากกุฏิด้วยใบหน้านิ่งสงบ เขาหยิบจอบขึ้นมาด้วยมือมั่นคง และเริ่มตัดแต่งพุ่มไม้โดยไม่พูดอะไร เมื่อถึงเวลาอาหาร ท่านก็มานั่งร่วมวงรับประทานอย่างเป็นปกติ
หลังอาหารเย็น ท่านเรียกศิษย์มานั่งล้อมวงใต้ต้นไม้ใหญ่ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น “ไม่มีงาน ก็ไม่มีอาหาร” …ประโยคสั้น ๆ นั้น แฝงไว้ด้วยปัญญาที่สะท้อนถึงวิถีแห่งเซนอย่างลึกซึ้ง

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ความกรุณาที่แท้จริงไม่ใช่การช่วยเหลือโดยการปกป้องจากความลำบาก แต่คือการเคารพวิถีของผู้อื่น แม้ทางนั้นจะเหน็ดเหนื่อยหรือยากลำบากก็ตาม
พระอาจารย์เฮียะคุโจไม่ได้ทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนตน แต่เพราะงานนั้นคือการฝึกจิต วิถีเซนของเขาคือการทำทุกสิ่งอย่างเต็มที่ด้วยตนเอง การหยุดไม่ทำอะไรเลยย่อมไม่มีคุณค่า แม้จะมีคนอื่นมาช่วยก็ตาม
อ่านต่อ: นิทานเซนให้ข้อคิดธรรมะในแบบวิถีเซนและปรัชญาชีวิต
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเซนเรื่องไม่มีงาน ไม่มีอาหาร (อังกฤษ: No Work, No Food) ปรากฏอยู่ในหนังสือ “Zen Flesh, Zen Bones” ซึ่งรวบรวมเรื่องเล่าและคำสอนจากพระเซนที่มีชื่อเสียง โดย Paul Reps และ Nyogen Senzaki เป็นผู้เรียบเรียงหลัก นิทานเรื่องนี้เป็นหนึ่งใน “101 Zen Stories” ที่คัดสรรมาจากคำสอนของพระอาจารย์เซนจีนและญี่ปุ่นในยุคก่อน
เรื่องราวของพระอาจารย์เฮียะคุโจ (Hyakujo) หรือชื่อจีนพระอารย์ไพ่จาง ฮ่วยไห่ (Pai-chang Huai-hai) เป็นพระเซนผู้มีชีวิตอยู่ในราชวงศ์ถังของจีน และมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานวัตรปฏิบัติของวัดเซน โดยเฉพาะหลักการ “ทำงานเพื่อดำรงชีวิต” ซึ่งต่อมากลายเป็นแบบอย่างสำคัญในวัดเซนทั่วเอเชีย
พระอาจารย์เฮียะคุโจได้รับการเคารพไม่เพียงเพราะปัญญาและคำสอนอันลึกซึ้ง แต่ยังรวมถึงการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีวินัย และไม่ยกตนเหนือผู้อื่น แม้จะเป็นอาจารย์ผู้สูงวัย เขาก็ยังทำงานร่วมกับลูกศิษย์ด้วยมือของตนเอง และยึดหลัก “การทำงานคือการปฏิบัติธรรม” เป็นหัวใจสำคัญ คติ “ไม่มีงาน ไม่มีอาหาร” จึงไม่ใช่เพียงคำเตือน แต่เป็นการสอนผ่านการกระทำให้เห็นคุณค่าของความเพียรและการไม่ยึดติดในสถานะ
คติธรรม: “แม้จะมีปัญญาหรือสถานะสูงเพียงใด หากไม่ลงมือทำด้วยตนเอง ก็ยากจะเข้าถึงแก่นแท้ของธรรม ชีวิตที่เปี่ยมความหมายจึงเริ่มต้นจากการไม่หลีกเลี่ยงหน้าที่ แม้เป็นงานธรรมดาก็ตาม”