ปกนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องข้อควรระวัง

นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องข้อควรระวัง

ในโลกนี้ ผู้คนมักไขว่คว้าชื่อเสียงและทรัพย์สมบัติ จนลืมพิจารณาว่าสิ่งใดสำคัญที่สุดต่อชีวิต แต่คำสอนของเต๋าชี้ว่า การเข้าใจตนเองและสังเกตธรรมชาติของชีวิต คือหนทางที่ลึกซึ้งกว่าการไล่ตามสิ่งภายนอก

มีนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหนึ่ง ข้าจะเล่าให้ฟังถึงชายผู้หนึ่งที่เผชิญชีวิตหลากหลายบทบาท จนได้พบสิ่งที่สำคัญที่สุด และเรียนรู้บทเรียนล้ำค่าเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตตามวิถีเต๋า กับนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องข้อควรระวัง

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องข้อควรระวัง

เนื้อเรื่องนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องข้อควรระวัง

ข้ารู้จักชายผู้หนึ่ง… ท่านผู้นี้มาหาข้าตอนแก่ชราแล้ว เขาไม่ใช่ชายหนุ่มผู้มั่นคงหรือผู้ที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้โลก แต่เป็นผู้ที่ผ่านชีวิตสุดขั้วมาหมดแล้ว วันหนึ่งสูงส่งเกียรติยศและร่ำรวย วันหนึ่งต่ำต้อยจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว

เขาก้าวเข้ามาหาข้าอย่างสงบ แต่ในดวงตายังคงมีประกายความอยากรู้ ใจของเขาเต็มไปด้วยคำถาม:

“สิ่งใดสำคัญที่สุด? ชื่อเสียงหรือชีวิต?”

ข้าจึงเชิญเขานั่งใต้ต้นไผ่ใหญ่ ใต้แสงอ่อนของเช้าตรู่ ลมเบา ๆ พัดใบไผ่กระทบกันเป็นเสียงหวานเหมือนบทเพลงธรรมชาติ

ข้าสังเกตเขาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะเริ่มถาม:

“เจ้าผ่านชีวิตมาแล้วมากมาย เจ้าเคยยึดถือสิ่งใดมากที่สุด?”

ชายผู้นั้นเงยหน้าขึ้น สูดลมหายใจลึก ๆ แล้วเริ่มเล่าถึงชีวิตของตนเอง จากวันที่รุ่งโรจน์สู่วันที่ตกต่ำ ทุกประสบการณ์ราวกับน้ำที่ไหลผ่านหุบเขา เขาเล่าถึงความสุขจากการมีเกียรติยศ ความตื่นเต้นจากทรัพย์สมบัติ ความกลัวและความทุกข์ที่เกิดจากความสูญเสีย

ข้าฟังเขาอย่างตั้งใจ โดยไม่ได้ขัดคำพูดหรือแสดงท่าทีใด ๆ เพียงแต่ปล่อยให้เรื่องราวไหลผ่าน ใจข้ารู้ทันทีว่า ชายผู้นี้พร้อมแล้วที่จะเรียนรู้บทเรียนที่แท้จริงของชีวิต ไม่ใช่บทเรียนจากคำสอนของข้าเท่านั้น แต่จากความเข้าใจที่เกิดขึ้นเองหลังผ่านชีวิตสุดขั้วนั้น

เขาเล่าต่อว่า เมื่อครั้งที่เขายึดมั่นในชื่อเสียงและทรัพย์สมบัติ วันหนึ่งเขาได้ทุกสิ่งที่ปรารถนา บ้านเมืองให้เกียรติยศ เขาเป็นที่ยกย่อง แต่ทุกค่ำคืนเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เขากลัวว่าทุกสิ่งอาจสูญหายเพียงชั่วข้ามคืน… ราวกับอยู่บนยอดเขาสูงที่ปลิวไหวไปตามลม

ต่อมาเมื่อทุกสิ่งหลุดมือ เขาตกต่ำจนแทบสิ้นหวัง ไม่มีทรัพย์สมบัติเหลือ ไม่มีคนจดจำชื่อเสียง วันเวลาแห่งความมั่งคั่งกลายเป็นเพียงความทรงจำ เขาพบว่าการยึดติดสิ่งที่ปรากฏภายนอกเพียงอย่างเดียว นำพาความทุกข์และความเจ็บปวดใกล้ตัวอย่างไม่รู้จบ

