ในโลกนี้ หลายคนมักคิดว่าความยิ่งใหญ่เกิดจากการอยู่เหนือผู้อื่น หรือแข่งขันเพื่อเด่น แต่คำสอนของเต๋ากลับชี้ว่าการวางตัวอยู่เบื้องหลังอย่างสงบ และยอมรับทุกสิ่งตามธรรมชาติ คือหนทางของพลังที่แท้จริง
มีนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหนึ่ง ที่เล่าจื๊อออกเดินทางสู่ทะเล เพื่อค้นหาความหมายของชีวิต ผ่านสายตาที่สังเกตภูเขา คลื่น และน้ำที่ไหลรวมกันอย่างสงบ นิทานเรื่องนี้สะท้อนวิถีแห่งเต๋าโดยไม่บังคับใคร กับนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องวางตนไว้เบื้องหลัง

เนื้อเรื่องนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องวางตนไว้เบื้องหลัง
เล่าจื๊อยืนอยู่บนท่าเรือ มองคลื่นทะเลที่กระทบฝั่ง เขาหายใจลึก ก่อนจะก้าวขึ้นบนเรือประมงลำเล็กที่รออยู่
“วันนี้ข้าจะออกไปหาความจริงของชีวิตจากทะเล” เขาเอ่ยกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเบา ๆ
เรือแล่นออกไปกลางทะเล ใบไม้ของเกาะเล็ก ๆ และภูเขาที่เรียงรายสองข้างทางเหมือนแข่งขันกันสูงขึ้นเพื่อแตะท้องฟ้า แต่ละยอดสูงขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับไม่เคยพอใจในความสูงของตัวเอง
เล่าจื๊อจ้องมองและคิดในใจ “ภูเขาเหล่านี้พยายามแข่งขันสูงขึ้นเพื่อใคร? เพื่อฟ้า หรือเพื่อความภาคภูมิใจของตัวเอง?”
แต่เมื่อสายตาของเขามองลงไปเบื้องล่าง เขาเห็นทะเลกว้างใหญ่สงบเงียบ น้ำสีครามรองรับเงาของภูเขาทุกลูก ไม่มีการกระทบกระเทือน ไม่มีความขัดแย้ง ทะเลเพียงรับไว้ทั้งหมด
เขาก้มมองน้ำ มือสัมผัสพื้นเรือที่แกว่งไปตามคลื่น “นี่แหละ… ผู้ที่อยู่ต่ำสุดกลับมั่นคงที่สุด เพราะไม่มีที่ใดให้ตกไปอีกแล้ว”
เล่าจื๊อเงยหน้ามองฟ้าอีกครั้ง คลื่นทะเลข้างลำเรือสะท้อนแสงอาทิตย์สาดเป็นประกายราวกับน้ำกำลังเรียนรู้เขา เขารู้สึกเหมือนทะเลกำลังบอกบทเรียนบางอย่าง
“ข้าออกเดินทางมาไกล เพื่อจะได้เรียนรู้ว่าความยิ่งใหญ่ไม่ใช่การอยู่สูงที่สุด แต่คือการอยู่ต่ำที่สุดและยังสามารถรับทุกสิ่งได้” เขาคิดอย่างสงบ
เรือแล่นต่อไป น้ำทะเลสงบคลื่นพัดเบา ๆ ลำธารจากเกาะและภูเขาหลายสายไหลลงทะเลอย่างต่อเนื่อง น้ำใสไหลรวมเป็นหนึ่งเดียว กลายเป็นส่วนหนึ่งของทะเลกว้างใหญ่
เล่าจื๊อนั่งพิงขอบเรือ มองสายธารที่ไหลลงทะเล “แต่ละสายต่างพยายามไปให้ไกลที่สุด ต่างแข่งขันกัน แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ต้องกลับมาที่ทะเล”
ทะเลไม่ได้ต้านทาน ไม่พยายามแข่งขัน แต่กลับรับทุกสิ่งที่ไหลเข้ามา เขาเริ่มเข้าใจในความสงบอันยิ่งใหญ่ของทะเล
“ถ้าข้าเป็นทะเล ข้าจะไม่ต้องต่อสู้กับใคร ไม่ต้องแข่งขัน แต่สามารถรวมทุกสิ่งไว้ในตัวเอง” เขาคิด “ความยิ่งใหญ่ไม่ได้อยู่ที่การอยู่สูงกว่าใคร แต่เกิดจากการอยู่ต่ำกว่าอย่างสงบ”
ลมทะเลพัดผ่านใบหน้า ความเงียบของน้ำช่วยให้จิตใจเขาสงบลง เขาเห็นคลื่นเล็ก ๆ ที่เข้ามาปะทะขอบเรือแล้วค่อย ๆ ถอยกลับ ทุกอย่างเป็นไปอย่างอิสระแต่มีระเบียบ
