ในโลกนี้ หลายคนมักคิดว่าความยิ่งใหญ่เกิดจากการเหนือผู้อื่น แต่คำสอนของเต๋าบอกว่า คุณค่าที่แท้จริงเกิดจากใจที่มั่นคงและสงบ ไม่ใช่จากอำนาจหรือชื่อเสียง
มีนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหนึ่ง เล่าจื๊อสอนเกี่ยวกับสิ่งล้ำค่าในชีวิตที่ควรรักษาไว้ เรื่องราวนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ที่ดำรงอยู่ด้วยสิ่งล้ำค่าสามสิ่ง กับนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องสิ่งล้ำค่าสามสิ่ง

เนื้อเรื่องนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องสิ่งล้ำค่าสามสิ่ง
กาลหนึ่ง ยามค่ำคืนในศาลาเล็ก ๆ เล่าจื๊อนั่งอยู่กับศิษย์ แสงเทียนสาดผ่านหน้าต่าง ลมหนาวพัดเบา ๆ ทำให้แสงเทียนสั่นไหว เสียงนกราตรีดังแผ่ว ๆ จากป่าไกล ๆ เสียงเงียบสงัดคล้ายเรียกให้ใจนิ่ง
ศิษย์ก้มหน้าพูดอย่างสงสัย “อาจารย์ครับ… ในชีวิตของเรามีสิ่งใดบ้างที่ล้ำค่าและควรรักษาไว้เสมอ? บางครั้งข้าเห็นคนทำสิ่งใหญ่ แต่กลับสูญเสียบางอย่างไปโดยไม่รู้ตัว”
เล่าจื๊อพยักหน้าเบา ๆ “คำถามดี… สิ่งล้ำค่าที่ควรปกปักรักษาในชีวิต ไม่ใช่ชื่อเสียง ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ แต่เป็นคุณค่าที่อยู่ในใจของเราเอง ข้าจะยกตัวอย่างให้เจ้าฟัง ผ่านเรื่องของฝาแฝดสองคน เหลียนและหลง ทั้งคู่เกิดและเติบโตในบ้านเดียวกัน เรียนเหมือนกัน กินข้าวถ้วยเดียวกัน แต่หัวใจของเขาต่างกันอย่างสิ้นเชิง”
ศิษย์เงยหน้ามองด้วยความตั้งใจ “ต่างกันอย่างไรครับอาจารย์?”
เล่าจื๊อเริ่มยิ้มอย่างใจเย็น “เหลียน เป็นคนสงบ อ่อนโยน เรียนรู้ที่จะให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และไม่ถือตนเหนือใคร ส่วนหลง… เขาแข็งกร้าว มุทะลุ มุ่งแสวงหาอำนาจและชื่อเสียง และคิดว่าความยิ่งใหญ่เกิดจากการเหนือผู้อื่น แม้พวกเขาจะเติบโตจากรากเดียวกัน การเลือกทางใจต่างกัน ผลลัพธ์ชีวิตจึงต่างกัน”
แสงเทียนส่องใบหน้าเล่าจื๊อ เงาสะท้อนบนผนังศาลา ศิษย์เงียบฟัง น้ำเสียงเล่าจื๊อราวกับลมพัดผ่านใจผู้ฟัง
ค่ำคืนดำเนินไป เสียงเทียนลุกพรึ่บเบา ๆ ลมหนาวพัดผ่านหน้าต่าง เล่าจื๊อนั่งสงบอยู่กับศิษย์ แววตาเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความเข้าใจชีวิต
“เมื่อทั้งสองเติบใหญ่ เส้นทางของเขาก็เริ่มแตกต่างชัดเจน” เล่าจื๊อเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงบ
“เหลียนเลือกชีวิตเรียบง่ายและอ่อนโยน เขาแบ่งปันอาหารให้เพื่อนบ้าน แบ่งปันความรู้และแรงงานแก่ผู้ต้องการ แม้เขาจะไม่ได้ร่ำรวย หรือมีตำแหน่งสูง แต่หัวใจเขามั่นคงและอบอุ่น ผู้คนรักและเคารพเขา เพราะเขาไม่เคยคิดว่าสิ่งใดสูงกว่าผู้อื่น”
ศิษย์เงยหน้าถามด้วยความสงสัย “แล้วหลงล่ะครับอาจารย์? เขาเดินทางชีวิตอย่างไร?”
