ปกนิทานกริมม์เรื่องเอลฟ์กับช่างทำรองเท้า

นิทานกริมม์เรื่องเอลฟ์กับช่างทำรองเท้า

ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยการดิ้นรนและความไม่แน่นอน เรื่องเล่าบางเรื่องยังคงเตือนใจเราว่า “ความดีเล็ก ๆ” สามารถเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์

มีนิทานกริมม์เรื่องหนึ่ง เล่าถึงช่างรองเท้าผู้ยากจนที่ยังคงทำดีไม่เปลี่ยนแปลง จนได้รับความช่วยเหลือจากเอลฟ์ตัวน้อยผู้ลึกลับ ทำให้ชีวิตของเขาและภรรยาค่อย ๆ กลับมาสว่างไสวอีกครั้ง… กับนิทานกริมม์เรื่องเอลฟ์กับช่างทำรองเท้า

ภาพประกอบนิทานกริมม์เรื่องเอลฟ์กับช่างทำรองเท้า

เนื้อเรื่องนิทานกริมม์เรื่องเอลฟ์กับช่างทำรองเท้า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเงียบสงบที่ถูกล้อมด้วยป่าลึก มีช่างทำรองเท้าผู้หนึ่งนามว่า “ลุงฮันส์”

ลุงฮันส์เป็นคนใจดี ซื่อสัตย์ ขยันขันแข็ง แต่โชคชะตากลับไม่เข้าข้างเขานานหลายปี ทั้งบ้านเมืองที่เศรษฐกิจฝืดเคือง ทั้งผู้คนที่มีเงินน้อยลง ทำให้รองเท้าที่ลุงฮันส์ทำขายกลับขายไม่ออกเอาเสียเลย

จนในที่สุด เขาก็เหลือเงินเพียงพอซื้อหนังแค่สำหรับทำรองเท้าได้ หนึ่งคู่สุดท้ายเท่านั้น แต่กระนั้นลุงฮันส์ก็ไม่เคยบ่น เขาเพียงถอนหายใจเบา ๆ แล้วกล่าวกับภรรยาอย่างอ่อนโยนว่า “ไม่เป็นไรที่รักของข้า พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ยังไงข้าก็จะทำคู่สุดท้ายให้ดีที่สุด”

คืนนั้นเขาตัดหนังเป็นชิ้น ๆ เตรียมไว้สำหรับวันรุ่งขึ้นอย่างเรียบร้อย ก่อนจะดับตะเกียงและเข้านอนด้วยใจสงบ “ทำดีที่สุดแล้ว” เขาพึมพำเบา ๆ แล้วหลับไป

แต่เช้าวันถัดมา เมื่อแสงแดดอุ่น ๆ แรกของวันลอดผ่านหน้าต่าง ลุงฮันส์ก็มองเห็นสิ่งที่ทำให้เขาตาโตด้วยความตกใจ

รองเท้าที่ควรจะเป็นเพียงส่วนหนังที่ยังไม่ได้เย็บ… กลับถูกทำเสร็จแล้ว!

รองเท้าคู่นั้นงามราวกับทำโดยช่างฝีมือชั้นครู ไม่ผิดพลาดแม้แต่เย็บเดียว เนียนกริบจนไม่เชื่อว่าจะเป็นผลงานของมนุษย์ธรรมดาได้

“ที่รัก! มาดูนี่เร็ว!” ลุงฮันส์ร้องออกมา

ไม่นานนัก ชายผู้มั่งคั่งคนหนึ่งเดินมาที่ร้าน เหลือบไปเห็นรองเท้าคู่นั้นและหลงรักทันที จนยอมจ่ายเงินให้แพงกว่าปกติ ทำให้ลุงฮันส์มีเงินพอซื้อหนังได้ถึงสองคู่

หวังดีเริ่มกลับมาที่บ้านเล็ก ๆ ของเขาอีกครั้ง…

คืนนั้น เขาตัดหนังสำหรับสองคู่ใหม่แล้ววางบนโต๊ะเหมือนเดิม ก่อนจะเข้านอนด้วยความหวังเล็ก ๆ ว่า… บางทีปาฏิหาริย์อาจเกิดขึ้นอีกครั้ง?

