ในสนามแข่งที่ยิ่งใหญ่ของโคลอสเซียม เสียงกลองดังสนั่นและเสียงเชียร์ของฝูงชนดังก้องไปทั่ว ผู้ชมต่างจับจ้องไปที่รถม้าศึกที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันอันดุเดือด ท่ามกลางพลังและความตื่นเต้นของการแข่งขันรถม้าศึก กลับมีสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ตัวหนึ่งที่คิดว่าตัวเองสามารถเป็นส่วนสำคัญในเหตุการณ์นี้ได้
เรื่องราวของแมลงวันตัวจ้อยที่พยายามยกย่องตัวเองในโลกของผู้ยิ่งใหญ่ จะพาเราไปพบกับบทเรียนสำคัญที่ไม่อาจลืมเลือน กับนิทานอีสปเรื่องแมลงวันบนล้อรถม้าศึก
เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องแมลงวันบนล้อรถม้าศึก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในวันที่อากาศร้อนระอุ ผู้ชมจำนวนมหาศาลต่างหลั่งไหลเข้าสู่โคลอสเซียมอันยิ่งใหญ่ของกรุงโรม ทุกคนเฝ้ารอการแข่งขันรถม้าศึกที่เต็มไปด้วยพลังและความตื่นเต้น เสียงเชียร์ก้องกังวานทั่วสนาม ลู่วิ่งถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นที่เตรียมพร้อมจะฟุ้งกระจายเมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น
รถม้าศึกหลายคันถูกจัดวางไว้เรียงกัน แต่ละคันบรรทุกความหวังของผู้ขับและเสียงเชียร์ของผู้ชม ม้าศึกแต่ละตัวถูกฝึกมาอย่างหนัก พวกมันยืนกระทืบเท้ารอคอยสัญญาณเริ่มการแข่งขัน เสียงกลองดังสนั่น ผู้ขับรถม้าจับบังเหียนแน่น สายตาจับจ้องไปที่ลู่วิ่งเบื้องหน้า
ขณะนั้น แมลงวันตัวหนึ่งบินวนอยู่เหนือสนาม มันรู้สึกตื่นเต้นกับบรรยากาศอันยิ่งใหญ่และความวุ่นวายที่เกิดขึ้นรอบตัว “ช่างเป็นที่ที่เหมาะกับข้า! ข้าควรจะมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่นี้!” มันพูดกับตัวเอง
เมื่อเสียงสัญญาณเริ่มดังขึ้น รถม้าศึกพุ่งออกไปข้างหน้า ม้าศึกดึงรถม้าด้วยความเร็ว ล้อหมุนอย่างรุนแรง ฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้นในอากาศ เสียงล้อกระแทกพื้นดังก้องไปทั่วสนาม ผู้ชมส่งเสียงเชียร์อย่างบ้าคลั่ง
แมลงวันบินลงมาเกาะบนล้อของรถม้าคันหนึ่ง มันรู้สึกภูมิใจราวกับตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของพลังมหาศาลที่กำลังขับเคลื่อนการแข่งขัน “ดูสิ! ข้าทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายมากมายแค่ไหน! ผู้ชมต้องเห็นว่าข้าคือส่วนหนึ่งของชัยชนะในวันนี้!” มันพูดพลางมองไปรอบ ๆ
ล้อรถยังคงหมุนต่อไปอย่างไร้ความสนใจ แมลงวันพยายามเรียกร้องความสำคัญ “ถ้าไม่มีข้า ล้อคงไม่หมุนได้เร็วขนาดนี้!” มันกล่าวอย่างมั่นใจ แต่ทั้งม้าศึก คนขับรถม้า และฝูงชนต่างไม่มีใครรับรู้ถึงการมีอยู่ของมัน
เมื่อการแข่งขันดำเนินไป รถม้าคันนั้นเร่งความเร็วมากขึ้น ฝุ่นฟุ้งกระจายจนบดบังลู่วิ่ง แมลงวันที่เกาะอยู่บนล้อเริ่มรู้สึกถึงแรงลมที่หมุนวนรอบตัวมัน “อา! ข้าควบคุมล้อที่ยิ่งใหญ่นี้ได้!” มันคิด แต่ทันใดนั้น ล้อหมุนเร็วขึ้น แรงลมและฝุ่นที่รุนแรงทำให้มันเสียการทรงตัว
“โอ้ ไม่นะ!” แมลงวันร้องเสียงดัง มันถูกพัดปลิวออกจากล้อและลอยไปตามกระแสลม ก่อนจะกระแทกลงกับพื้นลู่วิ่งอย่างแรง ร่างเล็ก ๆ ของมันนอนนิ่งอยู่ท่ามกลางฝุ่นที่ยังคงตลบอบอวล ไม่มีใครเห็น หรือแม้แต่รับรู้ว่ามันเคยอยู่ที่นั่น
รถม้าคันนั้นยังคงแล่นไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง เสียงฝูงชนยังคงดังก้องในสนาม ล้อรถยังคงหมุนต่อไปโดยไม่มีผลกระทบใด ๆ จากแมลงวันที่เคยเกาะอยู่
แมลงวันที่เคยโอ้อวดว่าตัวเองสำคัญ กลับจบชีวิตลงอย่างไร้ค่าและไร้ผู้ใดรับรู้ว่ามันเคยอยู่ตรงนั้น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนว่า การโอ้อวดหรือพยายามทำตัวให้สำคัญในสถานการณ์ที่เราไม่มีบทบาทจริง อาจนำไปสู่ความอับอายและความไร้ค่าในที่สุด ความสำคัญไม่ได้มาจากการแสดงออก แต่คือการรู้จักคุณค่าที่แท้จริงของตนเองในสิ่งที่สมควร
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องแมลงวันบนล้อรถม้าศึก (อังกฤษ: The Fly on the Chariot Whee) นิทานเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นในภาษาละตินโดย ลอเรนเทียส แอ็บสเตเมียส (Laurentius Abstemius) และปรากฏใน Hecatomythium (1490) ภายใต้ชื่อ Musca et Quadrigae ถูกจัดลำดับอยู่ใน Perry Index ลำดับที่ 724 (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ)
กาบริเอเล แฟร์โน (Gabriele Faerno) ได้นำเรื่องนี้มาใส่ไว้ใน Centum Fabulae (1563) โดยทำให้ดูเหมือนว่ามีต้นกำเนิดจากนิทานอีสป แม้ว่าตัวบทจะใกล้เคียงกับเวอร์ชันของแอ็บสเตเมียส
ฟรานซิส เบคอน (Francis Bacon) ก็เข้าใจนิทานนี้ว่าเป็นของอีสปเช่นกัน โดยเขากล่าวในบทความ “On Vainglory” ว่า “อีสปได้แต่งไว้อย่างชาญฉลาดว่า แมลงวันเกาะอยู่บนเพลารถม้าและกล่าวว่า ‘ดูว่าฉันทำให้ฝุ่นฟุ้งขนาดไหน!’”
ต่อมา วลี “the fly on the coach wheel” ได้กลายเป็นสำนวนในภาษาอังกฤษที่หมายถึง “ผู้ที่คิดว่าตัวเองสำคัญยิ่งใหญ่ แต่ในความเป็นจริงกลับไม่มีความสำคัญเลย”