เล่าจื๊อถอนหายใจเบา ๆ “หลงมุ่งไปทางอำนาจและชื่อเสียง เขาแข็งแรงและกล้าแกร่งที่สุดในหมู่ผู้คน แต่หัวใจเขากลับว่างเปล่า แม้ได้ทุกสิ่ง ทรัพย์สมบัติ ชื่อเสียง ตำแหน่งสูง แต่ไม่มีใครรักหรือไว้วางใจเขา เขาละทิ้งสิ่งที่สำคัญที่สุดไปหมด คือสามสิ่งล้ำค่า ที่ข้าจะบอกเจ้าว่า…
ความอ่อนโยนทำให้เหลียนกล้าโดยไม่ต้องแข็งกร้าว
ความประหยัดทำให้เขาแบ่งปันได้โดยไม่พร่อง
การไม่ถือตนเหนือใครทำให้ผู้คนยกย่องอย่างแท้จริง
ส่วนหลงละทิ้งสิ่งเหล่านี้ ความทะเยอทะยานและความต้องการเหนือผู้อื่น ทำให้หัวใจเขาว่าง แม้โลกให้ทุกสิ่ง เขาก็ไม่มั่นคง ไม่สงบ และไม่อิ่มใจ
นี่แหละคือบทเรียนสำคัญ เจ้าต้องจำไว้ คุณค่าภายในใจล้ำค่ากว่าทรัพย์สมบัติและตำแหน่งสูงใด ๆ สามสิ่งล้ำค่าที่เหลียนรักษาไว้ พาเขาไปสู่ชีวิตที่มั่นคงและเต็มไปด้วยเกียรติสูงสุดส่วนหลง… การละทิ้งสิ่งเหล่านี้ทำให้เขาพ่ายแพ้และสูญเสียทั้งชีวิตแม้ภายนอกดูเหมือนสำเร็จ”
ศิษย์เงียบฟัง แววตาเริ่มเปล่งประกายด้วยความเข้าใจ ลมค่ำพัดผ่านใบไม้ เสียงน้ำไหลจากลำธารใกล้ ๆ คล้ายธรรมชาติกำลังยืนยันคำสอนของเล่าจื๊อ

ค่ำคืนยาวผ่านไป เสียงเทียนสั่นไหว ลมพัดเบา ๆ เล่าจื๊อนั่งสงบกับศิษย์ ย้ำความเงียบให้ใจนิ่ง
“เวลาผ่านไป เหลียนและหลงต่างเจอผลลัพธ์ของชีวิตที่ตนเลือก” เล่าจื๊อเริ่มกล่าว
“เหลียน แม้ชีวิตเรียบง่าย ไม่มีความมั่งคั่งมากมาย แต่ชาวบ้านรักและเคารพเขา ความอ่อนโยนทำให้เขากล้าได้โดยไม่ต้องแข็งกร้าว ความประหยัดทำให้เขาแบ่งปันได้โดยไม่พร่องและการไม่ถือตนเหนือใคร ทำให้เขาได้รับเกียรติสูงสุดอย่างแท้จริง”
“หลง… แม้ได้ทุกสิ่งที่โลกมอบ อำนาจ ชื่อเสียง และทรัพย์สมบัติ หัวใจเขาว่างเปล่า ผู้คนเกรงกลัวแต่ไม่รัก ไม่มีใครไว้ใจ ความทะเยอทะยานและความหยิ่งยโสทำให้เขาโดดเดี่ยว และแม้สิ่งที่เขาได้มา จะไม่มั่นคงและพร่องไปตามเวลา”
“นี่คือบทเรียนชัดเจน เจ้าจะเห็นว่าสามสิ่งล้ำค่า ความอ่อนโยน ความประหยัด และการไม่ยกตนเหนือใคร พาเหลียนไปสู่ชีวิตที่มั่นคงและเต็มไปด้วยเกียรติสูงสุด แต่การละทิ้งสิ่งเหล่านี้ทำให้หลงพ่ายแพ้ แม้ภายนอกจะเหมือนสำเร็จ”