และแน่นอน เมื่อรุ่งเช้ามาถึง มันก็เกิดขึ้นจริง!

รองเท้าสองคู่วางอยู่บนโต๊ะอย่างงดงามราวกับมีใครมาเสกไว้ ชายหญิงหลายคนแวะเข้ามาเห็นแล้วติดใจ จึงซื้อไปทันที ทำให้ลุงฮันส์มีเงินพอซื้อหนังสำหรับรองเท้าสี่คู่ ต่อไป

ความหวังเริ่มผลิบานในบ้านเล็ก ๆ อีกครั้ง…

คืนต่อมา ลุงฮันส์ตั้งใจแน่วแน่ เขาตัดหนังสำหรับรองเท้าสี่คู่ วางไว้บนโต๊ะ แล้วเป่าตะเกียงดับ แต่ครั้งนี้หัวใจเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น จะใช่สิ่งเดิมเกิดขึ้นอีกไหมนะ?

และใช่จริง ๆ! เมื่อตะวันขึ้น รองเท้าทั้งสี่คู่ก็วางไว้บนโต๊ะอย่างสวยงามราวกับทำโดยมือของผู้เชี่ยวชาญหลายคน ชาวบ้านที่ได้ยินข่าวรองเท้าคุณภาพเยี่ยมของลุงฮันส์ก็เริ่มเข้ามาไม่ขาดสาย

วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า อะไรก็ตามที่ลุงฮันส์ตัดทิ้งไว้บนโต๊ะในยามค่ำ จะถูกเย็บเสร็จเรียบร้อยในตอนเช้าเสมอ

รายได้ของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากชายผู้เคยหมดหวัง กลายเป็นคนที่พอมีพอกิน และไม่นานก็เริ่มมีฐานะดีขึ้นกว่าที่เคยฝันไว้เสียอีก

แต่ความสงสัยก็ผุดขึ้นในใจเขาและภรรยา “ใครกันนะ…ที่ช่วยให้เรากลับมายืนได้อีกครั้ง?”

“จะเป็นคน? เป็นวิญญาณ? หรือเป็นสิ่งใดกัน?” เขาสงสัย

จนกระทั่งคืนหนึ่งก่อนวันคริสต์มาส ทั้งคู่ก็ตัดสินใจว่า ได้เวลาแล้วที่จะหาคำตอบ!

ภาพประกอบนิทานกริมม์เรื่องเอลฟ์กับช่างทำรองเท้า 2

คืนใกล้วันคริสต์มาสอันหนาวเหน็บ หิมะโปรยเบา ๆ นอกหน้าต่าง ลุงฮันส์เพิ่งตัดหนังรองเท้าชุดใหม่เสร็จ และก่อนจะดับไฟ เขาบอกภรรยาด้วยน้ำเสียงเปี่ยมอยากรู้ว่า

“ที่รัก… คืนนี้เรามาเฝ้าดูกันเถอะ ว่าใครกันแน่ที่ช่วยเราอยู่ทุกคืน!”

ภรรยาผู้ใจดีพยักหน้าอย่างตื่นเต้น ดับเทียนเล่มเล็ก แล้วทั้งสองก็พากันไปหลบหลังผ้าม่านและเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ในมุมห้อง

พวกเขาแทบกลั้นหายใจเพราะกลัวว่าแม้แต่เสียงขยับตัวเบา ๆ อาจทำให้ความลึกลับหายไป

ในห้องที่เงียบสนิท มีเพียงแสงเทียนพลิ้วไหว… จนกระทั่งเสียงนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนดังขึ้น

ติ๊ง… ติ๊ง… ติ๊ง…

ประตูไม้แผ่วเบาก็เปิดออก และสิ่งที่เห็นทำให้ลุงฮันส์กับภรรยาตาโตทั้งคู่!

เอลฟ์ตัวเล็กสองตน กระโดดเข้ามาอย่างร่าเริง! แต่ที่ทำให้ทั้งสองอ้าปากค้างยิ่งกว่าอย่างอื่นคือ เอลฟ์ตัวเล็กทั้งสอง… สวมแค่กางเกงเก่า ๆ ขาด ๆ!

