นิทานอีสปเรื่องสิงโตกับหนู

ปกนิทานอีสปเรื่องสิงโตกับหนู

ในป่าที่กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต สิงโตผู้เป็นเจ้าป่าผู้ยิ่งใหญ่คือสัตว์ที่ทุกตัวต่างเกรงกลัว ด้วยพลังและความสง่างามของมัน ไม่มีสัตว์ใดกล้าท้าทาย แต่บางครั้ง แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากสิ่งที่ดูเหมือนไม่สำคัญ

เรื่องราวระหว่างสิงโตผู้ทรงพลังและหนูตัวเล็กผู้กล้าหาญนี้ จะนำเราสู่บทเรียนอันลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ในความเมตตาและความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน กับนิทานอีสปเรื่องสิงโตกับหนู

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องสิงโตกับหนู

เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องสิงโตกับหนู

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในป่ากว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยชีวิต สิงโตเจ้าป่าเดินตรวจอาณาเขตอย่างสง่างาม มันเป็นสัตว์ที่ทรงพลังที่สุดในป่า ไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจของมัน เมื่อเดินจนเหนื่อย สิงโตตัดสินใจพักใต้ต้นไม้ใหญ่ในบ่ายวันหนึ่ง มันนอนเอนกาย ปิดตา และเริ่มหลับลึก ท่ามกลางเสียงลมพัดใบไม้และเสียงนกในป่า

ไม่นานนัก หนูตัวเล็กที่กำลังวิ่งเล่นอยู่แถวนั้น บังเอิญวิ่งขึ้นไปบนตัวของสิงโตโดยไม่ทันระวัง น้ำหนักที่เบาของมันอาจไม่สะเทือนสิงโต แต่ความรู้สึกนั้นทำให้เจ้าป่าตื่นขึ้น สิงโตคำรามเสียงดังด้วยความโกรธ “ใครกล้ารบกวนการพักผ่อนของข้า!”

หนูตกใจจนตัวสั่น มันรีบพูดด้วยเสียงอ่อนน้อม “ขออภัยเถิดเจ้าแห่งป่า ข้าไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนท่านเลย ข้าแค่เผลอวิ่งมาที่นี่โดยไม่ทันมอง”

สิงโตตวัดกรงเล็บจับหนูไว้แน่น “เจ้าเป็นเพียงหนูตัวเล็กที่กล้ามารบกวนข้า ข้าควรจะกินเจ้าให้หายหงุดหงิดดีไหม?”

หนูพยายามพูดด้วยเสียงที่มั่นคง แม้จะกลัวจนตัวสั่น “ข้าไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ หากท่านยอมปล่อยข้าไป ข้าสัญญาว่าสักวันหนึ่งข้าจะตอบแทนบุญคุณท่านแน่นอน!”

สิงโตหัวเราะเสียงดัง “เจ้าตัวเล็กแค่นี้ คิดจะช่วยอะไรข้าได้? เจ้าพูดอะไรน่าขันจริง ๆ” แต่ด้วยความเอ็นดูในความกล้าของหนู สิงโตจึงปล่อยมันไป “ไปซะ! และอย่ามารบกวนข้าอีก”

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องสิงโตกับหนู 2

หนูยกมือไหว้พร้อมพูดด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณท่าน ข้าจะไม่มีวันลืมความเมตตานี้” แล้วมันก็รีบวิ่งหนีไป

หลายวันผ่านไป สิงโตผู้ยิ่งใหญ่กำลังเดินตรวจอาณาเขตเช่นเคย แต่มันกลับติดอยู่ในตาข่ายที่นายพรานวางไว้ มันดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่ยิ่งดิ้น ตาข่ายก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น สิงโตคำรามเสียงดังหวังให้ใครสักคนได้ยิน แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้

เสียงคำรามของสิงโตดังไปไกล หนูตัวเล็กที่อยู่ไม่ไกลนักได้ยินเสียงจึงรีบมาดู เมื่อเห็นสิงโตติดอยู่ในตาข่าย หนูรู้ทันทีว่ามันต้องตอบแทนบุญคุณ

“เจ้าแห่งป่า! ข้าจะช่วยท่านเอง!” หนูพูดพร้อมวิ่งเข้าไปใกล้

“เจ้า?” สิงโตพูดด้วยเสียงอ่อนล้า “เจ้าจะช่วยข้าได้อย่างไร?”

หนูตอบด้วยความมั่นใจ “โปรดอย่าดูถูกข้า ท่านเมตตาข้าในวันนั้น วันนี้ข้าจะตอบแทนท่านเอง”

หนูเริ่มกัดเชือกของตาข่ายด้วยฟันเล็ก ๆ ที่แหลมคม มันกัดทีละเส้น ๆ โดยไม่หยุดพัก “อดทนอีกนิดนะท่าน ข้าใกล้จะทำสำเร็จแล้ว!”

ในที่สุด เชือกเส้นสุดท้ายก็ขาด สิงโตหลุดจากตาข่ายและกลับมายืนสง่างามอีกครั้ง มันมองหนูด้วยความซาบซึ้ง “ข้าคิดผิดมาตลอด ขอบคุณเจ้ามาก เจ้าแม้ตัวเล็ก แต่กลับช่วยข้าจากความตายได้”

หนูยิ้มและพูดอย่างภูมิใจ “ข้าก็แค่ทำในสิ่งที่ควรทำ ความเมตตาของท่านในวันนั้น ทำให้ข้ามีโอกาสตอบแทนในวันนี้ ไม่มีใครเล็กเกินไปที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ขอเพียงแต่เราทำด้วยความตั้งใจ”

สิงโตพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “จากนี้ไป ข้าจะไม่ดูถูกใครเพียงเพราะขนาดหรือรูปร่างของพวกเขาอีกแล้ว ทุกคนล้วนมีคุณค่าในแบบของตัวเอง”

ทั้งสองแยกทางกัน สิงโตกลับคืนสู่อิสรภาพด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยบทเรียนสำคัญ ส่วนหนูกลับไปโพรงของมันด้วยความภาคภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในป่า

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องสิงโตกับหนู 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความเมตตาที่เรามอบให้แก่ผู้อื่น แม้ในยามที่พวกเขาดูเหมือนไร้พลังหรือเล็กน้อยเพียงใด อาจกลายเป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่เมื่อเราต้องการ และไม่มีใครเล็กเกินกว่าจะทำความดี ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ขนาดหรือรูปลักษณ์ แต่อยู่ที่จิตใจและความตั้งใจในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานอีสปเรื่องสิงโตกับหนู (อังกฤษ: The Lion and the Mouse) เป็นหนึ่งในนิทานอีสป ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 150 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) นิทานนี้ยังมีเวอร์ชันจากตะวันออกซึ่งล้วนแสดงให้เห็นถึงความพึ่งพาอาศัยกันโดยไม่คำนึงถึงขนาดหรือสถานะ คติสอนใจของนิทานเรื่องนี้คือ ความเมตตาจะนำมาซึ่งผลตอบแทน และไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่เล็กเกินไปที่จะช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่กว่าได้

อย่าให้ใครกล้าทำร้ายพวกเราแม้แต่ผู้ที่เล็กที่สุดในหมู่พวกเรา

ในยุคเรเนซองส์ (ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา) นิทานเรื่องนี้ได้รับการเสริมเนื้อเรื่องต่อท้ายที่สอดแทรกข้อคิดเกี่ยวกับการตำหนิความทะเยอทะยานในสังคม

นิทานอีสปเรื่องอื่น ๆ

ติดตามนิทานทุกรูปแบบได้ที่ talezzz.com