ศิษย์เงียบฟัง แววตาเต็มไปด้วยความตระหนัก ค่ำคืนสงัด เสียงลมพัดและน้ำไหลรอบศาลาเหมือนธรรมชาติช่วยย้ำความจริง
เล่าจื๊อนั่งสงบกับศิษย์ แสงเทียนส่องใบหน้า ค่ำคืนนี้เงียบสงัด เสียงน้ำไหลและลมพัดผ่านคล้ายธรรมชาติกำลังฟังเขา
“เจ้าจะเห็นว่า ชีวิตของเหลียนและหลงเป็นบทเรียนชัดเจน” เล่าจื๊อเริ่มกล่าว
“เหลียนรักษาสามสิ่งล้ำค่า ความอ่อนโยน, ความประหยัด, และการไม่ถือตนเหนือใคร สิ่งเหล่านี้พาเขาไปสู่ชีวิตที่มั่นคง มีความสุข และได้รับความเคารพจากทุกคน”
“ส่วนหลง… ละทิ้งสิ่งเหล่านี้ มุ่งแต่ชื่อเสียงและอำนาจ แม้โลกมอบทุกสิ่งให้ เขากลับไม่สงบและไม่มั่นคง หัวใจว่างเปล่า และผู้คนไม่ไว้วางใจ”
เล่าจื๊อกล่าวปิดท้าย “เจ้าจงจำไว้ ศิษย์เอ๋ย สามสิ่งล้ำค่าไม่ได้ทำให้เจ้ารวยหรือมีอำนาจโดยตรง แต่ทำให้เจ้ามั่นคงในชีวิต สร้างความเคารพและเกียรติสูงสุดโดยไม่ต้องแข่งขัน”
“ความอ่อนโยนแท้จริงสามารถชนะได้แม้ในสถานการณ์ยากลำบาก และผู้ที่ดำรงอยู่ในความอ่อนโยน ฟ้าจะปกปักรักษาเขาอย่างแท้จริง”
“เพราะแม้ชีวิตจะมอบทุกสิ่งให้กับคนที่ละทิ้งคุณค่าในใจ สิ่งที่แท้จริงและมั่นคงจะกลับมาเฉพาะผู้ที่รักษาสามสิ่งล้ำค่าไว้เท่านั้น”
ศิษย์เงียบฟัง น้ำเสียงเล่าจื๊อเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ค่ำคืนนี้เงียบสงัด เสียงธรรมชาติรอบศาลาช่วยย้ำความจริงของบทเรียน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ความอ่อนโยน ความประหยัด และการไม่ถือตนเหนือผู้อื่น คือสามสิ่งล้ำค่าที่พาไปสู่ชีวิตที่มั่นคงและได้รับเกียรติสูงสุด นี่คือแก่นของสิ่งล้ำค่าสามสิ่ง
ในนิทาน เล่าจื๊อสอนผ่านเรื่องของฝาแฝด เหลียนผู้รักษาสามสิ่งนี้จึงได้ชีวิตสงบและผู้คนเคารพ ส่วนหลงผู้ละทิ้งสิ่งเหล่านี้แม้มีชื่อเสียงและอำนาจ กลับไม่มั่นคงและโดดเดี่ยว ผลลัพธ์ชีวิตของทั้งสองต่างกันอย่างชัดเจน
อ่านต่อ: นิทานเต้าเต๋อจิงแฝงข้อคิดดี ๆ และปรัชญาชีวิตสุดลึกซึ้งในวิถีเต๋าของเล่าจื๊อ
