ในโลกที่คำพูดและการกระทำมีพลังในการสร้างความเชื่อและความคาดหวัง การทำให้สิ่งใดดูยิ่งใหญ่เกินจริงอาจดึงดูดความสนใจได้ในช่วงแรก แต่ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เช่นเดียวกับเรื่องราวของภูเขาลูกใหญ่ที่สั่นสะเทือนและคำรามกึกก้อง
จนทำให้ผู้คนเชื่อว่าบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น แต่มันกลับนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ไม่เป็นดังที่ใคร ๆ คิด กับนิทานอีสปเรื่องภูเขาคลอดลูก
เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องภูเขาคลอดลูก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีภูเขาลูกใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ใกล้หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ภูเขานั้นเงียบสงบมาเป็นเวลานานจนกระทั่งวันหนึ่ง เสียงคำรามดังกึกก้องดังขึ้นจากภูเขา มันเป็นเสียงที่น่ากลัวจนทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน ต้นไม้ไหวเอน และผู้คนต่างหยุดชะงักในสิ่งที่พวกเขากำลังทำ
“เกิดอะไรขึ้น?” หญิงชราคนหนึ่งร้องถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
ชายคนหนึ่งตอบด้วยสีหน้าวิตก “ข้าคิดว่าภูเขากำลังจะระเบิด! มันส่งเสียงดังราวกับสัตว์ประหลาดกำลังขยับตัวอยู่ข้างใน!”
เสียงคำรามนั้นดังต่อเนื่อง ผู้คนในหมู่บ้านพากันรวมตัวอยู่ที่ลานกว้าง ทุกคนจ้องมองไปที่ภูเขาลูกใหญ่อย่างหวาดกลัวและเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“ภูเขานี่คงกำลังจะคลอดบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ออกมา” ชายชราผู้หนึ่งพูดขึ้นขณะมองไปที่ยอดเขา
หญิงสาวคนหนึ่งเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวล “บางทีอาจเป็นสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาที่เราต้องต่อสู้ หรืออาจเป็นทรัพย์สมบัติมหาศาลที่เราจะค้นพบ”
เด็ก ๆ วิ่งหลบไปอยู่ข้างหลังพ่อแม่ของพวกเขา ขณะที่ชายหนุ่มหลายคนเริ่มเตรียมอาวุธเพื่อป้องกันตัวเองจากสิ่งที่อาจเกิดขึ้น
เสียงคำรามของภูเขายังคงดังขึ้นเรื่อย ๆ มันดูเหมือนกำลังส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง ท้องฟ้าเหนือภูเขาเริ่มปกคลุมด้วยเมฆดำ ผู้คนพากันกระซิบกระซาบถึงเหตุการณ์ที่น่ากลัวที่อาจเกิดขึ้น
“ข้าว่าเราควรเตรียมตัวหนี!” หญิงชราคนหนึ่งร้องเตือน “สิ่งที่ออกมาจากภูเขานั่นอาจเป็นหายนะสำหรับพวกเราทุกคน!”
“ไม่ เราต้องดู!” ชายหนุ่มอีกคนแย้ง “นี่อาจเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้น เราไม่ควรพลาด!”
ในที่สุด หลังจากเสียงคำรามดังอยู่เนิ่นนาน ภูเขาก็หยุดสั่น ทุกคนเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ ความเงียบปกคลุมไปทั่วบริเวณ ทุกสายตาจ้องไปที่ภูเขา บางคนกลั้นหายใจด้วยความตื่นเต้น
จากช่องเล็ก ๆ บนภูเขา มีสิ่งหนึ่งเคลื่อนไหวออกมา ผู้คนต่างตื่นเต้นและกระซิบกระซาบกันว่า “มันมาแล้ว!” แต่สิ่งที่ออกมาจากภูเขากลับเป็นเพียง…หนูตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง
หนูตัวนั้นส่งเสียงจี๊ด ๆ เบา ๆ ก่อนจะวิ่งผ่านผู้คนไปหายลับในพุ่มไม้ ทุกคนต่างยืนนิ่งด้วยความงุนงง ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ชายคนหนึ่งหัวเราะจนตัวงอ “ทั้งหมดนี่ก็เพื่อหนูตัวเดียวหรือ? ข้าคิดว่ามันจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เสียอีก!”
หญิงคนหนึ่งพูดพลางหัวเราะน้ำตาไหล “นี่หรือคือสิ่งที่ภูเขาคลอดออกมา? ข้าอุตส่าห์เตรียมตัวหนี!”
เสียงหัวเราะดังไปทั่วหมู่บ้าน ขณะที่ผู้คนเริ่มแยกย้ายกลับบ้าน พวกเขาหยุดพูดถึงสัตว์ประหลาดหรือหายนะที่เคยจินตนาการ และเปลี่ยนมาพูดถึงความตลกขบขันของเหตุการณ์นี้แทน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การทำเรื่องเล็กให้ดูยิ่งใหญ่เกินจริง อาจทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาน่าผิดหวัง และสูญเสียความน่าเชื่อถือที่เคยมีอยู่ก็จะลดลงหรือหายไปโดยสิ้นเชิง
และการข่มขู่หรือสร้างความหวาดกลัวโดยไร้ผลลัพธ์ที่แท้จริง นอกจากจะทำให้เสียความน่าเชื่อถือแล้ว ยังอาจทำให้ผู้อื่นมองเป็นเรื่องน่าขัน คำพูดหรือการกระทำที่เกินจริงโดยไม่มีเนื้อหาสาระ ย่อมไม่ก่อให้เกิดความเคารพ แต่กลับลดทอนคุณค่าของผู้พูดเอง
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องภูเขาคลอดลูก (อังกฤษ: The Mountain in Labour) เป็นหนึ่งในนิทานอีสป นิทานเรื่องนี้ได้รับการจัดอยู่ในลำดับที่ 520 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) นิทานนี้กลายเป็นสำนวนในยุคคลาสสิก และถูกนำไปใช้ในบริบทหลากหลาย โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ คำพูดหรือการกระทำที่สัญญาสิ่งยิ่งใหญ่แต่กลับให้ผลลัพธ์เพียงเล็กน้อย เช่น ในวงการวรรณกรรมและการเมือง
ในยุคสมัยใหม่ ความตั้งใจเสียดสีในนิทานเรื่องนี้ได้รับการเน้นย้ำมากขึ้นจากการตีความของ ฌอง เดอ ลา ฟงแตน (Jean de la Fontaine) ซึ่งภาพประกอบในข้อความนิทานช่วยขับเน้นการใช้งานในเชิงประชดประชัน และต่อมาได้ส่งอิทธิพลต่อการ์ตูนเชิงเสียดสีในยุโรปและอเมริกาอีกด้วย
เวอร์ชันที่เก่าแก่ที่สุดของนิทานเรื่องนี้ปรากฏในบทกวีภาษาละตินแต่งโดย ฟีดรัส (Phaedrus)
“ภูเขากำลังเจ็บท้องคลอด ส่งเสียงครวญครางดังลั่น
ทำให้ผู้คนบนพื้นโลกต่างเฝ้ารออย่างยิ่งใหญ่
แต่สุดท้ายกลับให้กำเนิดเพียงหนูตัวหนึ่ง
เรื่องนี้เขียนขึ้นเพื่อเตือนผู้ที่ข่มขู่ถึงสิ่งยิ่งใหญ่
แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย”นิทานเรื่องนี้แต่งขึ้นสำหรับผู้ที่ชอบข่มขู่ด้วยคำพูดที่ดูจริงจัง แต่กลับไม่สามารถทำอะไรให้สำเร็จได้เลย