ในโลกที่เปี่ยมไปด้วยบททดสอบของชีวิต สิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่การเผชิญหน้ากับอุปสรรค แต่คือการรักษาจิตใจให้คงอยู่ในความสงบและเมตตา แม้ในยามที่ต้องสูญเสียหรือถูกเบียดเบียน การอดทนและให้อภัยจึงเป็นดั่งแสงสว่างที่มิอาจดับได้
มีนิทานชาดกเรื่องหนึ่ง เล่าถึงกลุ่มฤๅษีผู้บำเพ็ญเพียรกลางป่าใหญ่ ผู้ซึ่งต้องเผชิญกับบททดสอบอันละเอียดลึกซึ้งจากพระเจ้า เพื่อพิสูจน์ว่าจิตใจที่แท้จริงนั้นจะยังคงเปล่งประกายอยู่ได้ แม้ในยามที่โลกทั้งใบดูเหมือนจะหันหลังให้ กับนิทานชาดกเรื่องพระเจ้าทดสอบเหล่าฤาษี

เนื้อเรื่องนิทานชาดกเรื่องพระเจ้าทดสอบเหล่าฤาษี
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพี่น้องแปดคน พี่ชายคนโตมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด สามารถศึกษาพระเวทและคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจนแตกฉาน
ชื่อเสียงแห่งความรู้กว้างขวางของเขาแผ่ไพศาลไปไกล จนเป็นที่เคารพสักการะในหมู่ชนทั้งหลาย
เมื่อพิจารณาถึงสรรพสิ่งในโลกว่าล้วนไม่เที่ยงแท้ เขาจึงตัดสินใจละทิ้งทางโลก ออกบวชเป็นฤๅษีอาศัยอยู่ในป่าใหญ่
พี่น้องทั้งเจ็ดต่างเห็นตามและพร้อมใจกันออกบวชตามเขาไป พวกเขาสร้างกระท่อมเล็ก ๆ อาศัยอยู่ในป่าลึก เคร่งครัดในศีล สมาธิ และปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง
อาหารของพวกเขาเรียบง่ายยิ่งนัก คือรากบัวที่เก็บได้จากหนองน้ำในป่า แต่แม้จะมีเพียงอาหารหยาบ ๆ และชีวิตเรียบง่าย
พวกเขาก็เปี่ยมสุขในธรรมะ และชื่อเสียงแห่งการบำเพ็ญเพียรของพวกเขาก็แพร่ไปถึงสวรรค์เบื้องบน
ข่าวเรื่องฤๅษีแปดพี่น้องผู้เคร่งครัดไปถึงพระเจ้าผู้สถิตอยู่ในสวรรค์ พระองค์ทรงปรารถนาจะทดสอบจิตใจของพวกเขาว่าจะหนักแน่นเพียงใด
เมื่อได้เวลาที่ฤๅษีทั้งหลายรวบรวมรากบัวมาเตรียมแบ่งปันกัน พระองค์จึงเนรมิตให้รากบัวของพี่ชายคนโตหายไปเสีย
พี่ชายคนโตเห็นว่ารากบัวที่ตนเองวางไว้ได้หายไป แต่เขาไม่กล่าวโทษผู้ใด ไม่แสดงความโกรธหรือแม้แต่เอ่ยปากติฉินนินทา เขานั่งสงบต่อไป ราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
พระเจ้าทรงเนรมิตเหตุการณ์ซ้ำเช่นนี้ติดต่อกันถึงสี่วัน รากบัวของพี่ชายคนโตหายไปทุกครั้ง แต่เขาก็ไม่ปริปากว่ากล่าวหรือแสดงความไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย
ร่างกายของเขาค่อย ๆ อ่อนแรงลง แต่จิตใจยังมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง

ในวันที่ห้า เมื่อฤๅษีทั้งหลายกำลังจัดเตรียมอาหารตามปกติ น้อง ๆ เหลือบเห็นว่าพี่ชายคนโตดูซูบผอม อ่อนแรงกว่าทุกวัน พวกเขาจึงเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง
“พี่ชายเอ๋ย เหตุไฉนจึงดูอ่อนล้าเช่นนี้ ท่านมิได้เสวยอาหารหรือ?” น้องคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
พี่ชายคนโตยิ้มบาง ๆ แล้วกล่าวอย่างสงบ “เมื่อสี่วันที่ผ่านมา อาหารของข้าได้หายไปเสียทุกครั้ง ข้าเห็นเช่นนั้นก็เพียงยอมรับในเหตุการณ์ ไม่โกรธ ไม่ก่นด่า ไม่คร่ำครวญ เพราะทุกสิ่งย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัย”
เหล่าน้อง ๆ ได้ยินดังนั้น ก็พลันเกิดความเลื่อมใสในความอดทนและใจบริสุทธิ์ของพี่ชาย แต่แทนที่จะโกรธเคืองผู้ลักขโมย พวกเขากลับพร้อมใจกันตั้งจิตอธิษฐานอย่างสงบ
“ขอให้ผู้ที่เอาอาหารไป จงมีความสุข ความเจริญในชีวิต ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าเถิด” เหล่าฤๅษีพี่น้องต่างสวดอธิษฐานด้วยใจบริสุทธิ์
พระเจ้าผู้เฝ้ามองการทดสอบอย่างเงียบ ๆ พลันรู้สึกปลาบปลื้มยิ่งนัก พระองค์เห็นความบริสุทธิ์ใจ ความอดทน และความปรารถนาดีที่ปราศจากการถือโทษโกรธเคืองในหมู่ฤๅษีเหล่านี้
พระองค์จึงเสด็จลงมาในร่างอันงดงาม และกล่าวแก่ฤๅษีทั้งหลายด้วยพระสุรเสียงเปี่ยมเมตตา “พวกท่านมีจิตใจอันประเสริฐเกินกว่าที่ข้าจะทดสอบอีกต่อไป ขอให้พวกท่านเจริญรุ่งเรืองในธรรม เฉกเช่นดวงจันทร์ที่ส่องสว่างในราตรีอันมืดมิด”
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เหล่าฤๅษีทั้งแปดพี่น้องก็เป็นที่เคารพนับถือของทั้งมนุษย์และเทพยดา ตราบจนวันสุดท้ายแห่งชีวิต

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ความอดทนและจิตใจที่เปี่ยมด้วยเมตตา ย่อมนำมาซึ่งความเจริญทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ผู้ที่สามารถระงับความโกรธและตอบแทนความล่วงเกินด้วยความปรารถนาดี ย่อมเป็นผู้สูงส่งเกินกว่าที่ภัยพิบัติใดจะแตะต้องได้
ดั่งเหล่าฤๅษีผู้ไม่ถือโทษโกรธเคืองต่อความสูญเสีย แต่กลับแผ่เมตตาต่อผู้ลักขโมย ส่งผลให้ได้รับพรจากพระเจ้า และเป็นที่เคารพทั้งในหมู่มนุษย์และเทวดา
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานชาดกเรื่องพระเจ้าทดสอบเหล่าฤาษี (อังกฤษ: God Tests the Ascetics) จัดอยู่ในหมวดมนุษยชาดก หรือชาดกที่พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นมนุษย์ ซึ่งเน้นการสั่งสมบารมีผ่านคุณธรรมของการอดทนและการแผ่เมตตา
พระพุทธองค์ทรงเล่าเรื่องนี้ขึ้น เมื่อมีภิกษุรูปหนึ่งสอบถามถึงอานิสงส์ของการอดกลั้นและไม่โกรธตอบในยามถูกเบียดเบียน พระองค์จึงตรัสเล่าเรื่องฤๅษีพี่น้องแปดรูป ผู้ถูกทดสอบโดยพระเจ้า แต่ไม่แม้แต่จะโกรธหรือกล่าวโทษ กลับตั้งจิตอธิษฐานขอให้ผู้เบียดเบียนเจริญรุ่งเรือง
และแม้ในสายตาแห่งเทพผู้มีฤทธิ์ ยังต้องยกย่องบูชาจิตใจอันเปี่ยมด้วยเมตตาและความอดทนของมนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง
ชาดกเรื่องนี้จึงสอนให้เห็นว่า ความอดทนที่ประกอบด้วยเมตตา มิได้เพียงแต่ทำให้จิตใจสงบ แต่ยังนำมาซึ่งความเคารพนับถือ และพรอันประเสริฐจากสวรรค์
“ผู้ที่มีเมตตาแม้ในยามถูกเบียดเบียน ย่อมเป็นผู้สูงส่งเกินกว่ากรรมใดจะเอาชนะได้”