ปกนิทานชาดกเรื่องทายชื่อให้ถูก

นิทานชาดกเรื่องทายชื่อให้ถูก

ในโลกที่เต็มไปด้วยปริศนาและความไม่แน่นอน บางครั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ความรู้ที่รวดเร็ว แต่คือความเพียรพยายามในการค้นหาความจริงอย่างไม่ย่อท้อ การยืนหยัดด้วยสติและความตั้งใจมั่น ย่อมนำพาผู้คนให้ก้าวข้ามอุปสรรคทั้งหลายไปได้

มีนิทานชาดกเรื่องหนึ่ง เล่าถึงบททดสอบที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความงดงาม และการเดินทางอันยาวนานของผู้ที่ไม่ยอมแพ้ต่อความสงสัย เพื่อค้นพบคำตอบที่รอคอยอย่างสงบนิ่ง ด้วยศรัทธาและความอดทนอันไม่หวั่นไหว กับนิทานชาดกเรื่องทายชื่อให้ถูก

ภาพประกอบนิทานชาดกเรื่องทายชื่อให้ถูก

เนื้อเรื่องนิทานชาดกเรื่องทายชื่อให้ถูก

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ริมฝั่งสระน้ำใหญ่กลางป่าอันสงบร่มรื่น มีฤๅษีผู้หนึ่งกำลังเดินเก็บสมุนไพรตามปกติ ทันใดนั้นสายตาของเขาก็สะดุดเข้ากับดอกบัวดอกหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ผิดธรรมดา

สีของกลีบบัวเปล่งปลั่งราวกับอัญมณีล้ำค่า ฤๅษีขมวดคิ้วด้วยความสงสัย พลางคิดในใจว่า “เหตุใดดอกบัวนี้จึงงอกงามผิดจากธรรมชาติเช่นนี้?”

ด้วยความอยากรู้ ฤๅษีจึงเดินเข้าไปใกล้ แล้วค่อย ๆ แหวกกลีบบัวออกดู สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้เขาตกตะลึง

เพราะภายในนั้นมีทารกน้อยเพศหญิงนอนหลับสนิท ใบหน้าขาวนวลราวกับกลีบบัว บรรยากาศรอบสระเหมือนหยุดนิ่งลงชั่วขณะ

ฤๅษีอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาด้วยความเอ็นดู ตั้งจิตอธิษฐานในใจว่าจะเลี้ยงดูนางดุจบุตรแท้ ๆ และตั้งชื่อให้นางว่า “อสงขะ” ซึ่งแปลว่า “ความสงสัย” เพื่อระลึกถึงความรู้สึกแรกที่พบกับนางในดอกบัวนั้น

กาลเวลาผ่านไป เด็กหญิงผู้ถือกำเนิดจากดอกบัวเติบโตขึ้นมาอย่างงดงามเหนือหญิงใด ๆ ในแว่นแคว้น เสน่ห์ของนางแพร่ขจรไปไกลจนเลื่องลือไปถึงพระราชาผู้ครองเมืองใหญ่

พระราชาได้ยินเรื่องความงามของนาง ก็เกิดความปรารถนาใคร่พบตัวด้วยตนเอง

พระราชาเสด็จมายังอาศรมของฤๅษีด้วยความเคารพ เมื่อได้พบหญิงสาวก็ประจักษ์แจ้งในความงามอันเหนือคำร่ำลือ

จึงกราบทูลฤๅษีด้วยความนอบน้อมว่า “ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอโปรดอนุญาตให้หม่อมฉันรับบุตรีของท่านเป็นมเหสีด้วยเถิด”

ฤๅษียิ้มอย่างเมตตา แล้วกล่าวขึ้นว่า “ถ้าท่านสามารถทายชื่อของนางได้ถูกต้อง ข้าจักยกนางให้โดยไม่ขัดข้อง”

พระราชาตกลงรับคำท้าโดยไม่ลังเล แต่หาได้รู้เลยว่าการทายชื่อนางนั้น จะกลายเป็นบททดสอบที่ยาวนานยิ่งกว่าที่เขาคาดคิด

ภาพประกอบนิทานชาดกเรื่องทายชื่อให้ถูก 2

นับแต่นั้นมา พระราชาก็มิอาจวางใจจากความคิดถึงหญิงสาวได้เลย ตลอดทั้งวันทั้งคืน พระองค์เฝ้าครุ่นคิดถึงนามอันลึกลับนั้น แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าใด ก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่านางมีชื่อว่าอะไร

