ในโลกที่เต็มไปด้วยตำแหน่งและเกียรติยศ เซนไม่ได้ถามว่าเราสูงส่งเพียงใด แต่ถามว่าเรามองเห็นผู้อื่นอย่างไร บางครั้ง ความเข้าใจธรรมไม่ได้เผยตัวในบทสวดหรือกระบี่ แต่ปรากฏผ่านการกระทำเงียบ ๆ ที่แลเห็นทุกผู้คนเป็นหนึ่งเดียวกันกับตนเอง
มีนิทานเซนเรื่องหนึ่ง เล่าถึงขุนนางผู้มีเพียงชุดเก่า และหัวใจที่มองเห็นประชาชนเป็น “บุตรแห่งพระองค์” กับนิทานเซนเรื่องบุตรแห่งพระองค์

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องบุตรแห่งพระองค์
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในรัชสมัยหนึ่งของญี่ปุ่น ยามาโอกะ เทสชู เป็นที่รู้จักทั้งในฐานะครูผู้สอนขององค์จักรพรรดิ ซามูไร และปรมาจารย์แห่งวิชาดาบ และผู้ฝึกเซนผู้มีกายหยาบดุจนักรบ แต่มีใจเบาดั่งสายลม
เขาอาศัยอยู่ในบ้านไม้เล็ก ๆ ริมเขตเมืองเก่า บ้านของเขามิใช่สถานที่อันเงียบสงบ หากแต่เป็นที่พึ่งของคนยากไร้ เด็กกำพร้า คนจรจัด และผู้หลงทางในชีวิต ผู้คนเรียกบ้านของเขาว่า “บ้านว่างเปล่า” เพราะแม้จะไม่มีทรัพย์สมบัติใด ๆ แต่กลับมีความอบอุ่นแทรกอยู่ในทุกมุม
เทสชูมีเสื้อเพียงชุดเดียว เสื้อผ้าฝ้ายสีจืดจาง ขาดตรงแขน ขึ้นขุยตรงไหล่ และเย็บซ่อมมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาไม่เคยแสดงความลำบาก เขาเดินหลังตรง พูดน้อย ยิ้มบาง และทำหน้าที่สอนทั้งดาบและธรรมะแก่ผู้มาเยือน
“ดาบคมที่สุด คือดาบที่ไม่ต้องชัก” เขาเคยกล่าวไว้เช่นนั้นกับศิษย์คนหนึ่งที่ถามถึงวิธีต่อสู้กับความยากจน
วันหนึ่ง ขณะเขาเข้าเฝ้าในวัง จักรพรรดิทรงทอดพระเนตรเห็นว่าเสื้อผ้าของเทสชูนั้นเก่ามากจนแทบจะขาดเป็นชิ้น ๆ พระองค์จึงตรัสขึ้นด้วยความเมตตา
“เทสชู… เหตุใดเจ้าจึงยังใส่เสื้อชุดเดิมเช่นนี้?”
เขาค้อมศีรษะลงเล็กน้อยอย่างเคารพ ไม่กล่าวสิ่งใด
ต่อมาจักรพรรดิทรงพระราชทานเงินก้อนหนึ่งให้เขาโดยไม่เอิกเกริก เป็นความตั้งใจเงียบ ๆ ให้ครูของพระองค์ได้มีเสื้อผ้าใหม่สมเกียรติแห่งความรู้
เทสชูรับเงินนั้นไว้ด้วยความสงบ วันถัดมาเขากลับมิได้เปลี่ยนแปลงอะไร
หลายวันต่อมา เขากลับเข้าวังอีกครั้งเพื่อถวายความเห็นในเรื่องบ้านเมือง แต่เมื่อจักรพรรดิทอดพระเนตร เขายังคงสวมเสื้อเก่าชุดเดิม รอยเย็บยังอยู่ รอยขาดยังไม่หาย
“เป็นอย่างไรบ้างกับเสื้อผ้าชุดใหม่ ยามาโอกะ” จักรพรรดิทรงถาม แต่กลับเห็นยามาโอะ เทสซูใส่ชุดเดิม
พระองค์จึงตรัสถามด้วยความแปลกใจ “เทสชู… ชุดใหม่ของเจ้าอยู่ที่ใดเล่า?”

ยามาโอกะนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนยกสายตาขึ้นสบพระเนตรขององค์จักรพรรดิ น้ำเสียงของเขานุ่มนวล แต่ออกมาด้วยความหนักแน่น
“ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ… ข้าพเจ้าได้นำเงินนั้นไปซื้อเสื้อผ้าให้แก่บุตรของพระองค์แล้ว”
จักรพรรดิทรงขมวดพระขนงเล็กน้อย พลางตรัสถามกลับ “บุตรของเรา? เรามิได้มีพระโอรสเพิ่มเติมมิใช่หรือ?”