พวกเขานั่งลงที่โต๊ะ เอาหนังที่ตัดไว้ขึ้นมาแล้วเริ่มลงมือทำงานทันที โอ้โห… มือเล็ก ๆ ของพวกเขาขยับเร็วราวสายลม

ตัด ปะ เย็บ ตอก ทุกจังหวะรวดเร็วและแม่นยำจนแทบมองไม่ทัน เสียงค้อนเล็ก ๆ ตีดัง “ตึ้ก ตึ้ก ตึ้ก!” เป็นจังหวะสนุกสนาน

ลุงฮันส์กับภรรยาดูด้วยความทึ่งสุดขีด เอลฟ์ทั้งคู่ไม่พักแม้แต่วินาทีเดียว จนรองเท้าทุกคู่สำเร็จลุล่วงหมดเกลี้ยง

จากนั้นพวกเขาก็หัวเราะคิกคัก กระโดดหายออกประตูไปอย่างรวดเร็วราวกับเฟืองนาฬิกาเล็ก ๆ ที่มีชีวิต

เมื่อทุกอย่างสงบลง ภรรยาก็พูดขึ้นเบา ๆ แต่จริงจังว่า

“เราต้องตอบแทนพวกเขาแล้วล่ะ พวกเอลฟ์ไม่มีเสื้อผ้าใส่เลย น่าสงสารออก จะต้องหนาวแย่!”

ลุงฮันส์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย คืนนี้ ทั้งคู่ตัดสินใจจะทำสิ่งพิเศษที่สุดเพื่อผู้ช่วยลึกลับเหล่านั้น

วันต่อมา ภรรยารีบลงมือทันที เธอตัดเย็บเสื้อเล็ก ๆ สนเข็มเล็กจนตาแทบลาย ทั้งเสื้อเชิ้ตตัวจิ๋ว เสื้อกั๊ก เสื้อคลุม ถุงเท้าเล็กขนาดปลายนิ้ว ทุกอย่างประณีตเหมือนของมนุษย์ตัวเต็มแต่ย่อส่วนลง

ลุงฮันส์เองก็ไม่ยอมน้อยหน้า เขาทำรองเท้าตัวเล็กสองคู่ที่สวยงามอย่างที่สุด เหมาะกับเท้าเอลฟ์ขนาดน่ารักแบบเป๊ะ ๆ

เมื่อทุกอย่างเสร็จ ทั้งคู่ก็จัดวางเสื้อผ้าเหล่านั้นบนโต๊ะ แทนที่หนังที่เคยเตรียมไว้ แล้วพวกเขาก็ซ่อนหลังผ้าม่านเช่นเดิม หัวใจเต้นตุ้บตั้บเหมือนเด็กที่รอเซอร์ไพรส์

เที่ยงคืนมาอีกครั้ง ประตูเปิดออกเหมือนเดิม เอลฟ์ทั้งสองกระโดดเข้ามาด้วยท่าทีพร้อมทำงานทันที

แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีหนังตัดวางไว้… มีเพียงเสื้อผ้าและรองเท้าตัวจิ๋วเรียงอยู่บนโต๊ะแทน

ทั้งสองก็หยุดชะงัก และจากนั้น ดวงตาของพวกเขาก็สว่างวาบด้วยความดีใจสุดขีด!

เอลฟ์ตัวหนึ่งร้อง “ว้าว!” เบา ๆ ด้วยความปลาบปลื้ม อีกตัวกระโดดโลดเต้นจนผมยุ่งฟูเหมือนดอกแดนดิไลออน

ทั้งคู่รีบสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว เสื้อเชิ้ตตัวเล็กเข้ารูป เสื้อกั๊กสีอุ่น เสื้อคลุมที่โอบตัวพอดี ถุงเท้านุ่ม ๆ และสุดท้าย รองเท้าตัวจิ๋วคู่ใหม่ที่ทำให้พวกเขาหมุนตัวด้วยความภาคภูมิใจ

ทันทีที่แต่งตัวเสร็จ พวกเขาก็ร้องเพลงเสียงใส ๆ ว่า “เราดูดีแล้วในคืนนี้ ไม่ต้องเย็บรองเท้าต่อไปก็ได้สิ!”

