ในโลกของเซน การเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ที่การแก้ไข แต่คือการยอมรับอย่างเงียบสงบและปล่อยวาง การยอมรับความผิดไม่ใช่การยอมจำนน แต่คือการเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ยึดติด
มีนิทานเซนเรื่องหนึ่งที่สะท้อนถึงการยอมรับความผิดอย่างมีสติและการปล่อยวาง นั่นคือเรื่องของการยอมรับผิด ซึ่งแสดงถึงการยอมรับอย่างเงียบ ๆ และการปล่อยวาง กับนิทานเซนเรื่องการยอมรับความผิด

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องการยอมรับความผิด
ในวัดโซโตเซนที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง อาจารย์ฟูไกและศิษย์ของท่านกำลังเตรียมอาหารเย็นในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังรอคอยกันอย่างเงียบ ๆ แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น
ศิษย์ผู้หนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นแม่ครัวกำลังรีบร้อนทำอาหารให้ทันเวลา เขาจึงวิ่งไปที่สวนเพื่อเก็บผักสด ๆ ตามที่กำหนดไว้สำหรับมื้อเย็น โดยใช้มีดงอ ๆ ตัดยอดผักจากต้นอย่างรีบเร่ง พอได้ผักมาก็หั่นมันรวมกันแล้วทำซุปใส่ลงไปในหม้ออย่างรวดเร็ว
ในความรีบร้อนนั้น เขาไม่ได้สังเกตว่าเขาได้ตัดเอาหัวงูที่หลบซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ในสวนและใส่ลงไปในซุปโดยไม่ตั้งใจ
เมื่อซุปเสร็จ ทุกคนที่มารับประทานต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “ซุปนี้อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา!” พวกเขามีความสุขกับรสชาติที่ดีเกินคาด ทุกคนพากันชมว่ามันรสเลิศและทำให้มื้อนี้พิเศษมาก
แต่เมื่ออาจารย์ฟูไกได้ตักซุปของตัวเองขึ้น เขากลับพบหัวงูอยู่ในชามของตนเอง ท่านยกขึ้นมาดูและมองไปที่ศิษย์ที่ทำอาหารอย่างสงบ
อาจารย์ฟูไกมองหัวงูในมือและเรียกศิษย์ผู้ทำอาหารมาหา “เจ้าจะอธิบายสิ่งนี้อย่างไร?” ท่านถามพร้อมยกหัวงูขึ้นให้เห็นอย่างชัดเจน
ศิษย์ผู้ทำอาหารตกใจและรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นในกระบวนการทำอาหาร แต่เขากลับไม่ได้พยายามแก้ตัวหรือกล่าวหาว่ามันเป็นความผิดพลาดจากใคร ท่านพูดด้วยเสียงที่สงบ “ขอบคุณครับท่านอาจารย์”
ท่านทันทีทานหัวงูในมือของอาจารย์ที่ถือไว้ให้ท่านโดยไม่ลังเล ไม่พูดอะไรเพิ่มเติม และทานมันไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความเงียบงันที่เกิดขึ้นในห้อง
ศิษย์ทุกคนในห้องมองการกระทำของเขาด้วยความประหลาดใจและสงสัยว่า “ทำไมท่านไม่ปฏิเสธหรืออธิบายเหตุผลของการกระทำของท่าน?” แต่ทุกอย่างก็ยังคงเงียบสงบ ไม่มีใครพูดอะไรเพิ่มเติม