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องสิ่งล้ำค่าสามสิ่ง (อังกฤษ: Three Precious Things) นิทานเรื่องนี้มาจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิงบทที่ 67 ซึ่งกล่าวถึงการรักษาสิ่งล้ำค่าอันเป็นแก่นแท้ของวิถีเต๋า ความอ่อนโยน ความประหยัด และการไม่ถือตนเหนือผู้อื่น เป็นคุณสมบัติของใจที่นำไปสู่ความมั่นคงและเกียรติสูงสุด เพราะผู้ที่เข้าใจและดำรงอยู่ในคุณสมบัติเหล่านี้ จะไม่หลงไปกับความทะเยอทะยานหรืออำนาจภายนอก เล่าจื๊อได้บันทึกไว้ว่า:
สิ่งล้ำค่าทั้งสามสิ่ง
ทั่วทั้งหล้าล้วนกล่าวว่า “เต๋าของข้านั้นยิ่งใหญ่ แต่ดูเหมือนต่ำต้อยกว่าหลักคำสอนอื่น ๆ”
ทว่าเพราะมันยิ่งใหญ่นั่นเอง มันจึงดูต่ำต้อย หากมันเป็นเพียงคำสอนเล็ก ๆ เหมือนของอื่น โลกคงเข้าใจและลืมมันไปนานแล้วแต่สิ่งที่ข้ารักษาไว้อย่างมั่นคง มีอยู่สามสิ่ง สิ่งล้ำค่าทั้งสาม
หนึ่ง คือ “ความอ่อนโยน”
สอง คือ “ความประหยัด”
สาม คือ “การไม่ยกตนเหนือผู้อื่น”ด้วยความอ่อนโยน ข้าพเจ้าจึงกล้าหาญได้โดยไม่ต้องแข็งกร้าว
ด้วยความประหยัด ข้าพเจ้าจึงสามารถให้โดยไม่ขาดแคลน
และด้วยการถอยให้ผู้อื่น ข้าพเจ้าจึงกลับได้รับเกียรติสูงสุดแต่ในวันนี้ ผู้คนละทิ้งความอ่อนโยน เพื่อแสวงหาความกล้า
ละทิ้งความประหยัด เพื่อแสวงหาความฟุ่มเฟือย
ละทิ้งความถ่อมตัว เพื่อแสวงหาความเป็นผู้นำ
สุดท้าย สิ่งเหล่านี้นำพาเพียง “ความพินาศ”จงจำไว้เถิด ความอ่อนโยนแท้จริงสามารถชนะได้แม้ในสนามรบ
และผู้ที่ดำรงอยู่ในความอ่อนโยนนั้น ฟ้าก็จะปกปักรักษา ด้วยความอ่อนโยนนั้นเอง
เล่าจื๊อสอนว่า ความเรียบง่าย ความอดทน ความเมตตากรุณา สามสิ่งนี้คือสมบัติล้ำค่าที่สุดของคุณ ด้วยการกระทำและความคิดที่เรียบง่าย คุณก็จะกลับคืนสู่ต้นกำเนิดแห่งการดำรงอยู่ ด้วยความอดทนต่อทั้งมิตรและศัตรู คุณก็จะยอมรับในสิ่งต่างๆ ด้วยความกรุณาต่อตนเอง คุณก็จะคืนดีกับสรรพสัตว์ในโลกได้
นิทานเรื่องนี้จึงถูกแต่งขึ้นเพื่อสะท้อนคำสอนในบทดังกล่าว เปรียบชีวิตของผู้ที่ยึดมั่นในสิ่งล้ำค่าเหล่านี้กับผู้ที่ละทิ้ง
คติธรรม: “ความอ่อนโยนทำให้กล้า ความประหยัดทำให้ให้ได้โดยไม่พร่อง และการไม่ถือตนเหนือใครพาไปสู่เกียรติสูงสุด”

