บนโลกนี้ การแสดงความเคารพต่อผู้อื่นไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความตั้งใจของเรา แต่ยังบ่งบอกถึงความเข้าใจในคุณค่าของสิ่งที่เรากำลังให้เกียรติ อย่างไรก็ตาม การกระทำที่ดูเหมือนจะยกย่อง หากปราศจากความจริงใจ อาจถูกมองว่าเป็นการลบหลู่มากกว่าการให้เกียรติ
เช่นเดียวกับเรื่องราวของเทพเฮอร์มีส ผู้ต้องเผชิญกับการแสดงความเคารพที่แปลกประหลาดจากสุนัขเจ้าเล่ห์ เรื่องราวนี้จะพาเราไปเรียนรู้ถึงความสำคัญของความจริงใจและการกระทำที่เหมาะสมกับนิทานอีสปเรื่องเทพเฮอร์มีสกับสุนัข
เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องเทพเฮอร์มีสกับสุนัข
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ริมถนนสายหนึ่งที่พลุกพล่านในเมืองใหญ่ มีรูปปั้นของเทพเฮอร์มีสตั้งตระหง่านอยู่ เป็นรูปปั้นสี่ด้านที่งดงาม ประดับประดาด้วยลวดลายอันประณีต ฐานของรูปปั้นเต็มไปด้วยกองหินที่ผู้คนผ่านไปมาต่างวางไว้เพื่อแสดงความเคารพต่อเทพเจ้าเฮอร์มีส เทพแห่งการค้า การเดินทาง และกีฬา ผู้เป็นผู้นำสารของเหล่าเทพ
วันหนึ่ง สุนัขจรจัดตัวหนึ่งเดินผ่านมาทางนั้น มันเป็นสุนัขที่คุ้นชินกับการเร่ร่อนในเมือง มันหยุดยืนมองรูปปั้นด้วยสายตาที่ปนเปไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความเจ้าเล่ห์ มันเดินวนรอบรูปปั้นพลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนจริงใจ “โอ้ เฮอร์มีส ผู้ยิ่งใหญ่ ข้าขอคารวะท่าน! ในฐานะเทพแห่งกีฬาและการเดินทาง ผู้เป็นที่พึ่งของนักเดินทางและพ่อค้า ข้าคงไม่อาจปล่อยผ่านไปโดยไม่แสดงความเคารพต่อท่านได้”
มันหยุดยืนตรงหน้าฐานรูปปั้น มองดูหินที่กองอยู่ และพูดขึ้นอีกว่า “ท่านคงภูมิใจที่ได้รับการยกย่องจากผู้คนมากมายเช่นนี้ ดังนั้น ข้าคิดว่าข้าควรจะทำบางสิ่งเพื่อเพิ่มเกียรติให้แก่ท่าน”
มันหันมองซ้ายมองขวา จากนั้นจึงกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ “และเพื่อให้เกียรติอย่างยิ่ง ข้าจะใช้น้ำมันอันเป็นเอกลักษณ์ของข้าทาให้ท่านเอง!”
ในความเป็นจริง สิ่งที่มันหมายถึงคือการปัสสาวะใส่รูปปั้นเพื่อแสดงอาณาเขตของมันเอง
เทพเฮอร์มีสซึ่งสถิตอยู่ในรูปปั้น มองพฤติกรรมของสุนัขด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่ง เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เจ้าสุนัขเอ๋ย หากเจ้าต้องการให้เกียรติข้าจริง ๆ สิ่งเดียวที่ข้าขอคืออย่าใช้น้ำมันของเจ้าปัสสาวะใส่ข้า เพียงเท่านี้ข้าก็จะขอบคุณเจ้าอย่างสุดซึ้งแล้ว ไม่จำเป็นต้องแสดงความเคารพด้วยวิธีที่ข้ารังเกียจเช่นนี้!”