เขาพูดเสียงอ่อน แต่เต็มไปด้วยความเข้าใจ

“ข้าเคยเชื่อว่าชื่อเสียงและสมบัติทำให้ชีวิตมั่นคง แต่เมื่อทุกสิ่งหายไป ข้ากลับพบว่า สิ่งที่แท้จริงคือการรักษาชีวิตใจของตัวเอง และการรู้จักพอใจในสิ่งที่มี”

ข้าฟังคำพูดของเขาแล้วพยักหน้าเงียบ ๆ เพราะนี่คือแก่นของบทเรียนที่ข้าต้องการให้ผู้ใฝ่รู้เข้าใจ

และที่สำคัญที่สุด ข้าเห็นแววสงบในดวงตาของชายผู้นี้ แม้เขาเคยผ่านชีวิตสุดขั้วทั้งขึ้นสูงสุดและลงต่ำสุด แต่วันนี้เขามาเรียนรู้ด้วยใจว่าง เปล่า และพร้อมจะเข้าใจความสำคัญของการหยุดยั้งและพอใจในสิ่งที่มี

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องข้อควรระวัง 2

หลังจากเล่าถึงความทุกข์และการสูญเสีย ชายผู้นี้เงยหน้ามองข้าด้วยสายตาเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความเข้าใจ

“ข้าได้เรียนรู้แล้วว่า… หากเจ้ายึดชีวิตมากจนไม่สนใจสิ่งอื่น หรือยึดสิ่งอื่นมากจนละทิ้งชีวิต ความทุกข์ย่อมเข้ามาใกล้ตัวเสมอ”

เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อน แต่หนักแน่น

“ผู้ที่ยึดติดชื่อเสียงมักละทิ้งสิ่งที่สำคัญกว่า ผู้ที่รักสมบัติมากมายกลับสละความมั่งคั่งแท้จริง แต่ผู้ที่พอใจในสิ่งที่มีและรู้จักหยุดยั้ง ย่อมไม่ต้องกลัวความอับอาย ไม่ตกอยู่ในความทุกข์ และมีชีวิตยืนยาว”

ข้าเงยหน้ามองเขาอย่างตั้งใจ รู้สึกว่า คำพูดเหล่านี้ไม่ใช่เพียงทฤษฎี แต่เกิดจากชีวิตจริงของชายผู้หนึ่งที่ผ่านทั้งสุดขั้วของความรุ่งโรจน์และความยากจน ชายผู้นี้สอนข้าให้เห็นว่าความพอใจและความหยุดยั้ง คือสิ่งสำคัญเหนือชื่อเสียงและสมบัติทั้งหมด

ชายผู้นี้หยุดยืนกลางทุ่งกว้าง แสงเย็นยามค่ำส่องกระทบใบไม้เบา ๆ เขาหยุดนิ่ง น้ำตาไหลพรากลงบนแก้ม

“ข้า… ขอบคุณท่านเล่าจื๊อ ขอบคุณที่ทำให้ข้าได้พบสงบแห่งวิถีเต๋า”

เสียงเขาอ่อน แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในชีวิตสุดขั้วทั้งหลาย ราวกับคลายออกมาเป็นสายลมเบา ๆ

ข้าพยักหน้าเพียงเล็กน้อย ไม่พูดอะไรเพิ่ม แต่รู้ใจว่า ชายผู้นี้เข้าใจแก่นแท้ของชีวิตและเต๋าแล้ว

วันเวลาผ่านไป ชายผู้นี้ยังคงเดินทาง ศึกษาและปฏิบัติวิถีเต๋าอย่างเงียบสงบ ความเข้าใจและความสงบที่เขาได้รับจากบทเรียนชีวิต สะสมจนถึงที่สุด

สุดท้ายเขาได้กลายเป็นปรมาจารย์แห่งเต๋า ผู้ที่บรรลุความอ่อนโยนและความสงบ แม้จะบั้นปลายชีวิตแล้วก็ตาม เหมือนที่ข้าเคยสอนเขาในวันแรก

และทุกครั้งที่ข้าคิดถึงเขา ข้ารู้สึกยินดีใจ เพราะได้เห็นชายผู้หนึ่งผ่านชีวิตสุดขั้ว มาพบความสงบ และสืบทอดแก่นแท้แห่งวิถีเต๋าอย่างแท้จริง

ภาพประกอบนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องข้อควรระวัง 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.. การยึดติดชื่อเสียงหรือสมบัติ แม้จะดูเหมือนเป็นความสำเร็จหรือความมั่นคงของชีวิต แต่ความจริงแล้วสิ่งเหล่านี้อาจนำความทุกข์ ความวิตก และความเจ็บปวดใกล้ตัวมาโดยไม่รู้ตัว การเกาะติดสิ่งที่ปรากฏภายนอกมักทำให้ละทิ้งสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า และการเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง รู้จักพอใจและหยุดยั้ง นี่คือข้อควรระวังในชีวิต

ในนิทานชายผู้นี้เขาได้เรียนรู้ว่าความสุขแท้จริงไม่ได้อยู่ที่ชื่อเสียงหรือสมบัติ แต่เกิดจากความสงบของใจและความเข้าใจชีวิต การรักษาชีวิตใจของตนเองให้มั่นคง แม้ผ่านทั้งรุ่งโรจน์และความตกต่ำ ทำให้สามารถดำเนินชีวิตอย่างสงบ มีความสุขอย่างแท้จริง และในที่สุดชายผู้นี้ได้กลายเป็นปรมาจารย์แห่งเต๋า ผู้ที่สอนคนรุ่นหลังด้วยความอ่อนโยนและความเข้าใจลึกซึ้ง

อ่านต่อ: นิทานเต้าเต๋อจิงสรุปจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิงเล่าในรูปแบบนิทานสนุกและเข้าใจง่ายได้ข้อคิดดี ๆ

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องข้อควรระวัง (อังกฤษ: Cautions) นิทานเรื่องนี้มาจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิงบทที่ 44 ซึ่งกล่าวถึง “ข้อควรระวังในชีวิต” อันเป็นแก่นแท้ของวิถีเต๋า ความพอใจและการหยุดยั้งคือภาวะสูงสุดของชีวิต เพราะผู้คนมักยึดติดชื่อเสียงและสมบัติ จนละทิ้งความสงบและความมั่นคงภายใน การเข้าใจข้อควรระวังนี้จึงเปรียบเสมือนการรักษาชีวิตให้มั่นคงแม้ในยามที่ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลง โดยเล่าจื๊อได้บันทึกไว้ว่า:

ข้อควรระวัง

ชื่อเสียงหรือชีวิต สิ่งใดท่านยึดถือมากกว่า?
ชีวิตหรือทรัพย์สมบัติ สิ่งใดที่ท่านจะยึดไว้?

ถ้ายึดชีวิต แต่เสียสิ่งอื่นไป
หรือยึดสิ่งอื่น แต่สละแก่นของชีวิตไป
สิ่งใดนำความทุกข์และความเจ็บปวดใกล้ตัวมากกว่า?

เราจะเห็นได้ว่า
ผู้ที่ยึดติดชื่อเสียง มักละทิ้งสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า
ผู้ที่รักสมบัติมากมาย กลับสละสถานะที่มั่งคั่งแท้จริง

ผู้ที่พอใจในสิ่งที่ตนมี ย่อมไม่ต้องกลัวความอับอาย
ผู้ที่รู้จักหยุดยั้ง ย่อมไม่ถูกติเตียน
ผู้ที่พ้นจากอันตราย ย่อมมีชีวิตยืนยาว

โดยเล่าจื๊อสอนว่า ผู้ที่เข้าใจถึงกฎเกณฑ์นี้ย่อมไม่หลงไปกับความโลภและความยึดมั่นภายนอก รู้จักความอดทนและพอใจในสิ่งที่มี จนสามารถดำเนินชีวิตอย่างสงบ ปลอดภัย และยืนยาว เข้าถึงความสมดุลระหว่างความปรารถนาและความเป็นไปของชีวิต

นิทานเรื่องนี้จึงถูกแต่งขึ้นเพื่อสะท้อนคำสอนดังกล่าว ผ่านเรื่องราวของชายผู้หนึ่งที่ผ่านชีวิตสุดขั้ว ทั้งรุ่งโรจน์และตกต่ำ จนได้เรียนรู้ความสำคัญของการหยุดยั้งและพอใจในสิ่งที่มี และนี่คือหัวใจของ “ข้อควรระวัง” ที่เล่าจื๊ออยากให้ผู้คนได้ตระหนักและเรียนรู้

คติธรรม: “ชีวิตที่แท้จริงมิใช่การสะสมชื่อเสียงหรือสมบัติ แต่คือการเข้าใจตนเอง รู้จักพอใจ และหยุดยั้งความปรารถนา เพื่อดำรงความสงบและยืนยาว”