ในโลกนี้บางครั้งความยุติธรรมอาจไม่เกิดขึ้นทันที แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่ควรได้รับย่อมกลับคืนมา การทำดีไม่เคยสูญเปล่า แม้จะถูกทิ้งให้เผชิญโชคชะตาเพียงลำพัง
มีนิทานชาดกเรื่องหนึ่ง เล่าถึงพ่อค้าสองคนที่เคยช่วยเหลือและให้คำมั่นต่อกัน แต่เมื่อความยากจนกลับมาถึงตัว พวกเขากลับพบว่า การรักษาคำพูดและความยุติธรรมคือสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ กับนิทานชาดกเรื่องความยุติธรรมมีอยู่จริง

เนื้อเรื่องนิทานชาดกเรื่องความยุติธรรมมีอยู่จริง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในเมืองหนึ่ง มีพ่อค้าสองคนเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ยังหนุ่ม พวกเขาทำการค้าร่วมกัน แบ่งผลประโยชน์อย่างซื่อสัตย์ และไม่เคยเอาเปรียบกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว
วันหนึ่ง หนึ่งในสองประสบปัญหาทางการค้า เขาสูญเสียสินค้าทั้งหมดจากอุบัติเหตุทางเรือ ไม่เหลือทรัพย์ติดตัวแม้แต่เหรียญเดียว เขาเดินทางไปหาเพื่อนที่ยังมั่งมี แล้วกล่าวด้วยความอับจน “ข้าเหลือแค่มือเปล่า หากเจ้ายังเห็นข้าเป็นเพื่อน ข้าขอพึ่งเจ้าเพียงสักครั้ง”
อีกฝ่ายเมื่อได้ยินดังนั้น ก็มิได้ถามหาสาเหตุหรือซักไซ้ใด ๆ เขาเพียงพยักหน้า แล้วแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้ทันทีโดยไม่ลังเล “เจ้าคือเพื่อนของข้า หากข้าอยู่ได้ เจ้าก็ต้องอยู่ได้”
ชายที่ได้รับความช่วยเหลือซาบซึ้งใจมาก เขากล่าวอย่างหนักแน่น “วันหนึ่งหากเจ้าตกที่นั่งเดียวกัน ข้าจะไม่ลังเลที่จะช่วยเจ้าเช่นกัน”
เวลาผ่านไปหลายปี พ่อค้าที่เคยลำบากคนนั้นกลับเจริญรุ่งเรือง ทรัพย์สินเพิ่มพูนจนกลายเป็นหนึ่งในพ่อค้าที่ร่ำรวยที่สุดในเมือง
แต่โชคชะตาก็เล่นตลกกับอีกคนหนึ่ง เขาค่อย ๆ สูญเสียทุกอย่างจากภัยพิบัติและการค้าผิดพลาด จนกระทั่งเหลือเพียงบ้านหลังเล็กและคนรับใช้ไม่กี่คน เขาจำได้ดีว่าเคยช่วยใครไว้ในยามทุกข์ เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปหาเพื่อนเก่าของตนด้วยความหวัง
เมื่อพบกัน เขายกมือไหว้และเอ่ยอย่างสุภาพ “เจ้าคงจำได้ ว่าวันหนึ่งข้าเคยช่วยเจ้าไว้ยามลำบาก วันนี้ข้าเองที่ต้องขอพึ่งบ้าง”
อีกฝ่ายนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ “ข้าจำได้ แต่วันนี้สถานการณ์มันต่างกัน ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้”
เพื่อนเก่ารู้สึกเหมือนถูกตัดขาดอย่างไม่มีเยื่อใย เขาไม่ตอบโต้ ไม่ด่าว่า เพียงแต่เดินจากไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีคำพูดใดเพิ่มเติม