หลังจากที่ศิษย์ผู้ทำอาหารได้ทานหัวงูในมือของอาจารย์ ฟูไก ก็กลับนั่งลงอย่างสงบเช่นเดิม ไม่มีเสียงอะไรดังขึ้นในห้อง ทุกคนในห้องมองท่านอย่างเงียบ ๆ และบางคนก็รู้สึกได้ถึงความตึงเครียดที่ยังคงอยู่ในอากาศ
แต่สิ่งที่ท่านฟูไกทำกลับไม่ได้สร้างความตึงเครียดหรือความวิตกกังวลเลย ในความเงียบนี้ เขาเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยและพูดขึ้นว่า “เจ้าได้เรียนรู้แล้วว่าการยอมรับความผิดไม่ได้หมายถึงการหลบหนีจากมัน แต่มันคือการยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น”
ท่านอาจารย์พูดเบา ๆ แต่คำพูดของท่านกลับมีพลังที่ซึมลึกไปในใจของศิษย์ทุกคน ทุกคนไม่ต้องการคำอธิบายมากมายหรือคำขอโทษใด ๆ เพียงแค่การยอมรับอย่างเงียบ ๆ ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
การกระทำของศิษย์ผู้ทำอาหารไม่ได้เป็นเพียงแค่การยอมรับความผิด แต่เป็นการแสดงออกถึงความนิ่งสงบและไม่ยึดติดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ในช่วงเวลาที่ท่านอาจารย์ฟูไกยังคงนั่งอยู่ในความเงียบ ศิษย์ทุกคนเริ่มเข้าใจบทเรียนที่ท่านพยายามจะสอน พวกเขารู้ว่าในชีวิต เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความผิดพลาดหรือความไม่สมบูรณ์แบบได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการยอมรับและเติบโตจากมัน
อาจารย์ฟูไกมองไปที่ศิษย์และกล่าวว่า “การยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ คือการเปิดใจให้กับความจริงแท้ของชีวิต มันไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายหรือการขอโทษ แต่ต้องมีการเข้าใจในสิ่งที่เราเป็นและสิ่งที่เราทำ”
หลังจากนั้น ทุกคนในห้องเริ่มรู้สึกสงบลง ทุกสิ่งกลับคืนสู่สภาพเดิม ศิษย์ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นและเรียนรู้ว่าการยอมรับความผิดไม่ใช่การแสดงความอ่อนแอ แต่เป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของจิตใจ
การจากไปของศิษย์ผู้ทำอาหารไม่ได้สร้างความเศร้าโศกหรือความกลัวใด ๆ แต่กลับเป็นการเปิดประตูสู่ความเข้าใจและการปล่อยวางในชีวิต

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… การยอมรับความผิดไม่ใช่การหลีกหนีหรือแสดงความอ่อนแอ แต่คือการเผชิญหน้าและเติบโตจากสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง การปล่อยวางในความผิดพลาดทำให้เราเข้าใจถึงความเป็นจริงของชีวิตและการไม่ยึดติดกับมัน
ชศิษย์ผู้ทำอาหารไม่พยายามหาคำแก้ตัวหรือบ่ายเบี่ยงความผิด เขาเลือกที่จะยอมรับมันอย่างเงียบ ๆ ด้วยการทานหัวงูที่อาจารย์ยกให้ โดยไม่มีการโต้แย้งหรือหาคำอธิบาย ท่านฟูไกไม่โกรธหรือหาความผิดใด ๆ แต่กลับแสดงให้เห็นว่า การยอมรับความผิดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปล่อยวางและเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ
อ่านต่อ: รวมนิทานเซนสนุก ๆ สั้น ๆ สอนการปล่อยวางและความสงบตามหลักพุทธวิถีเซน
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเซนเรื่องการยอมรับความผิด (อังกฤษ: Eating the Blame) มีที่มาจากเรื่องเล่าของพระอาจารย์เซนฟูไก (Fukai) ผู้สอนในสายเซนโซโตในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าที่แสดงถึงการใช้ชีวิตตามหลักการของเซน การยอมรับความจริงในทุกสถานการณ์อย่างสงบ และการไม่ยึดติดกับความผิดพลาดหรือความไม่สมบูรณ์แบบในชีวิต.
เรื่องนี้เป็นตัวอย่างของการฝึกฝนและการใช้สติที่เซนสอน โดยไม่ยึดติดกับคำอธิบายหรือการปกปิดสิ่งที่เกิดขึ้น แต่การยอมรับมันอย่างตรงไปตรงมาและปล่อยวางอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องการคำแก้ตัวหรือคำขอโทษ.
นิทานเรื่องนี้ยังสะท้อนถึงแนวคิดของการฝึกจิตใจเซน ที่เน้นความเงียบสงบและการตื่นรู้ในปัจจุบันขณะ ทุกสิ่งในชีวิตไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดหรือสิ่งที่ไม่คาดคิด ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้และการเติบโตทางจิตใจ
คติธรรม: “การยอมรับความผิดไม่ใช่การหลบหนีจากมัน แต่คือการปล่อยวางและเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น โดยไม่ยึดติดกับมัน”