นิทานอีสปเรื่องสุนัขจอมซุกซนกับปลอกคอกระดิ่ง

ปกนิทานอีสปเรื่องสุนัขจอมซุกซนกับปลอกคอกระดิ่ง

ในโลกนี้ หลายครั้งที่เรามักเข้าใจผิดว่าการเป็นที่สนใจของผู้อื่นคือความภาคภูมิใจและเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่แท้จริงแล้ว สิ่งที่ทำให้เราโดดเด่นนั้นอาจไม่ได้มาจากสิ่งดีงามเสมอไป เช่นเดียวกับเรื่องราวของเจ้าสุนัขจอมซุกซนตัวนี้ ที่คิดว่าเสียงกระดิ่งของมันคือสัญลักษณ์แห่งความพิเศษ

แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ประกาศความผิดพลาดของตัวเองให้คนทั้งโลกรู้ กับนิทานอีสปเรื่องสุนัขจอมซุกซนกับปลอกคอกระดิ่ง

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องสุนัขจอมซุกซนกับปลอกคอกระดิ่ง

เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องสุนัขจอมซุกซนกับปลอกคอกระดิ่ง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มีสุนัขตัวหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความซุกซน มันชอบก่อกวนชาวบ้าน ไล่เห่าสัตว์เลี้ยง และสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว จนผู้คนต่างเอือมระอากับพฤติกรรมของมัน เมื่อใดก็ตามที่มันวิ่งผ่านไป มักจะมีเสียงบ่นตามหลังเสมอ แต่เจ้าสุนัขก็ไม่เคยรู้สึกผิด กลับสนุกสนานกับสิ่งที่มันทำ

วันหนึ่ง เจ้าของของมันซึ่งเป็นชายชรา คิดหาวิธีที่จะให้คนอื่นระวังตัวจากเจ้าสุนัขจอมซน เขานำกระดิ่งทองเหลืองขนาดพอดีมาผูกติดไว้ที่ปลอกคอของมัน เวลาที่มันวิ่งไปที่ไหน เสียงกระดิ่งก็จะดังกรุ๊งกริ๊งเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้คนได้ยินและหลบหลีกมันได้ทันเวลา เมื่อเจ้าสุนัขได้ยินเสียงกระดิ่งครั้งแรก มันก็แปลกใจอยู่บ้าง แต่ไม่นานมันก็รู้สึกชิน และกลับคิดว่าเสียงกระดิ่งนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความโดดเด่น

“ดูสิ ทุกคนหันมามองข้า พวกเขาต้องได้ยินเสียงข้าก่อนใคร!” มันพูดกับตัวเองอย่างภาคภูมิใจ ตั้งแต่นั้นมา มันยิ่งเดินไปทั่วหมู่บ้านด้วยท่าทางโอ้อวด พร้อมกับทำให้กระดิ่งส่งเสียงดังขึ้นอีก “กรุ๊งกริ๊ง! กรุ๊งกริ๊ง! ข้าเป็นสุนัขที่มีชื่อเสียงที่สุดในหมู่บ้าน ไม่มีใครไม่รู้จักข้า!” เจ้าสุนัขคิดอย่างลำพองใจ

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องสุนัขจอมซุกซนกับปลอกคอกระดิ่ง 2

วันหนึ่ง ในขณะที่มันกำลังเดินอวดเสียงกระดิ่งไปตามทาง มันได้พบกับสุนัขแก่ตัวหนึ่งที่นอนพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ สุนัขแก่มองเจ้าสุนัขซุกซนที่เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเสียงกระดิ่งดังอยู่ตลอดเวลา สุนัขแก่มองดูมันนิ่ง ๆ แล้วจึงเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าหมาน้อย เจ้าช่างดูภาคภูมิใจเหลือเกินกับเสียงกระดิ่งนั่น แต่เจ้าเคยถามตัวเองบ้างไหมว่าทำไมเจ้าถึงต้องถูกผูกกระดิ่งไว้?”