ยามาโอกะประนมมือแนบอก และกล่าวด้วยสายตาสงบ “ในบ้านของข้าพเจ้านั้น เต็มไปด้วยเด็กยากไร้ และคนไร้ที่พึ่ง พวกเขาคือประชาราษฎร์ของแผ่นดินนี้ หากพระองค์ทรงเป็นจักรพรรดิของแผ่นดิน ก็เท่ากับว่าพวกเขาคือบุตรของพระองค์เช่นกัน”
คำตอบของยามาโอกะดังแผ่วเบา แต่กลับก้องกังวานอยู่ในโถงราชสำนักอันสงบ ราวกับเสียงหนึ่งที่ทิ่มแทงหัวใจโดยไม่ใช้คมดาบ
จักรพรรดิทรงเงียบอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะทรงแย้มสรวลอย่างบางเบา และพยักพระพักตร์อย่างช้า ๆ ดวงพระเนตรที่เคยส่องสำรวจความภายนอก บัดนี้กลับทอดมายังความหมายภายใน
“เจ้ายังคงสวมเสื้อผ้าเก่า แต่เจ้าได้ห่มผ้าใหม่ให้กับหัวใจของแผ่นดิน”
วันนั้น ไม่มีเครื่องแบบใหม่ ไม่มีผ้าผืนงาม ไม่มีเกียรติยศใดเพิ่มขึ้นในตัวของยามาโอกะ
มีเพียงความเงียบ… ที่ทุกคนต่างเข้าใจ
ในสายตาของผู้อื่น เขายังคงเป็นชายผู้สวมเสื้อผ้าชุดเก่า แต่ในสายตาของแผ่นดิน เขาคือผู้ห่มใจผู้อื่นด้วยผืนผ้าของความเมตตา
เสื้อผ้าเขายังเก่าเหมือนเดิม แต่สายตาของจักรพรรดิที่ทอดตามหลังเขาไปนั้น ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… การให้ที่แท้ ไม่ได้อยู่ที่สิ่งของหรือชื่อของผู้รับ แต่อยู่ที่การมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างตนเองกับผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง
ยามาโอกะมิได้เพียงนำเงินไปแจกจ่าย เขาได้เปลี่ยนมุมมองของการเป็น “ข้าราชสำนัก” ให้กลายเป็น “ผู้รับใช้ประชาชน” อย่างแท้จริง ด้วยใจที่เห็นว่าผู้ยากไร้ก็คือ “บุตรแห่งพระองค์” เช่นเดียวกับโอรสธิดาในวังหลวง
ความจงรักภักดีในท่าทีเช่นนี้ ไม่ได้อยู่ที่การสวมเครื่องแบบใหม่ หรือเอ่ยคำสรรเสริญ แต่คือการใช้โอกาสที่ได้รับจากเบื้องบน ส่งต่อไปยังเบื้องล่าง โดยไม่ถือสิทธิ์ว่าเป็นของตน เซนไม่ได้สอนให้เราวางเฉพาะวัตถุ แต่สอนให้เราวางอัตตา แม้ในยามที่เราถูกมองเห็นก็ตาม
อ่านต่อ: รวมนิทานเซนสั้น ๆ สนุก ๆ เรียนรู้ปรัชญาแห่งความสงบและชีวิตผ่านวิถีเซนพุทธ
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเซนเรื่องบุตรแห่งพระองค์ (อังกฤษ: Children of His Majesty) นิทานเรื่องนี้มีต้นทางจากเกร็ดชีวประวัติของยามาโอกะ เทสชู (Yamaoka Tesshū) ซามูไรผู้มีชื่อเสียงในยุคปลายเอโดะของญี่ปุ่น เขาเป็นทั้งครูสอนศิลปะการดาบให้แก่ราชสำนัก, นักปฏิบัติทางเซนที่ลึกซึ้ง และที่สำคัญคือที่ปรึกษาใกล้ชิดขององค์จักรพรรดิเมจิ
เหตุการณ์ในนิทานสะท้อนคุณลักษณะสำคัญของเทสชู คือการดำรงชีวิตด้วยความเรียบง่ายสุดขีด แม้จะอยู่ในตำแหน่งสูง เขาเลือกที่จะอุทิศทรัพยากรเพื่อผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่ถูกมองข้ามในสังคม
เรื่องนี้ปรากฏในรูปแบบนิทานสั้นในหนังสือรวมเรื่องเล่าเซน เช่น Zen Flesh, Zen Bones และ 101 Zen Stories ซึ่งเน้นถ่ายทอดปัญญาผ่านเหตุการณ์เล็ก ๆ ที่เผยความเข้าใจธรรมอันลึกซึ้ง
แม้จะมีลักษณะกึ่งตำนาน แต่เนื้อแท้ของเรื่องนี้คือเครื่องเตือนใจถึง “ความเมตตาอย่างไร้เงื่อนไข” ซึ่งเป็นหัวใจของเซนและวิถีของผู้รู้แจ้งในทุกยุคทุกสมัย
คติธรรม: “ผู้ที่ได้รับจากเบื้องบน แล้วส่งต่อโดยไม่ยึดถือ นั่นคือผู้ที่เข้าใจความเมตตาแท้จริง”