วันหนึ่ง ขณะหญิงสาวกำลังตักน้ำริมสระ พระราชาได้แอบเข้าไปพูดคุยอย่างสุภาพ นางยิ้มบาง ๆ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา “ชื่อของข้าเกี่ยวข้องกับสิ่งที่บิดาข้ารู้สึกในครั้งแรกที่พบข้า”

พระราชาได้ยินดังนั้นก็ขบคิดหนัก แต่ก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ถ่องแท้ ยิ่งเวลาผ่านไป

พระองค์ยิ่งถวิลหานางจนจิตใจหม่นหมอง ทุกค่ำคืน พระองค์นั่งทอดถอนใจใต้แสงจันทร์ ครุ่นคิดถึงคำใบ้นั้นไม่เว้นว่าง

ปีเดือนล่วงเลยผ่านไป ดอกไม้ผลิบานแล้วโรยรา นับครั้งไม่ถ้วน พระราชายังคงตั้งมั่นไม่ย่อท้อ

วันหนึ่ง เมื่อพระองค์ได้พบหญิงสาวอีกครั้ง นางก็ยิ้มอ่อนโยนแล้วกระซิบว่า “สิ่งที่บิดาข้ามีในใจครั้งแรกที่พบข้า คือสิ่งที่ยังไม่แน่นอน…”

คราวนี้พระราชาเหมือนตื่นจากความฝัน ทรงเข้าใจความหมายทันที

พระองค์จึงรีบรุดไปยังอาศรมของฤๅษี แล้วกล่าวด้วยเสียงเปี่ยมด้วยความยินดี “ข้าขอทายว่านามของนางคือ อสงขะ ซึ่งหมายถึงความสงสัย”

ฤๅษียิ้มอย่างพอใจ พยักหน้าเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “ท่านทายถูกต้องแล้ว ขอให้นางเป็นคู่ชีวิตของท่านตามสัญญา”

ด้วยเหตุนั้น พระราชาและหญิงสาวจึงได้ครองคู่กันด้วยความสุขสืบไป และเรื่องราวแห่งความเพียรพยายามผสานกับความอดทนก็บังเกิดผลดังที่ตั้งใจไว้

ภาพประกอบนิทานชาดกเรื่องทายชื่อให้ถูก 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ความเพียรพยายามและความตั้งใจแน่วแน่ แม้ต้องเผชิญกับความไม่รู้หรือความไม่แน่นอน ก็ย่อมนำไปสู่ความสำเร็จในที่สุด ผู้ที่มีความอดทนและไม่ละทิ้งเป้าหมาย ย่อมสามารถก้าวข้ามอุปสรรคและคว้าสิ่งที่ปรารถนาด้วยจิตใจที่มั่นคง

เช่นเดียวกับพระราชา ผู้ไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบากในการค้นหาความจริง และด้วยความอุตสาหะและศรัทธา จึงได้รับพรแห่งชีวิตสมดังที่ตั้งใจไว้

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานชาดกเรื่องทายชื่อให้ถูก (อังกฤษ: Guessing the Name) ถูกจัดอยู่ในหมวดมนุษยชาดก หรือชาดกที่พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นมนุษย์ ซึ่งเน้นการสั่งสมบารมีผ่านความเพียรพยายามและความอดทนในเส้นทางแห่งการบรรลุเป้าหมาย

พระพุทธองค์ทรงเล่าเรื่องนี้ขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นว่า ความเพียรที่ไม่ท้อถอย แม้จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและบททดสอบที่ยาวนาน ก็ย่อมนำไปสู่ผลสำเร็จในที่สุด ดุจพระราชาผู้ตั้งใจค้นหาคำตอบด้วยความอดกลั้นและสติ จนได้รับพรตามที่ปรารถนา

ชาดกเรื่องนี้จึงสอนให้เห็นว่า ความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่ได้มาโดยง่าย แต่เกิดจากความพยายามอันสม่ำเสมอ และการไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด ๆ

“ผู้ไม่ท้อถอยแม้ในความมืดมนแห่งความไม่รู้ ย่อมเป็นผู้ได้พบแสงสว่างแห่งความสำเร็จในที่สุด”


by