เจ้าสุนัขซุกซนหยุดชะงัก มองสุนัขแก่ด้วยความประหลาดใจ “ทำไมข้าถึงต้องถามล่ะ? กระดิ่งนี้ทำให้ทุกคนรู้จักข้า ทุกคนต้องได้ยินเสียงของข้า ไม่มีใครไม่สังเกตเห็นข้า มันแสดงว่าข้าไม่เหมือนสุนัขตัวอื่นไงล่ะ!” มันพูดพลางสั่นหัวให้กระดิ่งดังขึ้นอีก

สุนัขแก่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดอย่างสุขุม “เจ้าน่าสมเพชนัก เจ้าภูมิใจในสิ่งที่เป็นความอับอายโดยไม่รู้ตัว นี่ไม่ใช่เครื่องหมายแห่งเกียรติยศหรือความพิเศษอะไรหรอก กระดิ่งที่ผูกอยู่ที่คอเจ้าก็เพื่อประกาศให้ทุกคนรู้ว่าพวกเขาต้องหลบหนีจากเจ้า เพราะเจ้าเป็นสุนัขจอมก่อกวนต่างหาก!”

เจ้าสุนัขซุกซนนิ่งอึ้งไปทันที มันมองสุนัขแก่ด้วยความตกตะลึง คำพูดนั้นดังสะท้อนในหัวของมัน เสียงกระดิ่งที่มันเคยภาคภูมิใจ แท้จริงแล้วเป็นสัญลักษณ์ของความน่ารำคาญที่ทุกคนอยากหลบหนี มันเดินคอตกกลับไปโดยไม่สั่นกระดิ่งให้ดังอีก

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เจ้าสุนัขก็เปลี่ยนไป มันเลิกทำตัวซุกซนและพยายามทำตัวให้เป็นที่รักของทุกคน มันเรียนรู้ว่า สิ่งที่ควรภาคภูมิใจไม่ใช่สิ่งที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่คือการทำสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นต่างหาก

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องสุนัขจอมซุกซนกับปลอกคอกระดิ่ง 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การกระทำที่ก่อความเดือดร้อนให้ผู้อื่นไม่ใช่สิ่งที่ควรภาคภูมิใจ เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ทำให้เราดูยิ่งใหญ่หรือพิเศษในสายตาใคร แต่กลับทำให้ข้อบกพร่องและความน่ารำคาญของเราถูกเปิดเผยชัดเจนยิ่งขึ้น การเป็นคนดีและไม่สร้างปัญหาให้กับผู้อื่นต่างหาก ที่ทำให้เราได้รับความเคารพและเป็นที่รักอย่างแท้จริง

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

สุนัขจอมซุกซนกับปลอกคอกระดิ่ง (อังกฤษ: The Mischievous Dog and his Bell) เป็นหนึ่งในนิทานอีสปที่มีเวอร์ชันภาษากรีกโดย บาบริอุส (Babrius) และเวอร์ชันภาษาละตินโดย อาวิอานุส (Avianus) นิทานเรื่องนี้ได้รับการจัดอยู่ในลำดับที่ 332 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ)

เนื้อเรื่องเล่าถึงสุนัขที่ชอบกัดขาผู้คนอยู่เสมอ เจ้าของจึงผูกระฆังไว้ที่คอสุนัขเพื่อเตือนให้ผู้คนรู้ล่วงหน้าถึงการมาของมัน แต่สุนัขกลับเข้าใจผิด คิดว่าระฆังเป็นรางวัลสำหรับตนเอง จึงเดินโอ้อวดไปทั่วถนน จนกระทั่งสุนัขแก่ตัวหนึ่งเตือนมันว่า “ระฆังนี้ไม่ใช่เครื่องหมายของเกียรติยศ แต่คือสัญลักษณ์แห่งความอัปยศของเจ้า”

ในยุควิกตอเรีย ผู้เรียบเรียงนิทานได้สรุปข้อคิดไว้ว่า “ชื่อเสียงอื้อฉาวมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นความโด่งดัง”

นิทานอีสปเรื่องอื่น ๆ

ติดตามนิทานทุกรูปแบบได้ที่ talezzz.com