“นี่แหละหนทางของเต๋า” เล่าจื๊อคิด “การวางตนเบื้องหลัง ยอมรับทุกสิ่ง และไม่ต่อสู้ คือพลังที่ไม่มีใครทำลายได้”
เขายังคงมองน้ำ เงาของภูเขาสะท้อนลงไปในทะเล ความสงบและความลึกของน้ำค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในจิตใจของเขา

เล่าจื๊อนั่งบนเรือกลางทะเล คลื่นพัดเบา ๆ ลมทะเลพัดผ่านผมและเสื้อของเขา เขาเงยหน้ามองท้องฟ้ากว้างและน้ำที่ทอดตัวไกลสุดสายตา
“ทะเลนี้… มันไม่เคยแข่งขันกับใครเลย” เขาพูดเบา ๆ กับตัวเอง “แต่กลับมีพลังยิ่งใหญ่ที่สุด”
เขาสังเกตว่าคลื่นแต่ละลูกแยกตัวไปบ้างรวมตัวกันบ้าง แต่ไม่เคยบังคับหรือแย่งชิงน้ำอื่น ๆ ทุกสิ่งไหลรวมลงสู่ทะเลอย่างสงบและเป็นระเบียบ
“นี่แหละ… ผู้ที่ยอมอยู่ต่ำสุด ไม่ต้องพยายามเด่นเหนือใคร แต่สามารถรับทุกสิ่งและพยุงทุกสิ่งไว้ได้” เขาเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่นิ่ง แต่หนักแน่น
ลมพัดคลื่นเล็ก ๆ ให้กระทบขอบเรือ แต่ทะเลก็เพียงรับ คลื่นถอยกลับอย่างสงบ เล่าจื๊อคิด “ความยิ่งใหญ่แท้จริงไม่ใช่การต่อสู้หรือการแข่งขัน แต่คือความสงบที่สามารถพยุงทุกสรรพสิ่งได้”
เขานั่งนิ่ง เงยหน้ามองเงาของภูเขาที่สะท้อนลงในน้ำ น้ำทะเลรับทุกเงาโดยไม่เคยขัดใจ คล้ายทะเลกำลังสอนเขาอีกครั้ง
“ข้าต้องเป็นเหมือนทะเล” เขาคิด “ไม่จำเป็นต้องเด่น ไม่จำเป็นต้องแข่งขัน แค่รับทุกสิ่งด้วยความสงบ… นี่คือพลังที่ไม่มีใครทำลายได้”
เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มตกลง ท้องฟ้าสีทองสะท้อนลงในน้ำ เล่าจื๊อหยุดเรือ พลิกมือสัมผัสน้ำทะเลที่ไหลเข้ามาเบา ๆ
“ข้าเห็นแล้ว… สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ได้อยู่สูงเหนือใคร แต่กลับอยู่ต่ำสุด” เขาพูดเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มสงบ “ทะเลสอนให้รู้ว่า การยอมอยู่เบื้องหลัง การสงบรับทุกสิ่ง และไม่แย่งชิง คือพลังที่แท้จริง”
เขามองภูเขาที่สะท้อนในน้ำอีกครั้ง และหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเข้าใจ “ผู้ที่อยู่ต่ำสุด… ไม่มีสิ่งใดกลืนกินได้อีก ไม่มีสิ่งใดทำลายเขาได้ เพราะไม่มีที่ใดให้ตกไปอีกแล้ว”
เล่าจื๊อหันไปมองทะเลไกลสุดสายตา คลื่นที่กระทบเรือและสะท้อนแสงทองในยามเย็น กลายเป็นบทเรียนอันชัดเจนในใจของเขา
“นี่คือเต๋า… หนทางแห่งการวางตนไว้เบื้องหลัง” เขาพูดอย่างเงียบ ๆ แต่มั่นคง น้ำทะเลและคลื่นราวกับยืนยันสิ่งที่เขาตระหนัก
เขานั่งอยู่บนเรือ กลางทะเลกว้างใหญ่ ใจสงบเหมือนทะเล พลังของความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงไม่ใช่การอยู่สูง แต่เป็นการยอมอยู่ต่ำสุดและรับทุกสิ่งด้วยใจสงบ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.. ความยิ่งใหญ่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการอยู่สูงเหนือใคร หรือพยายามเด่นเหนือผู้อื่น แต่เกิดจากการวางตัวอยู่ต่ำกว่าอย่างสงบ ยอมรับทุกสิ่งที่เข้ามาโดยไม่แข่งขันหรือแย่งชิง เมื่อใดที่เราเข้าใจและปฏิบัติได้เช่นนี้ เราจะมั่นคง ไม่ถูกทำลาย และสามารถพยุงสิ่งอื่นไว้ได้ นี่คือแก่นของการวางตนไว้เบื้องหลัง