หลังกลับมาถึงบ้าน พ่อค้าที่เคยช่วยเหลือเพื่อนนั่งเงียบอยู่นาน เขาไม่ได้เสียใจเพราะความจน แต่เจ็บใจเพราะคำสัญญาที่อีกฝ่ายเคยให้ไว้กลับไม่มีความหมาย
คนรับใช้ผู้หนึ่งที่อยู่กับเขามานานได้ยินเรื่องทั้งหมด เขาจึงกล่าวขึ้น “นายท่านเคยให้เขาครึ่งหนึ่งของทุกสิ่งโดยไม่ลังเล แต่ตอนนี้เขากลับปฏิเสธแม้คำพูดเดียว นี่ไม่ยุติธรรมเลย”
พ่อค้าไม่กล่าวอะไรเพิ่มเติม แต่คนรับใช้กลับตัดสินใจทำสิ่งหนึ่งโดยไม่รอคำอนุญาต เขาเดินทางไปยังวังหลวงและขอเข้าเฝ้ากษัตริย์
เมื่อได้เข้าเฝ้า คนรับใช้เล่าเรื่องทั้งหมดต่อหน้าพระพักตร์กษัตริย์ เขาไม่ได้กล่าวร้ายใคร เพียงเล่าเหตุการณ์ตามความจริง ตั้งแต่วันที่นายของเขาเคยช่วยเพื่อน ไปจนถึงวันที่ถูกปฏิเสธ
กษัตริย์รับฟังอย่างเงียบ ๆ แล้วตรัสกับมหาดเล็กข้างพระองค์ว่า “จงเชิญพ่อค้าทั้งสองมาพบเราโดยเร็ว”
ไม่นาน ทั้งคู่ก็ยืนอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ พระองค์มองชายที่ร่ำรวยในวันนี้ แล้วตรัสด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เมื่อครั้งเจ้าตกต่ำ เจ้ารับความช่วยเหลือครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินจากเพื่อนของเจ้า เจ้าก็กล่าวว่าจะช่วยคืนหากวันหนึ่งเขาลำบาก เช่นนั้นวันนี้เจ้าควรทำสิ่งเดียวกัน”
พ่อค้าที่ร่ำรวยไม่อาจปฏิเสธ พระองค์จึงมีพระบัญชาให้เขาแบ่งทรัพย์สินของตนครึ่งหนึ่งคืนแก่เพื่อนเก่า
เมื่อการตัดสินสิ้นสุด ทุกคนเงียบ ไม่มีผู้ใดโต้แย้ง เพราะไม่มีอะไรจะพูดได้มากไปกว่าความยุติธรรมที่ชัดเจนตรงหน้า

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ความยุติธรรมอาจไม่เกิดขึ้นทันที แต่เมื่อเวลามาถึง มันจะปรากฏชัดในวันที่คนไม่คาดคิด และไม่มีใครสามารถหลบเลี่ยงได้
ชายผู้เคยได้รับความช่วยเหลือแต่กลับปฏิเสธจะตอบแทนในยามจำเป็น สุดท้ายก็ไม่อาจหลีกหนีการชดใช้ เพราะผู้มีปัญญาย่อมรู้ว่า การตอบแทนคุณ คือสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้โดยชอบธรรม
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานชาดกเรื่องความยุติธรรมมีอยู่จริง (อังกฤษ: Justice is Served) นิทานเรื่องนี้จัดอยู่ในหมวดมนุษยชาดก หรือชาดกที่พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นมนุษย์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของใจคนเมื่อมีอำนาจและทรัพย์สินอยู่ในมือ และการดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมของผู้ปกครองบ้านเมือง
พระพุทธองค์ทรงเล่าเรื่องนี้ขึ้นเมื่อภิกษุรูปหนึ่งถูกวิจารณ์ว่าไม่ช่วยเหลือผู้ที่เคยให้ความช่วยเหลือตนมาก่อน พระองค์จึงตรัสเล่าถึงพ่อค้าคนหนึ่งในอดีต ที่เคยยื่นมือช่วยเพื่อนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่เมื่อเขาเดือดร้อนกลับไม่ได้รับแม้เพียงคำปลอบใจ จนกระทั่งมีผู้ทูลเรื่องต่อกษัตริย์ และความยุติธรรมจึงได้ปรากฏขึ้น
ชาดกเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า แม้ความดีอาจถูกลืมในใจคนบางคน แต่ผู้มีธรรมเป็นที่พึ่งย่อมฟื้นฟูความถูกต้องให้กลับมาเสมอ
คติธรรม: “ความยุติธรรมจะปรากฏเมื่อถึงเวลา แม้คนที่เคยให้ความช่วยเหลือกลับไม่ได้รับการตอบแทน ก็ย่อมได้รับการชดเชยจากการกระทำของตนเองในที่สุด”