แล้วเอลฟ์ทั้งสองก็จับมือกัน กระโดดขึ้นบนเก้าอี้หนึ่งที บนโต๊ะอีกที แล้วก็เต้นรำไปรอบ ๆ ห้องอย่างสนุกสนาน พวกเขาหัวเราะ วิ่งวน ตีลังกาเล็ก ๆ ข้ามม้านั่งอย่างคล่องแคล่ว

หลังจากนั้น พวกเขาก็เปิดประตูออกสู่คืนอันหนาวเหน็บ และจากไปอย่างรวดเร็ว… โดยไม่กลับมาอีกเลย

แต่นับจากคืนนั้นเป็นต้นมา กิจการของลุงฮันส์กลับดีวันดีคืน รองเท้าที่เขาทำขายด้วยมือของตนเองก็เริ่มเป็นที่นิยม และเขากับภรรยาก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสงบ มีความพอเพียงตลอดมา

แม้เอลฟ์ตัวน้อยจะจากไป แต่ความอบอุ่น ความกตัญญู และความเมตตาที่มีต่อกัน ก็ยังคงอยู่ในบ้านหลังเล็กนั้นเสมอ

ภาพประกอบนิทานกริมม์เรื่องเอลฟ์กับช่างทำรองเท้า 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… เมื่อเราทำความดีด้วยใจจริง ซื่อสัตย์ ขยัน และไม่ยอมแพ้ ต่อให้ยามลำบากก็ย่อมมีสิ่งดี ๆ กลับมาหาเราเสมอ

ช่างรองเท้าทำงานอย่างสุจริต เขาสู้ชีวิตแม้ยากจนเขาก็ไม่โวยวายหรือทอดทิ้งความดี จึงมีเอลฟ์มาช่วยเหลือจนเขากลับมามั่งคั่ง และเมื่อเขามีมากพอ เขาก็ไม่ลืมตอบแทนผู้มีพระคุณ แสดงให้เห็นว่าความกตัญญูและการแบ่งปันทำให้ชีวิตงดงามสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

อ่านต่อ: คอลเลกชันนิทานกริมม์ เป็นหนึ่งในนิทานโด่งดังจากยุโรปอ่านสนุกให้ข้อคิดดี ๆ

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานกริมม์เรื่องเอลฟ์กับช่างทำรองเท้า (อังกฤษ: The Elves and the Shoemaker) นิทานเรื่องนี้มาจากคอลเลคชันนิทานกริมม์ ลำดับที่ 039 KHM ซึ่งถูกรวบรวมโดยพี่น้องกริมม์ในศตวรรษที่ 19 และเป็นหนึ่งในเรื่องที่ได้รับความนิยมที่สุดเกี่ยวกับความขยันและการตอบแทนบุญคุณ

ผู้คนเชื่อว่าเรื่องเล่านี้เกิดจากตำนานพื้นบ้านชาวเยอรมัน ที่เล่าขานถึงสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ในบ้าน ซึ่งจะช่วยงานคนยากจนที่มีจิตใจดี โดยเฉพาะงานฝีมืออย่างการเย็บรองเท้า จนกลายเป็นนิทานที่สะท้อนความหวังของผู้คนในยุคที่ชีวิตลำบาก

นิทานจึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องมหัศจรรย์ของเอลฟ์เท่านั้น แต่ยังเป็นภาพแทนความเชื่อของชุมชนว่า “เมื่อมนุษย์รักษาความดีงาม ความช่วยเหลือจะมาถึงในยามที่ไม่คาดฝัน” ทำให้เรื่องนี้ยังคงถูกเล่าอย่างอบอุ่นมาจนถึงปัจจุบัน

คติธรรม: “ความดีที่ทำโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ย่อมนำพาปาฏิหาริย์มาสู่ชีวิตเสมอ”