เล่าจื๊อติดเรือออกทะเล มองภูเขาและเกาะที่แข่งขันกันสูงขึ้นแตะฟ้า แต่เบื้องล่างคือทะเลเงียบสงบที่รองรับเงาของทุกสิ่ง น้ำจากลำธารหลายสายไหลลงทะเลอย่างต่อเนื่อง และทะเลรับทุกอย่างโดยไม่ขัดขืน เขาเริ่มเข้าใจว่าผู้ที่อยู่ต่ำสุดย่อมมั่นคงที่สุด เพราะไม่มีที่ใดให้ตกต่ำไปอีก เขานั่งอยู่กลางทะเล มองคลื่น ลม และเงาเขาที่สะท้อนลงน้ำ เรียนรู้ว่าความสงบและการยอมอยู่เบื้องหลัง เช่นเดียวกับทะเล คือพลังสูงสุดที่แท้จริง
อ่านต่อ: นิทานเต้าเต๋อจิงแฝงข้อคิดดี ๆ และปรัชญาชีวิตสุดลึกซึ้งในวิถีเต๋าของเล่าจื๊อ
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องวางตนไว้เบื้องหลัง (อังกฤษ: Putting One’s Self Last) นิทานเรื่องนี้มาจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิงบทที่ 66 ซึ่งกล่าวถึงการ “วางตนไว้เบื้องหลัง” อันเป็นแก่นแท้ของวิถีเต๋า ความยิ่งใหญ่และความมั่นคงไม่ได้เกิดจากการอยู่สูงเหนือผู้อื่น หรือการพยายามเด่นเหนือใคร แต่เกิดจากการยอมอยู่ต่ำกว่าอย่างสงบ เมื่อตนอยู่ต่ำสุดและรับทุกสิ่งโดยไม่แข่งขัน สรรพสิ่งรอบตัวจะถูกบรรจุและพยุงไว้อย่างเป็นระเบียบ เล่าจื๊อได้บันทึกไว้ว่า:
การวางตนไว้เบื้องหลัง
แม่น้ำและท้องทะเลสามารถรับสายน้ำจากหุบเขาน้อยใหญ่ได้ทั่วทุกสารทิศ ก็เพราะพวกมันอยู่ในที่ต่ำกว่า นี่เองคือเหตุผลที่พวกมันกลายเป็น “ราชาแห่งสายน้ำทั้งหลาย” ความยิ่งใหญ่ของทะเลไม่ได้มาจากการอยู่สูงกว่าผู้อื่น แต่มาจากการยอมอยู่ต่ำกว่าอย่างสงบ
ฉันใดก็ฉันนั้น ผู้ปกครองหรือปราชญ์ผู้มีปัญญา เมื่อปรารถนาจะอยู่เหนือผู้คน เขากลับพูดอย่างถ่อมตน และเมื่อปรารถนาจะนำทางผู้อื่น เขากลับยืนอยู่เบื้องหลัง เพื่อให้คนอื่นก้าวไปข้างหน้า
ด้วยเหตุนี้ แม้เขาจะอยู่ในตำแหน่งสูงกว่า ผู้คนก็ไม่รู้สึกว่าถูกกดทับ และแม้เขาจะนำหน้า แต่ไม่มีใครรู้สึกว่าตนถูกลดคุณค่า ทุกคนกลับยินดีเชิดชูเขา ด้วยความเคารพที่เกิดจากใจ
เพราะเขาไม่แย่งชิง ไม่แข่งขันกับใคร จึงไม่มีใครสามารถแข่งขันกับเขาได้เลย นี่คือพลังของการวางตนไว้เบื้องหลัง หนทางแห่งเต๋าที่ผู้ยิ่งใหญ่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง
โดยเล่าจื๊อสอนว่า ผู้ที่เข้าใจหลักการนี้ย่อมเข้าถึงความมั่นคง ไม่หวั่นไหวไปกับความเปลี่ยนแปลงภายนอก รู้จักความอดทน ความสงบ และการให้ความสำคัญกับผู้อื่นก่อนตนเอง จิตใจจะกว้างใหญ่ดุจทะเล และสามารถรวมสิ่งต่าง ๆ ไว้ด้วยกันได้อย่างไม่ถูกทำลาย ทั้งหมดนี้คือพลังแห่งการวางตนไว้เบื้องหลัง
นิทานเรื่องนี้จึงถูกแต่งขึ้นเพื่อสะท้อนคำสอนในบทดังกล่าว โดยเปรียบทะเลสงบกับผู้ที่ยอมอยู่ต่ำสุด แม้ผู้อื่นจะแข่งขันหรือพยายามสูงขึ้น แต่ผู้ที่อยู่ต่ำสุดกลับมั่นคงและมีพลังในตัวเองเสมอ
คติธรรม: “ผู้ที่ยอมอยู่ต่ำสุด ย่อมมั่นคงและสงบ ผู้ที่เปิดใจรับทุกสิ่งโดยไม่แข่งขัน ไม่แย่งชิงใคร จะกลายเป็นดั่งทะเลกว้างใหญ่ที่พยุงทุกสิ่งไว้ด้วยความสงบ และไม่มีสิ่งใดทำลายได้”