สุนัขชะงักไปชั่วครู่ แต่แทนที่จะรู้สึกสำนึกผิด มันกลับหัวเราะเบา ๆ และตอบด้วยน้ำเสียงยียวน “โอ้ ท่านเทพ ข้าเพียงแต่ต้องการแสดงความเคารพในแบบของข้าเอง ทำไมท่านถึงต้องจริงจังนักเล่า? น้ำมันของข้าอาจไม่เลิศหรู แต่ข้าก็ใช้มันอย่างตั้งใจ”
เฮอร์มีสถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เจ้าคิดว่าการกระทำของเจ้าคือความตั้งใจที่ดีหรือ? ความเคารพที่แท้จริงต้องมาจากความจริงใจและเหมาะสม หากเจ้าไม่มีสิ่งเหล่านั้น ก็อย่าทำอะไรเลยจะดีกว่า”
สุนัขมองเฮอร์มีสด้วยความไม่ใส่ใจ มันสะบัดหางและเดินจากไป ราวกับไม่เข้าใจหรือไม่สนใจคำตำหนิของเทพเจ้า
เฮอร์มีสมองดูสุนัขที่เดินลับไป เขาเพียงส่ายหัวและพูดกับตัวเอง “นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่าความเคารพปลอม ๆ การแสดงออกเช่นนี้ไม่เพียงแต่ไร้ค่า แต่ยังสร้างความไม่พอใจมากกว่าความชื่นชม”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การแสดงความเคารพหรือให้เกียรติผู้อื่น ควรเกิดจากความตั้งใจที่แท้จริงและความเหมาะสมในสถานการณ์ การกระทำที่ดูเหมือนยกย่องแต่ขาดความจริงใจ หรือเป็นเพียงการกระทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว อาจทำให้ผู้อื่นไม่เพียงไม่รู้สึกซาบซึ้ง แต่ยังอาจมองว่าเป็นการดูหมิ่นหรือไม่ให้เกียรติอย่างแท้จริง ความเคารพที่มีคุณค่าไม่ได้อยู่ที่คำพูดหรือการกระทำที่ฉาบฉวย แต่อยู่ที่ความตั้งใจจริงและเจตนาดีที่แฝงอยู่ในสิ่งที่เราทำ
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องเทพเฮอร์มีสกับสุนัข (อังกฤษ: Hermes and the dog) เป็นนิทานอีสปเรื่องหนึ่ง นิทานเรื่องนี้ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 308 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) และถือเป็นตัวอย่างอารมณ์ขันแบบสแกตาลอจิกของกรีกอย่างกว้างขวาง มีฉบับที่เขียนเป็นกลอนโดยนักกวีชาวกรีกชื่อ Babrius แต่ดูเหมือนว่าบันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษรจะไม่ถูกสืบต่อไปหลังจากนั้น นักแปลชาววิกตอเรียน Rev. John Davies ได้ละเว้นนิทานเรื่องนี้จากผลงานแปลของเขา Fables of Babrius (1860) แม้ว่าจะไม่มีอะไรเป็นอันตรายในเรื่องนี้ก็ตาม
นิทานกล่าวถึงสุนัขตัวหนึ่งที่มีจิตใจศรัทธา มันคารวะเทพเจ้าเฮอร์มีสที่อยู่ในรูปของเฮอร์มีส ซึ่งเป็นรูปปั้นสี่เหลี่ยมที่ใช้ในการกำหนดเขตแดนหรือสถานที่ระหว่างทาง เมื่อสุนัขประกาศว่าจะเจิมน้ำมัน(ปัสสาวะ)แก่เทพเจ้าเฮอร์มีส เฮอร์มีสก็รีบวิงวอนขอให้มันอย่าทำเช่นนั้น และย้ำว่าไม่จำเป็นต้องได้รับเกียรติไปมากกว่านี้แล้ว
การแสดงความเคารพหรือให้เกียรติใครสักคน ควรทำด้วยความจริงใจและความเหมาะสม การกระทำที่ดูเหมือนยกย่องแต่ปราศจากความตั้งใจที่ดี ย่อมไม่ได้รับการยอมรับและอาจสร้างความขุ่นเคืองแทน